กลุ่มนักสิทธิฯ แถลงหนุน ‘อังคณา นีละไพจิตร’ ย้ำความรุนแรงไม่ใช่ทางออก

กลุ่มนักสิทธิฯ แถลงหนุน ‘อังคณา นีละไพจิตร’ ชี้การตั้งคำถามต่ออำนาจคือหัวใจประชาธิปไตย ย้ำความรุนแรงไม่ใช่ทางออกข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา

วันนี้ (14 ตุลาคม 2568) ขบวนเคลื่อนไหวผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ ประกาศยืนเคียงข้างอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภาอิสระและนักปกป้องสิทธิมนุษยชน หลังถูกโจมตีจากกระแสชาตินิยมในโลกออนไลน์ โดยระบุว่าเรายืนข้างความจริง หลักสิทธิมนุษยชน และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

ขบวนเคลื่อนไหวผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย เป็นเครือข่ายรากหญ้าที่ประกอบด้วยผู้หญิงจาก 19 ประเด็นการต่อสู้ทั่วประเทศ ตั้งแต่แม่บ้าน แรงงาน คนจนเมือง ชนเผ่าพื้นเมือง ไปจนถึงเยาวชนนักกิจกรรม ที่ร่วมผลักดันประเด็นสิทธิแรงงาน สิทธิในที่ดิน การต่อต้านเหมืองแร่ การคุ้มครองผู้หญิงพิการ ผู้ลี้ภัย และการส่งเสริมค่าตอบแทนงานดูแล (Care Income) เพื่อสร้างสังคมที่เคารพศักดิ์ศรีของทุกชีวิต

แถลงการณ์ชี้ว่า ในเวลาที่ความกลัวถูกปลอมเป็นความรักชาติ และความเกลียดชังถูกแต่งให้เป็นหน้าที่พลเมือง สังคมไม่ควรปล่อยให้การตั้งคำถามของพลเมืองกลายเป็นข้ออ้างในการปลุกปั่นความเกลียดต่อผู้เห็นต่าง พร้อมย้ำว่า อังคณาเพียงทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนประชาชน ที่กล้าพูดและตั้งคำถามต่ออำนาจด้วยสุจริตใจ ทางกลุ่มย้ำว่า การตั้งคำถามต่ออำนาจไม่ใช่การล้ำเส้น หากแต่เป็นหัวใจของประชาธิปไตย เพราะเมื่อรัฐละเลยความรับผิดชอบ ประชาชนย่อมมีสิทธิและหน้าที่ต้องลุกขึ้นถาม เพื่อรักษาความจริง ความยุติธรรม และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ไว้

แถลงการณ์ยังเตือนถึง การบิดเบือนความรักชาติให้กลายเป็นอาวุธโดยเฉพาะในสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ถูกใช้ปลุกกระแสความเกลียดชังผ่านปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) ซึ่งกำลังสร้างวัฒนธรรมแห่งความกลัวในสังคมไทย เมื่อเราปลูกความเกลียด เราก็เก็บเกี่ยวแต่ความรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้สังคมหันมาสร้างวัฒนธรรมแห่งความเข้าใจและสันติภาพ เพราะความรักชาติที่แท้ไม่อาจตั้งอยู่บนซากศพของเพื่อนมนุษย์

ในส่วนของข้อเรียกร้อง กลุ่มนักสิทธิฯ เรียกร้องให้รัฐบาล กองทัพ และองค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากลอย่างโปร่งใส และยุติการใช้วาทกรรมชาตินิยมที่สร้างความเกลียดชัง พร้อมย้ำให้รัฐเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (IHL) นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้สื่อมวลชนรายงานข่าวอย่างรอบด้าน ไม่ตกเป็นเครื่องมือขยายวาทกรรมความเกลียด โดยระบุว่าหน้าที่ของสื่อคือการส่องแสง ไม่ใช่ขยายความมืดมิด

กลุ่มนักสิทธิฯ ยังตั้งคำถามถึงปัญหาโครงสร้างทางการเมืองและเศรษฐกิจ เช่น เหตุใดประชาชนจึงยังไม่มีสิทธิเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ได้เต็มร้อย หรือไม่มีสิทธิแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทุกหมวด รวมถึงเรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีการซื้อหุ้นบางจากที่เชื่อมโยงกับนักการเมืองและเครือข่ายสแกมเมอร์

ท้ายที่สุด ขบวนฯ ประกาศยืนเคียงข้างอังคณา นีละไพจิตร และประชาชนทุกคน โดยย้ำว่าความมั่นคงที่แท้จริงไม่อาจตั้งอยู่บนความกลัว สันติภาพไม่อาจเกิดจากการปลุกความเกลียดชัง และความยุติธรรมไม่อาจบังเกิด หากรัฐไม่ยอมรับความรับผิดชอบของตนเอง

“เรายืนเคียงข้าง อังคณา นีละไพจิตร นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและประชาชนทุกคน ไม่ใช่เพราะเห็นด้วยในทุกถ้อยคำของพวกเธอและเขา แต่เพราะเรายืนข้างหลักการเดียวกัน ว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิในความปลอดภัย ศักดิ์ศรี และความจริง ความมั่นคงที่แท้จริงไม่อาจตั้งอยู่บนความกลัว สันติภาพไม่อาจเกิดจากการปลุกความเกลียดชัง และความยุติธรรมไม่อาจบังเกิด หากรัฐและผู้มีอำนาจไม่ยอมรับความรับผิดชอบของตนเอง”

ขบวนเคลื่อนไหวผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active