‘ส่งน้องกลับดาว’ อาสาฯ จัดการสัตว์เลี้ยงตายจากน้ำท่วม เยียวยาใจเจ้าของผู้สูญเสีย

‘War Room ภาคประชาชน’ ระดมอาสาฯ ทำฐานข้อมูลสัตว์เลี้ยง ตามหาเจ้าของ และจัดการร่างอย่างถูกวิธี เพื่อส่งสัตว์เลี้ยงครั้งสุดท้าย ให้ถูกต้องตามหลักสุขอนามัยของประชาชน

ฎายิน เพชรรัตน์ จากมูลนิธิ SOS Animal Thailand Foundation หนึ่งในสมาชิก War Room ภาคประชาชน เปิดเผยกับ The Active ว่า จากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ที่ผ่านมา นอกจากจำนวนตัวเลขผู้สูญเสียของญาติพี่น้องแล้ว ยังมีสัตว์จำนวนมากที่สูญหาย และเสียชีวิตโดยพิสูจน์อัตลักษณ์ไม่ได้

โดยขณะนี้ ทางเทศบาลได้ใช้วิธีกำจัดซากสัตว์ที่เสียชีวิตโดยการโกยรวมกับขยะ ทางทีมจึงเห็นว่า การเก็บกู้ร่างสัตว์ ส่งคืนสู่เจ้าของ หรือการจัดการอย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เจ้าของเจอกับสัตว์เลี้ยงอีกครั้งเพื่อเยียวยาความสูญเสียแล้ว ยังช่วยลดโอกาสการส่งกลิ่นเหม็นเน่า โรคติดต่อ เพื่อสุขอนามัยแก่คนในพื้นที่ด้วย

โครงการ ส่งน้องกลับดาว ที่เกิดขึ้นจาก War Room ภาคประชาชน จึงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานหากพบซากสัตว์เลี้ยงหลังน้ำลด เพื่อตามหาเจ้าของและนำไปสู่การจัดการร่างอย่างถูกวิธี

“พื้นที่หลังน้ำลดตอนนี้ เริ่มมีร่างของสัตว์ปรากฏให้เห็นแล้วจำนวนมาก หลายคนไม่รู้จะจัดการอย่างไร หากปล่อยไว้นานวัน หรือจัดการไม่ถูกวิธีจะกระทบต่อสุขอนามัยของผู้คนในพื้นที่”

ฎายิน เพชรรัตน์

ฎายิน อธิบายว่า นี่เป็นเรื่องที่ต้องเร่งจัดการเร่งด่วน แต่ทีมอาสาในการเก็บกู้ร่างสัตว์ในพื้นที่ยังมีไม่มากพอ จึงจำเป็นต้องให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือกันเอง

สำหรับประชาชนในพื้นที่ หากพบร่างสัตว์ สามารถปฏิบัติตาม 4 ขั้นตอนได้ ดังนี้

  • ขั้นตอนที่ 1 ถ่ายรูป ส่งต่อที่เพจ ส่งน้องกลับดาว หรือ แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์

หากพบร่างสัตว์ขนาดเล็ก-กลาง หรือสัตว์เลี้ยงทุกชนิด เช่น หมา แมว กระต่าย นก ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ หรือ เพจ ส่งน้องกลับดาว ให้เร็วที่สุด

โดยขอให้ถ่ายรูป ระบุชนิดของสัตว์ รูปพรรณสัณฐาน และตำแหน่งที่พบร่าง โดยจะมีแอดมินคอยให้ข้อมูลถึงคำแนะนำเบื้องต้นในการจัดการ

“ทั้งหมดนี้ไม่ได้เพื่อประโยชน์ในการจัดการร่างอย่างถูกวิธีเท่านั้น แต่เป็นการเพิ่มโอกาสให้เจ้าของได้พบเจอกับสัตว์เลี้ยงอีกครั้งแม้ว่าจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม”

ฎายิน เพชรรัตน์

และหากพบเจอร่างสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่กีดขวางการสัญจร หรือพื้นที่เสี่ยงที่ทำให้ร่างเสียหายมากไปกว่านี้ ให้เคลื่อนย้ายไปในจุดที่ปลอดภัยก่อน แต่หากไม่มั่นใจให้แจ้งข้อมูลเข้ามา แล้วจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ

  • ขั้นตอนที่ 2 เจ้าหน้าที่เข้ารับร่าง เก็บรูปพรรณสัณฐาน ประกาศหาเจ้าของ

เจ้าหน้าที่จะเข้าไปรับร่าง และทำความสะอาดเท่าที่ทำได้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเก็บรูปพรรณสัณฐาน สำหรับทำฐานข้อมูล เพื่อให้เจ้าของสามารถตามหาได้ในอนาคต

