จี้ 3 กระทรวงหลัก เข้มจัดการ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ – นายกฯ ขีดเส้นปราบ 30 วัน ยังไม่พอ!

‘นายกสภาครูและผู้ปกครองแห่งประเทศไทย’ ชี้ มาตรการปราบปรามภายใน 30 วันของรัฐบาล เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ยังไม่เพียงพอ เผย ปัญหาเร่งด่วน คือ บุหรี่ไฟฟ้า ถูกออกแบบให้แฝงตัวในรูปแบบของใช้ทั่วไป ยากต่อการสังเกต หวั่นไทยเผชิญวิกฤตเหมือนฟิลิปปินส์ หากเปิดให้นำเข้าถูกกฎหมาย​​​​​​​​​​​​​​​​

นิวัตร นาคะเวช นายกสภาครูและผู้ปกครองแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ The Active ว่า สภาครูและผู้ปกครองแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรวิชาชีพที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 โดยมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะในประเด็นการป้องกันและต่อต้านยาเสพติด รวมถึง บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังแพร่ระบาดในหมู่เยาวชน

ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สภาครูและผู้ปกครองฯ ได้ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย เช่น ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) และสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ในการรณรงค์และให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

นิวัตร นาคะเวช นายกสภาครูและผู้ปกครองแห่งประเทศไทย

นิวัตร ระบุว่า ปัจจุบันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้ามีการออกแบบที่ดึงดูดใจและใช้งานง่าย โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมาในรูปแบบที่คล้ายของใช้ประจำวัน เช่น กล่องนม หรือของเล่น ทำให้ผู้ปกครองสังเกตได้ยาก

จากข้อมูลในต่างประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งอนุญาตให้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมายเมื่อ 4 ปีที่แล้ว พบว่า ปัจจุบันมีประชากรกว่า 44% ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ส่งผลให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการรักษาผู้ป่วยจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า

นิวัตร ยังบอกด้วยว่า นโยบายของรัฐบาลที่ให้ปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าภายใน 30 วัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ยังขาดแนวทางป้องกันในระยะยาว โดยเสนอให้ภาครัฐเน้นมาตรการเชิงป้องกันมากขึ้น เช่น การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและเด็ก การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงให้ กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ กระทรวงมหาดไทย มีบทบาทมากขึ้นในการรับมือกับปัญหานี้

สำหรับแนวคิดของ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการให้อำนาจครูและฝ่ายปกครองตรวจค้นนักเรียนได้ง่ายขึ้นนั้น นิวัตร แสดงความกังวลว่า อาจกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเด็ก และนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายได้

“ปัจจุบัน ครูไม่มีอำนาจค้นตัวเด็ก เพราะติดข้อกฎหมายเรื่องสิทธิและเสรีภาพ การแก้ปัญหานี้ต้องรอบคอบ ถ้าจะให้โรงเรียนมีอำนาจมากขึ้น ต้องมีมาตรการรองรับ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาตามมา”

นิวัตร นาคะเวช 

ส่วนโรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เข้มแข็งอยู่แล้ว แต่ยังขาดการสนับสนุนจากภาครัฐในเชิงงบประมาณและนโยบายที่สอดคล้องกับการป้องกันอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ครอบครัวต้องมีบทบาทสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็ก โดยมุ่งเน้นการพัฒนา 4 ด้าน ได้แก่ สติปัญญา อารมณ์และจิตใจ สุขภาพร่างกาย และความรับผิดชอบต่อสังคม

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา สภาครูและผู้ปกครองฯ พร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาชนกว่า 100 องค์กร ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และขอให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องทบทวนข้อเสนอในการอนุญาตนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า

“ถ้าเราต้องการประชากรที่มีคุณภาพ รัฐบาลต้องมีนโยบายแน่วแน่ในการป้องกันและห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เพราะปัญหานี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ”

นิวัตร นาคะเวช 

นายกฯ ขีดเส้นปราบปราม ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ใน 30 วัน

ก่อนหน้านี้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือการปราบบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะในเยาวชน-พื้นที่ใกล้โรงเรียน ร่วมกับ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้เป็นหลัก โดยนายกรัฐมนตรีได้หารือถึงมาตรการคุมเข้มและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน กำชับให้ทุกฝ่ายดูแลอย่างเข้มงวด พื้นที่ใกล้โรงเรียน-สถานศึกษาต้องไม่มีการขายให้เยาวชน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของบุหรี่ไฟฟ้าและข้อกฎหมายให้กับประชาชนได้เข้าใจอย่างถูกต้อง โดยเริ่มต้นที่การจัดการกับผู้นำเข้า seal ทุกจุด และจับกุมผู้ขายอย่างจริงจัง ตั้งเป้าหมายภายใน 30 วัน ร่วมกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกรมศุลกากรในการปราบปรามอย่างเด็ดขาด

“สำหรับการปราบปรามนี้เป็นการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน ถือเป็นหน้าที่ร่วมกันของทุกคนในสังคม ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากทุกคน ทุกภาคส่วน ให้ช่วยดูแลเยาวชนในสังคม หากพบเห็นการขายให้แก่เด็ก และเยาวชน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป”

แพทองธาร ชินวัตร

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active