ย้ำ ภูเขาในพื้นที่ 4 อำเภอ เป็นแหล่งน้ำสำคัญ พบฟอสซิล แหล่งโบราณคดี หวังยกเป็นมรดกธรรมชาติ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวอันดามันยั่งยืน วอน ‘นายกฯ อนุทิน’ ฟื้นคณะกรรมการแก้ไขปัญหา สกัดเอกชนขอสัมปทานเหมืองแร่ ระเบิดภูเขา พร้อมพิจารณาถอดพื้นที่ดังกล่าวจากแผนแม่บททรัพยากรแร่
วันนี้ (20 ต.ค. 68) ตัวแทนชาวบ้านในนาม กลุ่มรักษ์เขากระบี่ เดินทางมาปักหลักชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้แต่งตั้งกรรมการเพื่อศึกษาข้อเท็จจริงกรณีการระเบิดภูเขา 4 อำเภอ จังหวัดกระบี่

ทางกลุ่มรักษ์เขากระบี่ ระบุว่า ตามที่มีบริษัทเอกชนได้ยื่นสัมปทานเพื่อการระเบิดภูเขาทำกิจการแร่ในพื้นที่ 4 อำเภอจังหวัดกระบี่ประกอบด้วย อำเภอเมืองกะบี่, ลำทับ, อ่าวลึก และ ปลายพระยา ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลาหลายปีต่อเนื่องกัน กลุ่มรักษ์เขากระบี่ซึ่งเป็นการรวมตัวของภาคชุมชน ภาคธุรกิจ เพื่อปกป้องภูเขากระบี่ได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับการระเบิดดังกล่าวด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
- ภูเขา 4 อำเภอจังหวัดกระบี่เป็นแหล่งธารน้ำใต้ดินที่เป็นแหล่งน้ำทางการเกษตร อุปโภคบริโภคของประชาชนจังหวัดกระบี่ หากเกิดการระเบิดของภูเขาเท่ากับทำลายธารน้ำใต้ดินซึ่งเป็นระบบนิเวศเฉพาะและอาจเป็นเหตุให้เกิดการทรุดของดินซึ่งมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้วในจังหวัดกระบี่
- ภูเขาจังหวัดกระบี่ได้รับคำยืนยันจากนักวิชาการหลายสถาบันว่าเป็นแหล่งฟอสซิลและแหล่งโบราณคดีที่สำคัญของโลกซึ่งปรากฎหลักฐานอย่างชัดเจน หากมีการระเบิดภูเขากระบี่ จะกระทบต่อหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของโลกและส่งผลต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของจังหวัดกระบี่อีก
- ถ้ำในภูเขาจังหวัดกระบี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของนักท่องเที่ยวหลายประเทศและยิ่งนับวันยิ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของจังหวัดคู่กับการท่องเที่ยวทางทะเล ถ้ำในภูเขากระบี่นับเป็นมรดกทางธรรมชาติที่สำคัญคู่กับทะเลอันดามัน ซึ่งหากมีการจัดการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทั้งสองพื้นที่เข้าด้วยกันจะช่วยเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
กลุ่มรักษ์เขากระบี่ ยืนยัน เรียกร้องให้เกิดการรักษาภูเขากระบี่เพื่อจัดการให้เกิดการใช้ประโยชน์คู่กับการรักษาธรรมชาติ ทั้งการยื่นหนังสือต่อหน่วยงานรัฐ การนำเสนอความสำคัญของระบบนิเวศภูเขาต่อสาธารณะ การชุมนุมเรียกร้องให้เกิดการจัดการทรัพยากรที่เป็นธรรมทั้งในจังหวัดกระบี่ และทำเนียบรัฐบาล จนกระทั่งในปี 2567 ได้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 143/2567 ลงนามโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูเขา 4 อำเภอ จังหวัดกระบี่ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหากลุ่มรักษ์เขากระบี่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้คณะกรรมการศึกษาข้อเท็จจริงว่าภูเขาจังหวัดกระบี่เป็นแหล่งน้ำและแหล่งโบราณตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.ทรัพยากรแร่ พ.ศ.2560 หรือไม่ เพื่อกำหนดแหล่งแร่ให้เป็นไปตามแผนแม่บททรัพยากรแร่กล่าวคือหากภูเขา 4 อำเภอจังหวัดกระบี่เป็นแหล่งน้ำและแหล่งโบราณ พร้อมให้ถอดพื้นที่ภูเขา 4 อำเภอออกจากแผนแม่บททรัพยากรแร่





อย่างไรก็ตามคณะกรรมการฯ ดังกล่าว ยังไม่ได้เริ่มทำงานตามคำสั่งเพราะนายกรัฐมนตรีมีเหตุให้พ้นจากตำแหน่งจึงทำให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวสิ้นสุดลง ทำให้การดำเนินการทั้งหมดต้องยุติส่งผลให้บริษัทสัมปทานดำเนินการในการกระเบิดภูเขาต่อเนื่องจากเดิม
ดังนั้นเพื่อให้การจัดการทรัพยากรของประเทศได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมด้วยแนวทางการทำให้เกิดมูลค่าพร้อมกับการอนุรักษ์และเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งที่มีอยู่ในขณะนี้ จึงขอให้รัฐบาลได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์เดิมและในระหว่างที่คณะกรรมการดำเนินการศึกษาขอให้ยุติการดำเนินการใดของหน่วยงานรัฐและบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการอนุมัติการระเบิดภูเขา จนกว่าผลการศึกษาจะเสร็จสิ้น หากผลการศึกษาชี้ว่าภูเขากระบี่เป็นแหล่งต้นน้ำและแหล่งโบราณให้ดำเนินการถอดพื้นที่ภูเขาออกจากแผนแม่บทแร่

ล่าสุด อารยา ไสลเพชร รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ มารับหนังสือจากกลุ่มรักษ์เขากระบี่ พร้อมระบุจะนำไปประชุมพิจารณาร่วมกันที่ กพร.