ลั่น “กล้าทำ เพื่อชาวหาญทะเล” ส่วนแปลงคดี ข้อพิพาทเอกชน มอบฝ่ายกฎหมาย คกก.แก้ปัญหาเกาะหลีเป๊ะ ช่วยเหลือด่วน ด้าน ชาวเล หวังแก้ปัญหาสำเร็จ ต่อลมหายใจชาวบ้านในฐานะผู้บุกเบิก
วันนี้ (10 พ.ย. 68) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ซี่งได้รับมอบหมายให้แก้ไขปัญหาชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ รับฟังและติดตามเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนชาวเลในพื้นที่
ทันทีที่ถึงชุมชนสิเข่ง ได้พบตัวแทนชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีจากปัญหาข้อพิพาทที่ดินกับเอกชน โดย ร.อ. ธรรมนัส รับปากทันทีว่า จะแก้ไขปัญหาให้ โดยจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่ชาวบ้านนำเสนอในวันนี้ กลับไปเพื่ออ่านแล้วสั่งการเป็นระบบ เพื่อเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวเลเกาะหลีเป๊ะ

ชมรมชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ร้อง เร่งแก้ข้อพิพาทที่ดิน
หวังคืนสิทธิ ความเป็นธรรมผู้บุกเบิก
ตัวแทนชมรมชาวเลอูรักลาโว้ยเกาะหลีเป๊ะ ยื่นหนังสือต่อ ร.อ. ธรรมนัส มีข้อเรียกร้องและข้อเสนอสำคัญเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
(1.) ขอให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดิน ที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล โดยขอให้รองนายกฯ ธรรมนัส เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีวาระที่จะต้องพิจารณาเร่งด่วน ดังนี้
- เร่งหาทางคลี่คลายและบรรเทาความเดือดร้อนจากกรณีที่ชาวเลเกาะหลีเป๊ะถูกแจ้งความดำเนินคดี จำนวนทั้งสิ้น18 ราย แบ่งเป็น กลุ่มที่ 1 ถูกอุทยานฟ้องบุกรุก จำนวน 5 ราย กลุ่มที่ 2 ถูกเอกชนฟ้องขับไล่จากที่ดินเดิม จำนวน 1 ราย กลุ่มที่ 3 ถูกโรงเรียนฟ้องอาญา จำนวน 4 ราย และกลุ่มที่ 4 ถูกเอกชนฟ้องบุกรุก จำนวน 8 ราย
- เร่งดำเนินการคืนพื้นที่สาธารณะที่ชาวเลเกาะหลีเป๊ะและประชาชนทั่วไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น ทางเดินสาธารณะ ลำรางสาธารณะที่เป็นทางระบายน้ำ ชายหาด และพื้นที่คานเรือสำหรับการต่อและซ่อมแซมเรือ
- เร่งกวดขันจับกุมกลุ่มประมงพานิชย์ที่ใช้เครื่องมือทำการประมงที่ผิดกฎหมาย และลักลอบทำการประมงในเขตหวงห้าม
- เร่งดำเนินการสอบทาน พิสูจน์ และตรวจสอบผู้อยู่อาศัยเดิม และรายชื่อผู้ตกหล่น ตามกฎหมายอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พ.ศ. 2562 ในมาตรา 64 – 65
- เร่งจัดทำแผนในการบริหารจัดการพื้นที่เกาะหลีเป๊ะร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่นอุทยานแห่งชาติตะรุเตาตัวแทนชุมชน ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เพื่อจัดทำแผนการบริหารจัดการพื้นที่คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์
- เร่งพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือครอบครองมากกว่าที่เอกสารสิทธิที่ดินกำหนด รวมทั้งเอกสารสิทธิที่ดินที่ครอบทับที่อยู่อาศัยของชาวเลเกาะหลีเป๊ะ
(2.) ขอให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ท่อ หรืออุปกรณ์อื่นใดและงบประมาณที่เพียงพอ ในการสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อความสะดวกในการสัญจรของนักท่องเที่ยว
