เปิดขั้นตอนลงทะเบียนร่วมโครงการ ‘ร้านยาสุขกาย สบายกระเป๋า’ 14 ต.ค.นี้ 

กรมการค้าภายใน ชี้ ช่วยลดค่าครองชีพ เปิดทางประชาชนซื้อยาภายนอกโรงพยาบาล จากร้านยา – แอปพลิเคชัน สามารถเปรียบเทียบราคา ตัดสินใจได้ด้วยตนเอง

วันนี้ (11 ต.ค. 68) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ชี้แจงแนวทางเปิดให้ร้านยาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ร้านยาสุขกาย สบายกระเป๋า หลัง กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดทางให้ผู้ป่วยโรงพยาบาลเอกชนเลือกซื้อยาจากร้านยาภายนอก ตามทิศทางการขับเคลื่อน Quick Big Win เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดย อย. เปิดให้ร้านยาที่มีความพร้อมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแบบสมัครใจตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.นี้ ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ อย. จัดทำขึ้น โดยมีแนวทางดังนี้

1. ร้านขายยาแผนปัจจุบันเกือบ 20,000 แห่งทั่วประเทศ มีความพร้อมในการจัดบริการจ่ายยาตามใบสั่งยาไม่เท่ากัน (บางร้านขายยาไม่เคยมีใบสั่งยามาที่ร้านมาก่อนเลย) เกรงว่า เมื่อผู้ป่วยถือใบสั่งยาแล้วไปรับบริการร้านยาที่ไม่พร้อม จะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ หรือได้รับบริการไม่ดี ดังนั้น จึงเห็นร่วมกันว่าควรมีกระบวนการแนะนำร้านยาที่มีความพร้อมในการให้บริการ เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับประชาชนที่จะถือใบสั่งยา ไปซื้อยาที่ร้านยา ไม่ลิดรอนสิทธิผู้ใด ดำเนินการโดยสมัครใจ

    2. ร้านยาที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ต้องมีความพร้อมอย่างน้อย 5 ด้าน ดังนี้

    • พร้อมในการจัดหายาให้ครบถ้วน และถูกต้องตามใบสั่งยาฯ

    • พร้อมในการให้ข้อมูลร้านยาเพื่อการประชาสัมพันธ์และการสอบถาม ก่อนเข้ามารับบริการ

    • พร้อมในการติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลเอกชน หากกรณีมีปัญหาในใบสั่งยา

    • พร้อมที่จะเคร่งครัดกับมาตรฐานการจ่ายยาตามใบสั่งฯ เพื่อให้ความเชื่อมั่นของผู้มารับบริการ

    • พร้อมในการพัฒนาและปรับปรุงบริการ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลและสนับสนุนจากสมาคมวิชาชีพ และสภาวิชาชีพฯ

    3. ขั้นตอนการลงทะเบียนถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะจะแสดงเจตนาและแสดงความมุ่งมั่น ที่จะเตรียมตัวเองให้เกิดความพร้อมในการให้บริการจ่ายยาตามใบสั่งยา และสมาคมวิชาชีพ สภาวิชาชีพ มีข้อมูลสำหรับการกำกับดูแล และ สนับสนุนให้เฉพาะเจาะจง ส่งผลให้ร้านยาให้บริการได้มาตรฐาน ราคาเหมาะสม สมเจตนารมณ์ของโครงการ รวมถึงเพื่อแสดงความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์สำหรับผู้มารับบริการ

    4. สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้ ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ อย. จัดทำขึ้น ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยคาดว่าใช้เวลาลงทะเบียนไม่เกิน 5 นาที ตั้งแต่ 14 ต.ค.68 เป็นต้นไป

    5. ร้านยาทั่วไปที่ไม่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ สามารถรับใบสั่งยา จ่ายยาตามใบสั่งได้ แต่ขอให้กรุณาเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ให้พร้อม ทั้งนี้เพื่อความคุ้มค่า สมประโยชน์ของผู้มารับบริการ

    6. ร้านยาที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการทุกร้าน สามารถรับใบสั่งยา และจ่ายยาตามใบสั่งฯ โดยเภสัชกร ณ ร้านยา ได้อยู่แล้วเป็นพื้นฐาน แต่ก็อาจจะมีบริการ Telepharmacy ขึ้นมาเป็นบริการเสริม เป็นทางเลือกเพื่ออำนวยความสะดวกเพิ่มเติมได้ตามความสมัครใจ แต่จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ อย. และ สภาเภสัชกรรมกำหนด

    วิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สภาเภสัชกรรม สมาคมเภสัชกรรมชุมชน สมาคมผู้ประกอบการร้านยารวมใจไทย สมาคมร้านขายยา และผู้ประกอบการร้านขายยารายใหญ่ทั่วประเทศ 11 แบรนด์ Pharmax, Icare, Super Drug, Fascino, Save Drug, ร้านยากรุงเทพ, Pure Pharmacy (ในเครือบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์), Exta Plus (ในเครือซีพี ออลล์), Boots, Tops Care และร้านยาโลตัส

    และ 8 แอปพิเคชัน ที่ให้บริการจำหน่ายยาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Applications) เข้าร่วมด้วย ได้แก่ Telehealth, ยาพร้อม, PharmCare, AskMacy by Fascino, ร้านยากรุงเทพ, All Pharmacy และ BIGYA ร่วมกันกว่า1,600 แห่ง ซึ่งมีเภสัชกรประจำให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องว่าโครงการนี้จะเป็นการยกระดับระบบสุขภาพของประชาชนให้มีมาตรฐานเดียวกันกับโรงพยาบาลเอกชน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านยาให้กับประชาชนในวงกว้าง 11 เครือข่ายโรงพยาบาล 354 แห่ง

    Author

    Alternative Text
    AUTHOR

    The Active

    กองบรรณาธิการ The Active