ตลอดเส้นทางการเคลื่อนพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พสกนิกรต่างจับจองพื้นที่เพื่อขอให้ได้ใกล้ชิดและร่วมน้อมส่งเสด็จฯ เป็นครั้งสุดท้าย
ในจำนวนผู้คนมากมายยังมี กลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ ที่แม้พวกเขาจะเกิดไม่ทันในวันที่พระราชกรณียกิจของ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดำเนินอยู่ทั่วแผ่นดิน แต่หัวใจของพวกเขาในวันนี้ ก็เป็นดั่งใจเดียวกันกับประชาชนทั้งประเทศที่ร่วมกันถวายอาลัย พร้อมเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความศรัทธา และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อแผ่นดินไทยอย่างหาที่สุดมิได้
ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้จึงไม่เพียงมารอส่งเสด็จฯ เท่านั้นเหล่าคนรุ่นใหม่ต่างร่วมแรงร่วมใจ บางคนรับหน้าที่อาสาสมัครช่วยดูแลผู้คนที่มาอย่างเนืองแน่น บางคนช่วยอะไรได้ก็ช่วยกัน
The Active ลงพื้นที่บริเวณสามย่านมิตรทาวน์ แยกสามย่าน ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่าน และจุดนี้เป็นอีกหนึ่งจุดศูนย์รวมของเยาวชน คนรุ่นใหม่ เพื่อพูดคุยถึงความรู้สึกกับครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ร่วมในเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ในวันนี้
“แม้จะเกิดไม่ทันสมัยที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร แต่ผมเห็นพระองค์เป็นแบบอย่างหลายเรื่อง โดยเฉพาะการใส่ชุดไทย, การรักษาศิลปะวัฒนธรรมไทย, ศิลปหัตถกรรมต่างๆ ทำให้เห็นว่าไทยมีสิ่งดี ๆ อยากให้คนรุ่นใหม่ภูมิใจ ไม่อายที่จะใส่ และมองผ้าไทยมีคุณค่าใส่ได้ทุกวัน”
เป็นความรู้สึกส่วนหนึ่งจาก ภานุรุจ พงษ์สุทธิรักษ์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เขายังเล่าว่า คุ้นเคยและมาใช้บริการสามย่านมิตรทาวน์ เป็นประจำ แต่วันนี้เป็นอีกความรู้สึก ครั้งนี้มาเพื่อแสดงความอาลัย ส่งเสด็จฯ พระองค์ท่าน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่จะถูกจดจำไว้ตลอดชีวิต
ในพื้นที่สามย่านมิตรทาวน์วันนี้ ยังมีเยาวชนที่ทำหน้าที่อาสาช่วยเหลือดูแลผู้คนที่รอรับเสด็จฯ อีกด้วย กอหญ้า – นนธิชา เพชรเทวี วัย 17 ปี ทำหน้าที่สำคัญเป็น อาสาสนับสนุน มูลนิธิร่วมกตัญญู ช่วยดูประชาชนที่มารอรับเสด็จฯ เธอเล่าว่า ความฝันอยากเป็น นักการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งยืนยันว่า ได้รับแรงบันดาลใจในการทำงานดูแล ช่วยเหลือประชาชนมาจากสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“หนูเกิดมา ก็ได้ยินชื่อพระองค์ท่านแล้ว และชอบมากด้วยค่ะ ตอนได้ยินข่าวหนูก็ใจหาย เพราะไม่ค่อยทราบข่าวของพระองค์ท่านมานาน หนูประทับใจที่ท่านช่วยเหลือประชาชนในชนบท พื้นที่ห่างไกล เป็นแรงบันดาลใจให้อยากช่วยเหลือคน จนถึงวันนี้”
นนธิชา เพชรเทวี
ขณะที่ สรสิช สมจิตรวิจารณ์ วัย 21 ปี หนึ่งในทีมปฐมพยาบาลเคลื่อนที่ จากสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย บอกว่า เขาโตมาจากอีสาน เกิดมาก็ผูกพันกับ ผ้าไหม เมื่อสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงหยิบผ้าไหมมาสู่สายตาชาวโลก จึงกลายเป็นความซาบซึ้งที่รับรู้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
“พระราชกรณียกิจที่พระองค์ท่านออกเยี่ยมเยียนราษฎร เป็นส่วนสำคัญของแรงบันดาลใจในการทำงานด้านจิตอาสา ตอนเด็ก ๆ ก็อยากรู้ว่าท่านทรงเหนื่อยบ้างไหม ? พระองค์ทรงมีทุกอย่าง ยังออกเยี่ยมราษฎรเสมอ เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราอยากทำเพื่อคนอื่น อยากเป็นจิตอาสาครับ”
สรสิช สมจิตรวิจารณ์
วันนี้ยังมีเยาวชนจิตอาสาจาก สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ตั้งทีมเฉพาะกิจหน่วยปฐมพยาบาลเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นแนวคิดของสโมสร และฝ่ายพัฒนานักศึกษา ร่วมกันจัดทำ ทีมปฐมพยาบาลเพื่อดูแลประชาชนที่มาร่วมส่งเสด็จฯ
และเพราะวันนี้คือช่วงเวลาสำคัญ ผู้ประกอบการหลายร้านในสามย่านมิตรทาวน์จึงยอมปิดร้านเพื่อให้พนักงานมาร่วมส่งเสด็จฯ หนึ่งในนั้น คือ ธนเดช วีสเพ็ญ วัย 38 ปี พนักงานร้านเสริมสวย Bright Hair Studio พร้อมยืนยันแม้จะมีเสียงความเห็นที่แตกต่างหลากหลายเกิดขึ้นในสังคมเวลานี้ แต่เขาเป็นหนึ่งเสียงสะท้อนที่ยังคงรัก และผูกพันกับราชวงศ์ไม่เสื่อมคลาย
เช่นเดียวกับ เบญญาภา อนันตริยะทรัพย์ และ ชานน ฉัตรพรจรัส นิสิตจุฬาฯ ชั้นปีที่ 2 มองว่า แม้ผู้คนในสังคมจะคิดต่างกันในบางเรื่อง แต่สำหรับทั้งคู่แล้ว สถาบันพระมหากษัตริย์ เปรียบเหมือนศูนย์รวมใจ ที่ยังคงอยากให้อยู่คู่กับสังคมไทย พวกเขา ประทับใจ และภูมิใจที่ได้เห็นพลังความสามัคคีของคนไทยอีกครั้ง
อีกภาพความประทับใจที่เราพบเห็นจากคนรุ่นใหม่ในวันนี้ คือ นักศึกษา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่มาร่วมส่งเสด็จฯ ด้วย พวกเขานำน้ำดื่มมาแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อคลายร้อน โดยขอเป็นส่วนหนึ่งของงานครั้งสำคัญ
วิทยาเขตอุเทนถวาย
