‘เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ’ บุกเวที ค.3 ท่าเรือแหลมริ่ว ชี้ EHIA ขาดความชอบธรรม อ้างผลศึกษาไม่ครอบคลุม พบ 13 ประเด็นข้อผิดพลาดร้ายแรง วอนยุติเวที
วันนี้ (6 ส.ค. 68) เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ และกลุ่มภาคประชาชนภาคใต้ รวมตัวกันเพื่อขอคัดค้านร่างรายงานและกระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ระนอง-ชุมพร และขอให้ยุติการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 (ค.3) ตามที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาให้ดำเนินการศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อำเภอเมืองระนอง จ.ระนอง และในวันนี้ที่จัดเวทีรับฟังความเห็น ค.3 โครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณเเหลมริ่ว จ.ชุมพร ภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์

เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ย้ำว่า เนื้อหาและกระบวนการจัดทำร่าง EHIA โครงการดังกล่าวเกิดข้อผิดพลาดอย่างน้อย 13 ประการ อาจทำให้ขาดความชอบธรรมในการนำร่าง EHIA ฉบับนี้ ไปจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น และนำไปประกอบการพิจารณาตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการฯ ประกอบด้วย
- การกำหนดขอบเขตการศึกษาผลกระทบ (Scoping) กำหนดรัศมีการศึกษาเพียง 5 กิโลเมตรไม่ครอบคลุมผลกระทบทั้งหมด ทำให้ชุมชนและระบบนิเวศนอกรัศมีไม่ได้รับการศึกษา
- ไม่มีข้อมูลผลกระทบต่อการวางไข่ของปลาทูซึ่งอำเภอหลังสวนเป็นหนึ่งในแหล่งวางไข่ที่สำคัญของปลาทูในอ่าวไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การเติบโตของปลาทูและมีผลกระทบต่อเนื่องในบริบทความมั่นคงทางอาหาร
- ไม่มีผลการศึกษาเรื่องการกัดเซาะชายหาดจากการถมทะเลกว่า 5,800 ไร่ใกล้พื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสมุทรศาสตร์และการกัดเซาะชายฝั่ง แต่กลับไม่มีการศึกษาประเด็นดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถที่จะกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้อย่างเป็นรูปธรรม
- พื้นที่ก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกตั้งอยู่บนแหล่งทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง การขุดลอกและถมทะเลหลายพันไร่ จะทำลายและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อแหล่งทรัพยากรและกลุ่มประมงพื้นบ้าน แต่กลับไม่มีการระบุข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและประเมินผลกระทบไว้โดยละเอียด
- ขาดข้อมูลการศึกษาผลกระทบด้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักที่ยั่งยืนในจังหวัดระนอง และชุมพร ที่สามารถกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้คนจำนวนมาก กลับไม่มีข้อมูลความเสียหายที่จะกระทบในส่วนนี้
- ข้อมูลและการประเมินผลกระทบในรายงานศึกษาไว้เพียงระยะก่อสร้าง แต่ไม่ครอบคลุมถึงระยะการดำเนินการประกอบกิจการท่าเทียบเรือและการขนส่งตู้สินค้า ทำให้ไม่สามารถพิจารณาถึงผลกระทบของโครงการฯ ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น
- การขาดผลการศึกษาเรื่องปัจจัยผลกระทบด้านภัยพิบัติ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่โครงการ เช่น การเปลี่ยนแปลงสมุทรศาสตร์ สึนามิ พายุ และแผ่นดินไหว รวมถึงอุบัติเหตุจากการดำเนินการของโครงการ เช่น การระเบิดหรือไฟไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ เป็นต้น
- การปรากฎข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เช่น บุคลากรทางการแพทย์มีมากกว่าจำนวนจริง จำนวนสัตว์หน้าดินที่มีน้อยผิดปกติ ข้อมูลที่ใช้ในการเขียนรายงานเกือบทั้งหมดเป็นข้อมูลทุติยภูมิ ไม่ได้ระบุผลกระทบต่อประเด็นต่างๆ รวมถึงการเก็บข้อมูลส่วนใหญ่ที่เป็นข้อมูลทุติยภูมิมากกว่าการใช้เป็นข้อมูลปฐมภูมิ
- การคัดเลือกสถานที่ตั้งท่าเรือและแบบท่าเรือมีการใช้ค่าคะแนนที่ไม่เหมาะสม ให้สัดส่วนคะแนนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าด้านมูลค่าการลงทุนและวิศวกรรมอย่างอธิบายไม่ได้
- กระบวนการมีส่วนร่วมในการศึกษามีข้อสงสัยหลายประการ เช่น เวที ค.1 การมีส่วนร่วมที่เชิญเพียงกลุ่มเฉพาะ ไม่ได้เปิดกว้างให้กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วม เวที ค.2 ขาดการผลศึกษาจากกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มผู้รับผลกระทบโดยตรงจำนวนมาก รวมถึงการเปิดรับฟังความคิดเห็นเพียงแค่ 45 นาทีต่อครั้ง
- ความไม่คุ้มค่าของโครงการ การทุ่มงบประมาณก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเฟส 1 ขนาด 20 ล้าน TEUs ไม่สามารถประกันความคุ้มค่าในทางเศรษฐกิจ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เคยศึกษาและสรุปแล้วว่าไม่คุ้มค่าแต่การศึกษาครั้งนี้กลับไม่ได้ทบทวน
- ขาดผลการศึกษาผลกระทบต่อการไหลของน้ำและการกัดเซาะจากการก่อสร้างสะพานเชื่อมท่าเรือทั้งที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
- ขาดผลการศึกษาของภาพรวมโครงการ รายงานฉบับนี้เน้นแยกส่วนการศึกษาเป็นรายกิจการในโครงการแลนด์บริดจ์ ควรจะมีการศึกษาทั้งโครงการท่าเรือน้ำลึกจำนวน 2 ท่า โครงการรถไฟรางคู่ และโครงการมอเตอร์เวย์ แต่กลับแยกเป็นรายโครงการ ทำให้ไม่เห็นภาพรวมความเชื่อมโยงของผลกระทบจากการดำเนินโครงการทั้งที่เป็นโครงการเดียวกัน
“จากเหตุผลทั้งหมดข้างต้น แสดงให้เห็นถึงข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรง ทั้งการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในรายงาน และกระบวนการประเมินผลกระทบที่บกพร่องอย่างจงใจ ไม่ศึกษาให้ครอบคลุมผลกระทบที่มีสาระสำคัญหลายประการ ทำให้ผลสรุปรายงานไม่สะท้อนความเป็นจริง ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นและการพิจารณาตัดสินใจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ”





เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ยืนยันไม่ยอมรับร่างรายงาน EHIA ฉบับนี้ และขอเรียกร้องต่อ สนข. ดังนี้
- ขอให้ยุติการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 และหยุดการนำร่างรายงาน EHIA ที่ไร้ความชอบธรรมฉบับนี้ ไปประกอบการรับฟังความคิดเห็นหรือการพิจารณาตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการแลนด์บริดจ์โดยทันที
- ขอให้ตรวจสอบกระบวนการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของบริษัทที่ปรึกษา ที่มีการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตรงไปตรงมา และไม่เป็นไปตามหลักการแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
- ขอให้รัฐบาลพิจารณาการพัฒนาศักยภาพของจังหวัดชุมพรและระนองในมิติอื่น ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การประมง และการเกษตร ซึ่งจะสร้างประโยชน์ที่ยั่งยืนมากกว่าการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการทำลายสิ่งแวดล้อมและชุมชน