“ธรรมกาย” ปัดเกี่ยวข้อง “ลัทธิโยเร”

แจงเป็นวัดในพระพุทธศาสนา สังกัดคณะสงฆ์ไทย ขู่เสนอข่าวเท็จส่อผิดกฎหมาย ขณะที่ “ลัทธิโยเร” อ้างว่าเป็นพุทธแขนงหนึ่ง อาศัยความเชื่อเรื่อง “พระศรีอริยเมตไตรย” พบกรมการศาสนา เพิกถอนสถานะพุทธนิกายมหายาน แต่ยังดำเนินการในรูปแบบมูลนิธิ 

วันนี้ (4 ม.ค.67) สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย โพสต์ระบุ ตามที่สื่อออนไลน์บางสำนักนำเสนอข่าวอันเป็นเท็จว่า “ลัทธิโยเร” เชื่อมโยงเกี่ยวพันกับวัดพระธรรมกายนั้น

วัดพระธรรมกาย ขอชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับกลุ่มความเชื่อตามที่สื่อกล่าวอ้าง ทั้งนี้ วัดพระธรรมกายเป็นวัดในพระพุทธศาสนา สังกัดคณะสงฆ์ไทย ยึดแนวปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยของสงฆ์เถรวาท ภายใต้การปกครองของมหาเถรสมาคม (มส.)  ดังนั้นการนำเสนอข่าวที่ปราศจากข้อเท็จจริง อาจเป็นการกระทำผิดกฎหมายได้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชื่อของ ลัทธิโยเร ปรากฏอยู่ในหน้าข่าว เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดกรณีแม่วัย 51 ปี นั่งเฝ้าศพลูกชายที่เสียชีวิตมานานกว่า 4 วัน โดยไม่นำศพลูกไปประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งข่าวนี้ก็ถูกระบุถึงลัทธิโยเรเช่นกัน

เช่นเดียวกับกรณีข่าวสัตวแพทย์หญิง จบชีวิตตัวเอง และลูกสาววัย 12 ปี พร้อมทิ้งข้อความแปลกๆ #ขอให้การตายครั้งนี้นำมาซึ่งอิสรภาพทั่วทุกจักวาล ก่อนที่สามีของผู้ตาย ออกมาเปิดเผยถึงภาวะซึมเศร้าและการไปนับถือ ลัทธิโยเร ของภรรยา 

เปิด Time line “ลัทธิโยเร” ในไทย 

  • ปี 2511 ลัทธิโยเร เข้าสู่ประเทศไทยในโดย คาซูโอะ วากูกามิ หนึ่งในลูกศิษย์รุ่นแรกของ โมกิจิ โอกาดะ เริ่มต้นจากการเผยแพร่คำสอนโดยการแปลเอกสารทางศาสนา และก่อตั้งโรงเรียนเกษตรกรรมในประเทศไทย จดทะเบียนในชื่อ “มูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา” ต่อมากรมการศาสนา ได้รับรองให้มูลนิธิเป็นองค์กรศาสนาย่อยของศาสนาพุทธนิกายมหายาน มีการเผยแพร่ศาสนาและมีศาสนิกชนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว 
  • ปี 2519 กรมการศาสนา รับรองให้มูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา เป็นองค์กรศาสนาย่อยของศาสนาพุทธนิกายมหายาน “ลัทธิเซไกคีวเซ” หรือ “ลัทธิโยเร” เริ่มวางนโยบายเผยแผ่ศาสนาแก่ลูกหล่านเกษตรกรในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
  • ปี 2521–2524 มีศาสนิกชนเพิ่มขึ้นเท่าตัว มีการสร้างสถานปฏิบัติธรรมหรือโบสถ์ของลัทธิในจังหวัดเชียงใหม่, ลำปาง, สุโขทัย, สระบุรี และ ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่ซอยสีฟ้า ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร
  • ปี 2527 กรมการศาสนา ได้เพิกถอนสถานะการเป็นนิกายของศาสนาพุทธนิกายมหายาน ถูกลดสถานะกลับไปเป็นมูลนิธิ
  • ปัจจุบัน ลัทธิโยเร มีสถานะเป็นมูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา มีสาขาทั้งหมด 24 สาขา ที่ กรุงเทพ, สระบุรี, นนทบุรี, ฉะเชิงเทรา, สระแก้ว, จันทบุรี, ระยอง, นครราชสีมา, อุบลราชธานี, ร้อยเอ็ด, สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต, หาดใหญ่, เชียงใหม่, ลำปาง, สุโขทัย, พิษณุโลก, แพร่, น่าน และเพชรบูรณ์ โดยสถานที่บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ของลัทธิโยเรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หรือ “หอเซจิ” ตั้งอยู่ที่ ต.ชำผักแพว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี บนเนื้อที่กว่า 430 ไร่ 

