รมว.สมศักดิ์ ขอเวลาทำการบ้าน รับปากช่วยติดตามให้ ขณะที่ สปสช. เผยเร่งเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ กทม. ยืนยันแจ้งโรงพยาบาลไปหลายรอบแล้ว แม้ไม่มีใบส่งตัว สปสช. ก็จ่าย
วันนี้ (15 พ.ค. 67) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช. ) กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนระบบบัตรทองในกรุงเทพมหานคร ยื่นหนังสือต่อ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้แก้ปัญหาการเข้าใช้สิทธิบัตรทองใน กทม. โดยระบุว่า หลัง สปสช. เปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงินให้คลินิกชุมชนอบอุ่นใน กทม. ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา และกำหนดให้ผู้รับบริการจำเป็นต้องใช้บริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิเพื่อขอใบส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรับส่งต่อ ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยที่เคยมีนัดกับโรงพยาบาล เนื่องจากคลินิกชุมชนอบอุ่นยกเลิกใบส่งตัวที่ออกก่อน วันที่ 1 มี.ค. 2567 และโรงพยาบาลรับส่งต่อให้ผู้รับบริการกลับไปรับใบส่งตัวก่อนเข้ารับบริการ
ภายหลังการกลับไปรับใบส่งตัวที่คลินิกชุมชนอบอุ่นต้นสังกัด พบว่าคลินิกไม่ยอมส่งตัวผู้ป่วยไปรับบริการตามนัด ไม่ส่งผู้ป่วยไปรับบริการที่โรงพยาบาลที่เคยรักษาเดิม หรือกำหนดข้อจำกัดการส่งต่อขึ้นเอง เช่น ออกใบส่งตัวเพียงวันละ 4 ใบ จำกัดระยะเวลาการใช้ใบส่งตัว ส่งผลให้ผู้ป่วยที่เคยมีนัดเข้ารับรักษาพยาบาลไม่สามารถเข้าถึงบริการแม้จะเป็นโรคที่คลินิกชุมชนอบอุ่นไม่สามารถรักษาได้ เช่น โรคไต โรคมะเร็ง โรคเนื้องอกในสมอง หรือโรคกระดูกสันหลังที่มีนัดผ่าตัด
“แม้มีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมาก แต่เรื่องร้องเรียนยังไม่ได้รับการแก้ไขทางกลุ่มฯ ขอทวงถามถึงความคืบหน้าจากข้อเรียกร้องเดิม และขอให้ สปสช. ยกเลิกใบส่งตัวที่ออกจากคลินิคชุมชนอบอุ่น และให้กลับไปใช้ระบบการจ่ายเงินแบบเดิมก่อน วันที่ 1 มีนาคม 2567 ในระหว่าง สปสช. จะเปลี่ยนระบบเป็นบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่”
‘สมศักดิ์’ ขอเวลาทำการบ้าน
สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กทม. จะเป็นพื้นที่สุดท้ายของการดำเนินโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ เนื่องจากมีคลินิก และ โรงพยาบาลของเอกชนเป็นจำนวนมาก ต้องทำความเข้าใจหลากหลาย แต่เขตต่างจังหวัดคนไม่ได้เยอะเหมือน กทม. จึงได้นำร่องไปก่อน ยอมรับว่ามีของที่ต้องปรับ เป็นข้อมูลไว้สำหรับเมืองใหญ่ แต่สำหรับ กทม. ที่ประชุมก็มีมติแล้วว่าจะเริ่มในเดือนกันยายน แต่จะดูว่าปรับ จะเพิ่ม จะลด อย่างไรหรือไม่
“ผมเพิ่งมาทำงานได้ไม่ถึงอาทิตย์ แต่จะช่วยตามให้ จะพยายามฟังให้เข้าใจ แล้วจะไปติดตาม”
สมศักดิ์ เทพสุทิน
The Active ถามย้ำว่า นโยบายรักษาทุกที่ กทม. จะเริ่มเดือน ก.ย.นี้ทันหรือไม่ สมศักดิ์ บอกว่า ตนอ่านจากรายงานที่ประชุม ก็เล่าให้ฟัง ตามข้อมูลเบื้องต้น เมื่อถามต่อว่าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ประชาชนอย่างไร สมศักดิ์ ถาม เลขาธิการ สปสช. ต่อว่า มีข้อแนะนำอย่างไร
เร่งเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพ
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. บอกว่า เรื่องใบส่งตัวเพื่อรู้ประวัติการรักษาผู้ป่วย ขณะนี้ ทาง กทม. และ สปสช.ร่วมแก้ปัญหาโดยการเชื่อมข้อมูลอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเริ่มโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ เข้าใจว่าเดือนนี้กำลังเชื่อมกัน จะช่วยลดปัญหาการรับใบส่งตัวเพื่อต้องการรู้ประวัติการรักษา ส่วนการต้องการใบส่งตัวเพื่อยืนยันว่า สปสช. จะจ่ายเงินหรือไม่ หรือคลินิกต้องจ่ายเงินหรือไม่ ก็ยืนยันอีกครั้งว่า ถ้าไม่มีใบส่งตัวเมื่อไปโรงพยาบาลแล้ว สปสช. ก็มีกลไลจ่ายเงินให้กับโรงพยาบาลอยู่
เมื่อถามถึงความเป็นจริงอาจไม่ใช่อย่างนั้น นพ.จเด็จ ยอมรับว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. เป็นต้นมา มีการร้องเรียน เข้ามา 4,800 เรื่อง ขณะนี้คุยกับทางผู้ป่วยและคลินิก เคลียร์ไปแล้ว 4,100 เรื่อง เหลือ 572 เรื่อง ที่จะต้องนำเข้าคณะกรรมการควบคุมฯ คงจะบรรเทาปัญหาได้บ้าง
ถามต่ออีกว่าจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายไหม เลขาธิการ สปสช. บอกว่า คงต้องรอ รมต.สมศักดิ์ ศึกษาตรงนี้ และขอนโยบายจากท่านด้วย
แนะยกเลิกสัญญาคลินิกฯ
ด้าน อภิวัฒน์ กวางแก้ว เครือข่ายมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ฯ เปิดเผยว่า อยากเห็นมาตรการการใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการจ่ายใหม่ หรือกลับมาจ่ายแบบเดิม มาจากความต้องการของคลินิก ซึ่งหากมีปัญหาควรยกเลิกสัญญา ที่ผ่านมาคลินิกชอบขู่ สปสช. เสมอ แล้วก็เอาผู้ป่วยในระบบเป็นตัวประกัน อย่างกรณีเรื่องใบส่งตัว
“เข้าใจว่าท่านรัฐมนตรีเพิ่งมา แต่อยากฝากว่านี่น่าจะเป็นวาระร้อน และเร่งด่วน เกี่ยวข้องกับชีวิตคนที่อยู่ใน กทม. และคนส่วนใหญ่เป็นคนจน ลำบาก ในขณะเดียวกันเขายังติดป้าย บัตรทองเอาเงินไปไหนหมด ชาวบ้านก็ตั้งคำถามว่าทำไม สปสช. ไม่มีเงินให้เขา”
อภิวัฒน์ กวางแก้ว
ขณะเดียวกัน รมว.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟัง รับปากจะไปทำการบ้าน หาคำตอบให้ อยากบอกว่า เป็นเรื่องใหม่สำหรับการทำงานซึ่งใช้เวลาสั้นมาก แต่ก็ดีใจที่มาสะท้อนให้ได้ยิน ก็ต้องรีบทำให้เร่งด่วน
