เร่งเก็บข้อมูล รพ.ทุกระดับทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งไข้หวัด และมะเร็ง คาดสัปดาห์หน้าเห็นข้อมูลชุดแรก เพื่อความโปร่งใสจัดสรรงบฯ ขณะที่ บอร์ด สปสช. รับข้อเสนอ 5 ประเด็นจากคณะทำงานโครงการ ‘มะเร็งรักษาทุกที่’ พร้อมสั่งยกเลิกประกาศค่าใช้จ่าย ปี 67 หันกลับใช้ประกาศเดิม ปี 66 จับตาประเด็นร้อนเรื่องยานอกบัญชีหลัก และแนวคิดตั้ง ‘กองทุนมะเร็ง’ เฉพาะ
การประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่ารักษาพยาบาลของระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของประเทศไทย ซึ่งมี พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้กำหนดกรอบดำเนินการ 8 มาตรการ พร้อมแต่งตั้ง 2 อนุกรรมการขับเคลื่อนงาน โดยยืนยันหลักการว่า ประชาชนยังคงได้รับสิทธิรักษาพยาบาลตามเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยน และยังไม่มีการหารือเรื่องการรวมกองทุนสุขภาพแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้แต่งตั้ง คณะกรรมการศึกษาต้นทุนค่ารักษาพยาบาล ขึ้นอีก 1 ชุด เพื่อวิเคราะห์และจัดทำข้อมูลต้นทุนบริการทางการแพทย์
ศึกษาต้นทุนค่ารักษา เน้นข้อมูลครอบคลุมทุกระดับ
ล่าสุดวันนี้ (13 มี.ค. 68) กิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาต้นทุนค่ารักษาพยาบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคณะทำงานชุดนี้ ในระหว่างการประชุมวิชาการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ว่า ขณะนี้มีการประชุมนัดแรกไปแล้ว และกองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้ขอเวลา 2 สัปดาห์ในการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะเริ่มเห็นข้อมูลชุดแรก

ทั้งนี้ การศึกษาไม่ได้จำกัดเฉพาะกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) แต่ครอบคลุมโรงพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศ เพื่อให้ทราบต้นทุนที่แท้จริงของโรคต่าง ๆ เช่น ไข้หวัด มะเร็ง ฯลฯ โดยได้หารือกับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอความร่วมมือด้านข้อมูลเชิงลึก ให้เกิดความถูกต้องในการจัดสรรงบประมาณด้านสาธารณสุข
เผยแพร่ข้อมูลต้นทุน เพื่อความโปร่งใส และประสิทธิภาพจัดงบ
กิตติกร ยังระบุอีกว่า เมื่อการศึกษาต้นทุนค่ารักษาเสร็จสิ้น ข้อมูลจะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่า ค่ารักษาพยาบาลที่แท้จริงอยู่ในระดับใด และเพื่อให้เกิดแนวทางที่เหมาะสมในการจัดสรรงบประมาณไปยังกองทุนต่าง ๆ
ในส่วนของ คณะกรรมการพิจารณาค่ารักษาพยาบาลฯ ซึ่งมี รมว.คลัง เป็นประธาน แม้ว่า การประชุมนัดแรก จะยังไม่หารือเรื่องต้นทุนค่ารักษาโดยตรง แต่คณะกรรมการศึกษาต้นทุนฯ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้ง จะต้องนำเสนอข้อมูลเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการบริหารจัดการระบบสาธารณสุขต่อไป
เมื่อถูกถามถึงปัญหาการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลระหว่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), คลินิกชุมชนอบอุ่น และโรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัย กิตติกร บอกว่า ข้อมูลต้นทุนที่กำลังศึกษาอยู่จะช่วยให้เกิดแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ เนื่องจากหากทราบต้นทุนที่แท้จริง ก็จะสามารถปรับการจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม
บอร์ด สปสช. รับทราบ 5 ประเด็นสำคัญ ขับเคลื่อน ‘มะเร็งรักษาทุกที่’
ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 68 ยังได้หารือ และรับทราบข้อเสนอจากคณะทำงานโครงการ มะเร็งรักษาทุกที่ (CA anywhere) ซึ่งมี ผศ.นพ.สนั่น สุทธิศักดิ์ชัย รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เป็นประธาน
ที่ประชุมได้รับฟังสรุปการดำเนินงานเกี่ยวกับค่ารักษามะเร็งของสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ซึ่งในปี 2567 สปสช. ได้ออกประกาศค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุม 7 รายการ แต่มีข้อจำกัดในบางรายการที่ไม่สามารถเบิกจ่ายจากกองทุนโครงการ CA anywhere ได้ ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งร้องขอให้กลับไปใช้ประกาศเดิมของปี 2566 ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
จากปัญหาดังกล่าว บอร์ด สปสช. ได้มีมติให้ยกเลิกประกาศค่าใช้จ่ายของปี 2567 และกลับไปใช้ประกาศของปี 2566 พร้อมกันนี้ คณะทำงานได้เสนอ 5 แนวทางสำคัญที่ต้องดำเนินการต่อไป ได้แก่
- กำหนดมาตรการลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่มีภาระหนัก
- กำหนดผู้รับผิดชอบค่ายาสำหรับยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ
- พิจารณาการร่วมจ่ายหรือจัดตั้งกองทุนเฉพาะสำหรับสิทธิประโยชน์ที่ไม่ได้ถูกกำหนดการเบิกจ่าย
- เสนอให้มีการตั้ง “กองทุนมะเร็ง” เพื่อให้สามารถบริหารจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- หาก สปสช. ไม่สามารถดำเนินการตามข้อเสนอใดๆ ได้ ให้มีการชี้แจงเหตุผลอย่างชัดเจน
จับตาการเข้าถึงยานอกบัญชี-แนวทางแก้ปัญหาค่าใช้จ่าย
ที่ประชุมบอร์ด สปสช. ยังได้พิจารณาประเด็นเกี่ยวกับการใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติสำหรับรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งมีทั้งเสียงสนับสนุนให้ขับเคลื่อน และความกังวลว่าหากไม่มีการควบคุม อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของกองทุนสุขภาพ
ทั้งนี้ สปสช. ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งในโครงการ CA anywhere รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับโรคมะเร็ง และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบและกำกับติดตามการเข้าถึงบริการโรคสำคัญ ก่อนนำเสนอให้บอร์ด สปสช. พิจารณาต่อไป

ขณะที่ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ให้สัมภาษณ์ The Active เพิ่มเติมกรณี การเข้าถึงยารักษามะเร็ง ได้หารือถึงแนวทางการให้ประชาชนเข้าถึงยานอกบัญชียาหลัก โดยมีการเสนอให้พิจารณากลไก “ร่วมจ่าย” ยังคงเป็นประเด็นถกเถียง โดยที่ประชุมมองว่ายาบางตัวอาจจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนผ่านกลไกอื่นๆ ไม่ใช่เพียงให้ประชาชนเป็นผู้ร่วมจ่ายเท่านั้น
ทั้งนี้ การใช้ยานอกบัญชียาหลักมี 2 กรณี คือ
- ยาที่อยู่ระหว่างการพิจารณาด้านความปลอดภัยและความคุ้มค่าโดยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง
- ยาที่ไม่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งต้องมีแนวทางรองรับเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาได้
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวยังไม่มีรายละเอียดแนวทางการร่วมจ่ายที่ชัดเจน และยังต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้เพิ่มเติม
ยืนยันไม่ต้องใช้ใบส่งตัวในผู้ป่วยมะเร็ง
นพ.จเด็จ เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงแนวคิดการจัดตั้ง “กองทุนเฉพาะสำหรับรักษาโรคมะเร็ง” เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วย โดยแนวทางนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ และยังไม่มีมติชัดเจนว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด
นอกจากนี้ ยังมีการรายงานความคืบหน้าว่า ขณะนี้ได้แก้ไขปัญหาการเรียกใบส่งตัวของผู้ป่วยมะเร็งแล้ว โดยโรงพยาบาลไม่จำเป็นต้องให้ผู้ป่วยกลับไปขอใบส่งตัวอีก เนื่องจากอาจทำให้การรักษาล่าช้า อย่างไรก็ตาม ยังคงเน้นให้มีการส่งต่อข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยอย่างครบถ้วน เพื่อลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น
เห็นชอบ ‘โบท็อกซ์’ เข้าบัญชียาหลัก
สำหรับการพิจารณาเพิ่มรายการยาที่จะเข้าสู่บัญชียาหลัก ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เพิ่มยา 6 รายการ โดยหนึ่งในนั้นคือยา “โบทูลินัม ท็อกซิน” หรือที่ประชาชนรู้จักกันในชื่อ “โบท็อกซ์” ซึ่งจะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการกล้ามเนื้อกระตุกในผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม ยาจิตเวชและยาต้านซึมเศร้ายังไม่มีการเสนอให้บรรจุในการประชุมครั้งนี้