(3.) ขอให้พิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาอาชีพประมง ด้วยการก่อสร้างคานเรือหรืออู่ซ่อมเรือ ให้กลุ่มประมงพื้นบ้านชาวเลหลีเป๊ะ
(4.) ขอให้ดำเนินการวางปะการังเทียมเพื่อเป็นแหล่งหากินเพิ่มเติมของชาวเลอูรักลาโว้ยเกาะหลีเป๊ะ และงบประมาณสนับสนุนด้านเครื่องมือทำการประมงให้กับชมรมชาวเลอูรักลาโว้ยเกาะหลีเป๊ะ
(5.) ขอให้พิจารณาสมทบหรือลดหย่อนค่าจดทะเบียนเรือ เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงสำหรับชาวเลเกาะหลีเป๊ะ
(6.) ขอให้สนับสนุนงบประมาณในการจัดตั้งเป็นกองทุนเครื่องมือประมง และกองทุนน้ำมันประมงสำหรับชาวเลหลีเป๊ะ
(7.) ขอให้รองนายกฯ ธรรมนัส ในฐานะที่กำกับกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการตรวจสอบขอบเขตที่ดินโรงเรียน ซึ่งเดิมมีอยู่ 6 ไร่ 3 งาน แต่ปัจจุบันคงเหลือแค่ 5 ไร่ 3 งาน
(8.) ขอให้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างกำแพงแนวเขตของโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ จำนวน 5,000,000 บาท รวมทั้งจัดสรรงบประมาณสำหรับสร้างห้องประชุมและบ้านพักครู
(9.) ขอให้ปรับเพิ่มงบประมาณอุดหนุนค่าอาหารรายหัวของนักเรียนโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ อันเนื่องจากอัตราที่อุดหนุนอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อรายจ่ายจริง
(10.) ขอให้ รองนายกฯ ธรรมนัส ในฐานะที่กำกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ สนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาตลาดชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ก่อสร้างอาคารศูนย์วัฒนธรรมชาวเลเกาะหลีเป๊ะ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวโดยชาติพันธุ์
(11.) ขอให้รองนายกฯ ธรรมนัส ในฐานะที่กำกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ที่ครอบคลุมทั้งด้านอาชีพ-รายได้ ที่อยู่อาศัยที่มั่นคง สาธารณูปโภค และการเข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐที่รอบด้าน

‘ธรรมนัส’ สั่ง อุทยานฯ เร่งสำรวจพื้นที่ คืนสิทธิที่ดินทำกินอยู่อาศัย ให้แล้วเสร็จ 14 ธ.ค.นี้
ร.อ. ธรรมนัส ยังบอกด้วยว่า ตั้งแต่เช้ามีการประชุมโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายอำเภอ และผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน พร้อมตัวแทนซึ่งเข้ามาเป็นคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเกาะหลีเป๊ะทั้งหมด โดยประชุมกันเรื่องปัญหาของพี่น้องชาวเลเกาะหลีเป๊ะหลายเรื่อง ได้มีการขยับแก้ไขปัญหากันในห้องประชุมไปแล้วแต่ก็มีหลายเรื่องที่ยังไม่ได้แก้ไขโดยเฉพาะในเรื่องของคดีความ เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมได้เดินหน้าไปแล้วและเรื่องคดีข้อหาหมิ่นประมาทของอดีต ผอ.โรงเรียนกับพี่น้องชาวเลหลายคน
ในฐานะที่กำกับกระทรวงศึกษาธิการ จะไปพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่ตรัง พร้อมกับ เลขาฯสพฐ. ที่กำกับดูแลโรงเรียนประถมฯ และมัธยมฯ ทั่วประเทศจะหาแนวทางการพูดคุยว่าให้มีการหารือเพื่อหาทางออกกันดี ๆ ไม่ต้องไปศาล พร้อมรับปากจะเร่งจัดการแก้ปัญหาเรื่องนี้
ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านที่โดนคดี ซึ่งมีทั้งศาลตัดสินแล้ว อยู่ในขั้นฎีกา จะรับไปดูให้ โดยให้ทางท่านปลัดกระทรวงเกษตรฯ รับหนังสือ แล้วอันไหนที่เป็นคดีความที่อยู่ในขั้นอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด หรืออยู่ในศาล อาจจะจำเป็นให้ฝ่ายกฎหมาย ของคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีตั้งขึ้นศึกษาและช่วยเหลือโดยด่วน
“ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาพื้นที่ เรื่องที่ดินทำกินที่อยู่อาศัย ได้สั่งการในที่ประชุมแล้ว โดยให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา เร่งสำรวจที่ดินให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์นี้ เมื่อสำรวจแล้ว จำนวนประชากรทั้งหมดมีเท่าไหร่ เราจะอนุญาตให้เข้าทำกินอาศัย อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ภายในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ เมื่อสักครู่ได้โทรหาท่านสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกว่าได้สั่งการอธิบดีกรมอุทยานฯ แล้ว โดยจะโยกงบประมาณส่วนอื่นมาใช้ที่นี่ก่อน และจะให้แล้วเสร็จภายใน 14 ธันวาคม เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องชาวหลีเป๊ะ”
ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า

และในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เข้ามาสำรวจสร้างบ้านมั่นคง จะกี่หลัง ก็จะหางบประมาณมาสร้างให้
ส่วนเรื่องบ้านพักครูเก่ามากแล้วกว่า 50 ปี สวัสดิการต้องมีให้ โดยเฉพาะครูที่มาทำงานห่างไกลจากตัวเมือง เห็นว่าจะใช้เงินประมาณ 4,000,000 บาท จะสั่งการท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ให้เลขาฯ สพฐ.ขออนุมัติงบประมาณ ปี 2569 มาสร้างแฟลตให้กับคุณครู และสิ่งสำคัญคือมื้ออาหารกลางวันของลูกหลานนักเรียน เนื่องจากค่าของชีพบนเกาะท่องเที่ยวแพง จะไปพิจารณาเป็นกรณีพิเศษให้กับโรงเรียนในพื้นที่หมู่เกาะทั้งหลายให้
กรณีเรื่องที่ดินโรงเรียน ที่บอกว่าเดิมมี 6 ไร่ ไม่ใช่ 4-5 ไร่ ที่ถกเถียงกัน ไม่เป็นไรประชุมกันแล้วว่าจะดูภาพถ่ายทางอากาศ และก็ประมวลหลาย ๆ อย่างประกอบ มาบวกลบคูณหาร ถ้าเป็นที่ดินของโรงเรียนกี่ไร่ ก็จะต้องเป็นตามนั้น ต้องรักษาผลประโยชน์ของลูกหลานตระกูลหาญทะเล
“หาญ แปลว่า กล้า ผมกล้าทำ และผมจะทำให้คุณชาวหาญทะเล พูดจริงทำจริงไม่ต้องห่วง องคาพยพที่มาตรงนี้ไม่ได้มาแบบเสียเวลาและไม่เกิดประโยชน์แน่นอน สิ่งไหนสั่งการได้สั่งการทันทีในห้องประชุมแล้ว”
ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า
ส่วนเรื่องเครื่องสูบน้ำ ได้สั่งการ ผอ.ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 8 สงขลา นำเครื่องสูบน้ำขนาด 24 นิ้วมาให้แล้ว
ในขณะที่เรื่องกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่ลูกหลานขอเมื่อจะมีการสั่งการเป็นระบบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมาเที่ยวที่นี่ แล้วก็มาสั่งการในเรื่องของการเดินหน้าในการพัฒนา
เรื่องปัญหาค่าจดทะเบียนเรือของกรมเจ้าท่าที่แพงไปลำละ 5,000 บาท กรมประมงจดฟรีแล้ว แต่กรมเจ้าท่าเก็บเงินไปทำอะไร เดี๋ยวจะประสานให้ อาจจะมีระเบียบของเขา ก็ต้องประสานให้เพื่อหาทางแก้ไข

ขณะที่ ครูแสงโสม หาญทะเล ตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ หวังว่าท่านรองนายกฯ ธรรมนัส จะช่วยให้ชาวเลซึ่งเป็นผู้บุกเบิก แต่ปัจจุบันถูกทำให้กลายเป็นผู้บุกรุก ได้สามารถต่อลมหายใจในผืนแผ่นดินเกิดได้ จากนั้นได้ไปร่วมถ่ายรูปที่บริเวณหมุดพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ
