รัฐบาลเตือนอย่าหลงแชร์ข่าวปลอม ไทย-กัมพูชา สร้างเกลียดชัง-ปั่นป่วนสังคม

เปิด 10 อันดับ ข่าวปลอมชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ถูกรับส่งมากสุดในรอบสัปดาห์ ชี้ หวังปลุกปั่น สร้างเกลียดชัง กระทบความมั่นคง ขอประชาชนหยุดแชร์ หันเช็กข้อมูลกับแหล่งทางการ ‘สธ.’ เผย 7 รพ. ชายแดนไทย – กัมพูชา ยังปิดบริการ

วันนี้ (3 ส.ค. 68) ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพและข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ กล่าวหาทหารไทยว่ากระทำการโหดร้ายกับทหารกัมพูชา โดยเฉพาะการอ้างว่ามีการ “ตัดศีรษะ” และ “เหยียบย่ำศพ” นั้น ขอยืนยันว่าเป็นข่าวปลอมที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นความพยายามบิดเบือนข้อมูลเพื่อปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง สร้างความตึงเครียดระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ พร้อมยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่ตามหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยทหารกัมพูชาที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณชายแดน ได้รับการรักษาและส่งกลับประเทศอย่างเหมาะสม ผ่านจุดผ่านแดนช่องจอม จังหวัดสุรินทร์

ด้าน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เผยแพร่รายชื่อ 10 อันดับข่าวปลอมที่ถูกแชร์มากที่สุดในรอบสัปดาห์ ซึ่งล้วนเป็นข่าวบิดเบือนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ได้แก่

  1. ข่าวทหารไทยตัดศีรษะทหารกัมพูชา
  2. ข่าวทหารไทยเสียชีวิต 140 นาย
  3. ข่าวทหารไทยเสียชีวิต 40 นาย ถูกจับ 30 นาย
  4. ข่าวนอร์เวย์บริจาคเครื่องบิน F-16 ให้ไทย
  5. ข่าวผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติสงคราม
  6. ข่าวทหารไทยยึดคืนปราสาทพระวิหาร
  7. ข่าวไทยใช้อาวุธชีวภาพโจมตีกัมพูชา
  8. ข่าวเครื่องบินปล่อยสารพิษใส่พลเรือนกัมพูชา
  9. ข่าวกองทัพภาค 2 ระดมทุนช่วยแนวหน้า
  10. ข่าวปลัดกระทรวงกลาโหมสั่งงดช่วยผู้ป่วยกัมพูชา

พร้อมระบุ ข่าวปลอมเหล่านี้ล้วนผ่านการตรวจสอบแล้วว่าใช้ภาพเก่าหรือภาพจากต่างประเทศมาประกอบ พร้อมคำบรรยายเท็จ เพื่อสร้างความเข้าใจผิดในวงกว้าง ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ฝ่ายรัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนหยุดส่งต่อข้อมูลเท็จโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และแนะนำให้ติดตามข่าวจากแหล่งทางการ หากพบข้อมูลน่าสงสัยสามารถแจ้งที่สายด่วน 1111 หรือ Line ID: @antifakenewscenter รวมถึงเว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

ด้าน จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้รับรายงานถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน

ทั้งนี้ หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงของไทย ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเฝ้าระวังและป้องกันเหตุอย่างต่อเนื่อง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังฝากประชาชนขอให้ติดตามสถานการณ์ผ่านช่องทางของหน่วยงานราชการและไม่ตกเป็นเหยื่อข่าวเท็จบิดเบือนด้วย 

7 รพ. ชายแดนไทย – กัมพูชา ยังปิดบริการ

สำหรับสถานการณ์เหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่สรุปสถานการณ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2568 ดังนี้

  • รพ. เปิดบางส่วน เพิ่ม 1 แห่ง คือ รพ.กาบเชิง (ห้องฉุกเฉิน)
  • รพ.สต. เปิดทำการเพิ่ม 4 แห่ง
  • ศูนย์พักพิง ลดลง 2 แห่ง (ศรีสะเกษเพิ่ม 19 แห่ง, บุรีรัมย์ลดลง 16 แห่ง, อุบลลดลง 5 แห่ง)
  • ผู้อพยพ ภาพรวมลดลง 26,880 ราย
  • กลุ่มเปราะบาง ภาพรวมลดลง 2,413 ราย
  • ทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน ลดลง 8 ทีม

สรุป รพ.ที่ยังคงปิดบริการทั้งหมด

  1. รพ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี (24 ก.ค. 68)
  2. รพ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี (25 ก.ค. 68)
  3. รพ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี (26 ก.ค. 68)
  4. รพ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ (25 ก.ค. 68)
  5. รพ.พนมดงรักฯ จ.สุรินทร์ (24 ก.ค. 68)
  6. รพ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ (25 ก.ค. 68)
  7. รพ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ (25 ก.ค. 68)

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active