ลักษณะสำคัญ “โยเร” คือพิธีกรรมแปลกๆ ผู้ที่จะเข้าร่วมต้อง “รับพระ” ซึ่งมีค่าใช้จ่าย และต้องปฏิบัติศาสนกิจ เรียกว่า “กิจกรรมพระ” รวมถึงต้องเผยแพร่ศาสนาเพื่อเพิ่มจำนวนศาสนิกชนให้มากขึ้น หลังจากนั้น สาวกโยเร ต้องพกพระโยเรติดตัวเอาไว้ และจะสามารถปล่อยแสงทิพย์ออกจากมือเพื่อรักษาโรคได้ โดยกล่าวคาถาบูชาว่า 

“ขออำนาจพระศรีรัตนตรัยและท่านเมซึซามะ ขอให้คนข้างหน้าจงมีความสุข” หรือบ้างก็กล่าวว่า “ขออำนาจบารมี คุณพระศรีอริยเมตไตรย และท่านเมซึซามะ โปรดประทานแสงทิพย์ เพื่อชำระเมฆหมอกความขุ่นมัว” จากนั้นจะยกมือขึ้นระดับศีรษะ หันมือเข้าหาผู้รับแสง ยกค้างไว้ 10-15 นาที วันละครั้งหรือสองครั้ง เพราะเชื่อว่าเป็นการรักษาโรคภัย

โยเร มีความเชื่อเรื่องการส่งพลังแสง ผ่านฝ่ามือสู่ร่างกายเพื่อจุดประสงค์ในการรักษาความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ และยังมีแนวปฏิบัติอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องความงาม ศิลปะจากธรรมชาติ ทั้งนี้ คำสอนหลักของลัทธิโยเรคือการทำความดี และต้องชักชวนลูกหลานให้มาร่วมเป็นสาวก

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ กลุ่มเป้าหมายสาวกของโยเร คือผู้สูงอายุที่มีเงิน ถูกหลอกให้เชื่อเรื่องการรักษาโรคโดยใช้การปล่อยพลังจากแสง ที่เข้ากับเทรนด์การรักษาโรค และการปฎิบัติธรรมที่ดูสวยงามสงบ 

ย้อนไป ปี พ.ศ.2478 เป็นลัทธิศาสนาใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยเกิดจากการผสมผสานความเชื่อของลัทธิชินโด ศาสนาพุทธนิกายมหายาน และหลักจริยธรรมสากล ก่อตั้งโดย “โมกิจิ โอกาดะ” หากใครเคยไปญี่ปุ่นในอดีตจะมีคนพบสาวกของลัทธิ ยืนยกมือแผ่พลังตามสถานีรถไฟ รวมทั้งดึงคนเข้าลัทธิอีกด้วย 

สื่อญี่ปุ่นเคยออกมาเตือนว่าโยเร เป็นลัทธิอันตราย เพราะคำสอนหลายอย่างเข้าข่ายการล้างสมอ! รวมทั้งเคยมีรายงานว่า หลังผู้นำลัทธิโอมชินริเกียว อย่างโชโกะ อาซาฮาร่า ถูกจับจากกรณีก่อการร้ายปล่อยก๊าซซารีนในสถานีรถไฟ รวมทั้งความเชื่อว่าพลังและเหรียญนั้นสามารถรักษาโรคได้ จะทำให้สาวกและคนใกล้ตัวอาจจะถูกบังคับให้ปฎิเสธการรักษาในแผนปัจจุบันไป จนอาจจะกำเริบเสียชีวิต

พระศรีอริยเมตไตรย คือใคร 

ตามความเชื่อแล้ว พระศรีอริยเมตไตรย หรือ พระศรีอาริย์ เป็นพระโพธิสัตว์ผู้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ที่ 5 และองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัปนี้ พุทธศาสนิกชนเชื่อว่าเมื่อศาสนาของพระโคตมพุทธเจ้าสิ้นสุดไปแล้ว โลกจะล่วงเข้าสู่ยุคแห่งความเสื่อมถอย จากนั้นจะเข้าสู่ยุคที่มีพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีครบ 80 อสงไขยแสนมหากัป ลงมาตรัสรู้เป็น พระเมตไตรยพุทธเจ้า 

แม้พระศรีอริยเมตไตรยจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล แต่ปัจจุบันศาสนิกชนในหลาย ๆ ศาสนาก็เชื่อและอ้างว่าผู้นำทางศาสนาของตนเป็นพระศรีอริยเมตไตรยที่พระโคตมพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ไว้ 

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active