นักเคลื่อนไหว ห่วง ‘หยก’ ได้รับความรุนแรงทางใจ ควรได้รับการเยียวยา

ทิชา สะท้อนผู้เกี่ยวข้อง ผลักให้เด็กคนหนึ่งยืนอยู่ขั้วตรงข้ามกับผู้ใหญ่ มองเด็กเป็นลบโดยไม่สนใจหลักการพัฒนาเยาวชนเชิงบวก หลักสันติวิธี หลักมนุษยนิยม

จากกรณีที่ หยก-ธนลภย์ เยาวชนอายุ 15 ปี นอนขวางล้อรถบัส จนตำรวจอุ้มตัวออก หลังโรงเรียนไม่อนุญาตให้ไปค่ายภาษาจีน อ้างว่าคืนค่าเทอมหยกไปแล้ว และไม่มีสถานภาพเป็นนักเรียนอีก เหลือเชื่อสังคม

ล่าสุด ป้ามล-ทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน บ้านกาญจนาภิเษก ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวต่อกรณีที่เกิดขึ้นไว้ว่า ไม่น่าเชื่อที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในแวดวงต่าง ๆ ปล่อยให้ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างยาวนาน เสมือนว่าสังคมปล่อยให้เด็กคนหนึ่งยืนอยู่ขั้วตรงข้ามกับผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบ และมองไม่เป็น มองเห็นเด็กเป็นลบโดยไม่สนใจหลักการพัฒนาเยาวชนเชิงบวก หลักสันติวิธี หลักมนุษยนิยม พร้อมทวนถามว่า “หรือเป็นเพราะอำนาจนิยมได้ยึดพื้นที่ไปหมดแล้ว?”

ขณะเดียวกัน ‘บิ๊ก’ เกียรติชัย ตั้งพรพรรณ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมระบุว่า ปัญหาของหยกนั้นมีความซับซ้อนมาก แต่หลักการเดียวที่ทุกคนต้องยึดไว้คือ “เด็กทุกคนต้องได้เรียน ได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนแบบปกติ” เป็นห่วงว่าหยกตอนนี้โดดเดี่ยวมาก แม้กระทั่งเพื่อนในห้องก็ไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัย ผลักไสไม่ให้หยกขึ้นรถ ทั้งที่แถลงการณ์ของโรงเรียนขัดแย้งต่อสิทธิเด็ก

บิ๊ก กล่าวต่อว่า สิ่งหนึ่งที่จะขอติงหยกคือการถ่ายภาพไลฟ์โดยไม่ขออนุญาตผู้อื่นก่อน แต่ข้อถกเถียงอื่นเช่น หยกทำให้เพื่อนเดือดร้อนจากการไปขวางรถ หรือก่อความวุ่นวาย ตรงนี้บิ๊กมองว่า การพูดคุยกับทุกฝ่ายอย่างจริงจังโดยที่มีหยกอยู่ด้วยคือทางออก ย้ำว่าหากปล่อยหยกไว้แบบนี้ หยกจะเสียสุขภาพจิตอย่างมาก หยกควรได้เข้าพบจิตแพทย์เพื่อฟื้นฟูจิตใจ เพราะสิ่งที่หยกเผชิญมันหนักเกินกว่าที่เด็กมัธยมคนหนึ่งจะได้เจอ

May be an image of 1 person and braids
ภาพ: แมวส้ม ประชาไท

โดยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 เมื่อเวลา 05.30 น. ของวันเดินทาง ก่อนที่รถบัสจะออกไปยังค่าย หยก-ธนลภย์ได้แสดงตัวและขอเดินทางไปยังค่ายเรียนภาษาจีนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการด้วย แต่ทางโรงเรียนไม่ได้อนุญาตโดยอ้างว่าหยกไม่ได้จ่ายค่าเทอม (ก่อนหน้านั้นโรงเรียนได้คืนค่าเทอมไปแล้ว) ชี้ว่าหยกได้พ้นสถานภาพการเป็นนักเรียนแล้ว แม้หยกจะยืนยันว่าตนมีสิทธิในการเรียนหนังสือครบถ้วน

หลังจากนั้น เพื่อนจึงพาตัวหยกลงจากรถบัส หยกจึงเดินไปนั่งขวางหน้ารถบัส ทำให้เพื่อนต้องพากันมาอุ้มหยกออกไป จากนั้นก่อนที่รถจะออกตัว หยกก็ได้เอาตัวไปขวางล้อรถบัสเอาไว้ ทำให้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น ตำรวจร่วมสิบนายรุมอุ้มตัวหยกออกไปจากบริเวณ ขณะที่รถบัสได้อ้อมเข้าโรงเรียนและไปออกทางประตูด้านหน้าแทน

เมื่อ 2 เดือนก่อน มีความพยายามจากหลายหน่วยงานในการหาทางออกกรณีของหยก เยาวชนอายุ 15 ปีที่มีปัญหาเรื่องสิทธิในการเข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อย่างกรณี ผู้อำนวยการโรงเรียนและกระทรวงพัฒนาสังคมฯ หารือร่วมกันโดยไม่มี หยก อยู่ในวงสนทนา และกรณีที่ทางผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ปกครองและครู ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากทาง สว. กรณีหวั่นหยกก่อเหตุไม่สงบในโรงเรียน จะพบว่าหลายวงสนทนากลับไม่มีหยกอยู่ในสมการเพื่อหาทางออก

หยก ระบุว่า ที่ผ่านมาทางโรงเรียนไม่เคยสื่อสารกับตนเองเพื่อหาทางออกร่วมกัน ตนยืนยันเข้าเรียนหนังสือและเข้าสอบเพราะเชื่อว่าตนยังมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษาถูกต้องครบถ้วน และมาถึงวันนี้พบว่าทางโรงเรียนแจ้งว่าไม่ให้หยกไปค่าย เนื่องจากคืนค่าเทอมให้แล้ว และไม่มีเงินในสำหรับอุปกรณ์ภายในค่ายสำหรับหยก นอกจากนี้ หยกยังไม่สามารถขอดูคะแนนสอบได้ เพราะทางฝ่ายวิชาการไม่ออกให้ ที่ผ่านมาเป็นการจัดสอบเพียงเพราะรอส่งตัวหยกไปยัง “ที่อื่น”

ครูไม่ให้หนูไปค่ายและบอกว่าหนูไม่ใช่นักเรียนแล้วเพราะคืนเงินมาแล้ว ครูให้เพื่อน ๆ ช่วยกันอุ้มหนูลงมาจากรถ ครูถามเพื่อนว่ามีใครยังอยากให้หยกเรียนต่อมั้ย เพื่อน ๆ ร่วมกันตอบว่าไม่ มีคนปรบมือดีใจ ตอนที่เพื่อนอุ้มหนูลงจากรถ

หยก-ธนลภย์
อาจเป็นรูปภาพของ 4 คน, ผู้คนกำลังฝึกโยคะ และ ฝูงชน
หยกเข้าร่วมพิธีกรรมของบ้านกาญจนาฯ ประจำปี

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active