โดยจะมีการถ่ายรูป พร้อมทำรหัส ที่ระบุถึงรายละเอียด เช่น ชนิดของสัตว์ สี ตำแหน่งที่พบ ฯลฯ แล้วอัปโหลดไว้แพลฟอร์ม โดยเบื้องต้นจะเป็นในเพจส่งน้องกลับดาวเป็นหลัก และมีแผนจะพัฒนาร่วมกับฐานข้อมูลอื่น ๆ ในอนาคต

  • ขั้นตอนที่ 3 นำร่างเข้าเตาเผา

อาสาสมัครจะหาเตาเผาสัตว์ที่ใกล้ที่สุดแล้วประสานส่งต่อ แต่หากไม่มี ทางปศุสัตว์หรือโครงการฯจะหาวิธีจัดการที่ปลอดภัยทั้งคนและร่างของสัตว์

สำหรับการนำร่างเข้าเตาเผา จะมีการขึ้นกระดานให้ทุกคนทราบถึงคิวเผา และรหัสที่จัดทำไว้ เพื่อป้องกันการสับสน หรือข้อมูลที่สลับกัน ซึ่งตอนนี้มีข้อจำกัดในพื้นที่ เนื่องจากวัดที่มีเตาเผาสัตว์ในหาดใหญ่ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน จึงจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำจากกรมปศุสัตว์ ตอนนี้จึงอยู่ระหว่างการประสานงานกับวัดเพื่อหาทางติดตั้งเตาเผาสัตว์ และกรมควบคุมมลพิษ 

ทั้งนี้หากเจ้าของสัตว์เลี้ยงเป็นมุสลิม ก็มีการประสานกับมัสยิสบางแห่งที่สามารถนำร่างสัตว์ไปฝังได้แล้ว

  • ขั้นตอนที่ 4 บรรจุอัฐิ

เมื่อนำร่างไปเผาแล้ว จะมีการเก็บอัฐิของสัตว์ทุกตัวเอาไว้อย่างดีแม้ว่าจะยังไม่เจอเจ้าของ โดยจะมีการทำบุญให้ปีละ 1 ครั้ง และนำเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลออนไลน์ เพื่อให้เจ้าของสามารถตามหาได้ง่ายขึ้น

รวมถึงให้เจ้าของที่กำลังตามหาสัตว์เลี้ยงลงทะเบียน และระบุรายละเอียดของสัตว์ที่สูญหายไว้ด้วยอีกทางหนึ่ง เพื่อให้จับคู่กันระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ง่ายขึ้นด้วย

ฎายิน เพชรรัตน์ มูลนิธิ SOS Animal Thailand Foundation หนึ่งในสมาชิก War Room ภาคประชาชน

เสนอขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงทั่วประเทศ

หากถามถึงข้อกังวลในโครงการส่งน้องกลับดาว ฎายิน บอกว่า เรื่องนี้มีประเด็นที่ซ้อนกันอยู่หลายมิติ ทั้งเรื่องการดูแลสภาพจิตใจผู้ที่เผชิญความสูญเสีย และการจัดการสุขอนามัยของคนในพื้นที่ ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่ท้าทาย

“เรากำลังทำงานกับความรู้สึกของคนที่สูญเสียพลัดพราก และยังต้องการความเร่งด่วนในการจัดการ เพื่อสุขอนามัยของคนในพื้นที่ สิ่งหนึ่งที่ทำให้วิกฤตในครั้งนี้จัดการค่อนข้างยากลำบาก เพราะการพิสูจน์สัตว์เลี้ยงทำได้ยาก”

ฎายิน เพชรรัตน์

จึงเสนอให้มีการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงทั่วประเทศ นอกจากจะช่วยให้ตามหาได้ง่ายขึ้นยามเกิดภัยพิบัติหรือสูญหาย ยังช่วยให้จำนวนสัตว์จรจัด (ที่ส่วนหนึ่งมากจากการพลัดพรากจากเจ้าของ) ลดลงได้ด้วย

ในขณะที่ ตอนนี้มีเพียงแค่กทม.ที่ประกาศขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง และฝังไมโครชิปที่จะประกาศใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ม.ค. 69 เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (2 ธ.ค. 68) ทางทีม War Room ภาคประชาชน จะลงพื้นที่หาดใหญ่ เพื่อพูดคุยกับกรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมประเมินสถานการณ์ เพื่อวางแผนในการทำงานต่อไปด้วย

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active