เปิดเวทีสัมมนาชาวเกาะอย่างเป็นทางการ ผู้แทนเกาะในประเทศไทย และภาคีเครือข่าย ร่วมกิจกรรมปล่อยปู และกุ้ง คืนสู่ท้องทะเลพร้อมร่วมประกาศเจตนารมณ์ปกป้องทรัพยากรทางทะเลด้วยภูมิปัญญาและนวัตกรรม สู่เกาะคาร์บอนเป็นศูนย์ เพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน
วันนี้ (7 มิ.ย. 2567) การสัมมนาชาวเกาะ ครั้งที่ 2 เกาะลันตา จ.กระบี่ ภายใต้แนวคิดผนึกพลัง สร้างมูลค่าใหม่เกาะไทย มุ่งยกระดับ สู่การท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ มีการจัดกิจกรรม “ปล่อยปูหน้าขาว..คืนบ้านให้เสฉวน… หวนคํานึงวิถีชาวเล” เนื่องในวันมหาสมุทรโลก หรือ วันทะเลโลก World Ocean Day (วันที่ 8 มิ.ย.) เพื่อแสดงถึงพลังชาวเกาะในการร่วมปกป้องทรัพยากรทางทะเล ด้วยภูมิปัญญาและนวัตกรรม รักษาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล และวิถีชีวิตชุมชนชาวและสร้างมูลค่าใหม่ให้แก่เกาะของไทย
พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลใหความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน และได้เน้นย้ำกับทุกส่วนงานให้พัฒนางานด้าน การท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงและคํานึงถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นหลัก และการสัมมนาชาวเกาะครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายความร่วมมือที่ดีระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นําเกาะ และองค์กรภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ในการพัฒนาเกาะและแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่สำคัญให้มีแนวทางการบริหารจัดการและพัฒนาเกาะท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เพื่อสร้างสมดุลทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และ พัฒนาการท่องเที่ยวของไทย ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
“เป็นเรื่องที่ดีที่ได้รับฟังข้อมูลหลาย ๆ ด้าน ในเรื่องการท่องเที่ยว ปัญหาที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงผู้นำท้องถิ่นได้สะท้อน นโยบายหลักของไทยคือ การท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยวมีนโยบายเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และจุดขายคือ วัฒนธรรม ประเพณี รอยยิ้ม มีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม และรัฐบาลมีแผน IGNITE THAILAND 356 วันจะเป็นวันท่องเที่ยวที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและช่าวต่างชาติได้เข้ามาท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากปีที่ผ่านมามีตัวเลขนักท่องเที่ยว 3.8 ล้านคน ปีนี้ไตรมาสแรก 2.3 ล้านคน แสดงให้เห็นว่านี่คือปีทองของทุกคนที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสร้างรายได้ให้คนพื้นที่ โดยเสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยวอย่างหนึ่งคือ ความปลอดภัย การรับบริการรถสาธารณะ ได้จัดการเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยมีนโยบายว่า ปลอดภัยตั้งแต่สนามบินจนถึงบ้าน”
พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ
ณัฐธยาน์ ผาสุข นายอำเภอเกาะลันตา กล่าวว่า การจะส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเกิดความยั่งยืนได้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งผู้ให้บริการ ชุมชน หรือหน่วยงานที่เป็นเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้การท่องเที่ยวมีคุณภาพ ทาง จ.กระบี่ ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมของแหล่งท่องเที่ยว ที่ต้องเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งภาครัฐ เอกชน ทุกคนคือเครือข่าย ที่จะร่วมขับเคลื่อน ส่งเสริม สนับสนุน ยกระดับคุณภาพการให้บริการ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับแหล่งท่องเที่ยว
“หวังว่าการรวมตัวในกิจกรรมนี้ จะเป็นกรเตรียมความพร้อม และเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ให้มีคุณภาพ มีมาตรฐานในการรองรับนักท่องเที่ยว สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเข้ามา และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่”
ณัฐธยาน์ ผาสุข นายอำเภอเกาะลันตา
ขณะที่กิจกรรมปล่อยปูหน้าขาว..คืนบ้านให้เสฉวน… หวนคํานึงวิถีชาวเล มีตัวแทนจากเกาะเต่า เกาะช้างใต้ เกาะลิบง เกาะหลีเป๊ะ มูลนิธิการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ร่วมกล่าว ประกาศเจตนารมณ์ปกป้องทะเลไทย ว่า
“พวกเรา เครือข่ายประชาคมชาวเกาะประเทศไทย จำนวน 33 เกาะ จาก 932 เกาะทั่วประเทศไทย ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกที่จะลุกขึ้นมาประกาศเจตนารมณIความร่วมมือใน การพิทักษ์ ปกป้อง ดูแลและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของเกาะและทรัพยากรทะเล ตลอดจนสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ของสหประชาชาติ และ เป้าหมาย 30 บาย 30 หรือ เป้าหมายการเพิ่มพื้นที่คุ้มครองร้อยละ 30 ภายในปี ค.ศ.2030 ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายความร่วมมือระดับโลก ของกว่า 100 ประเทศ จากการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 15 หรือ COP 15 เมื่อปลายปี พ.ศ.2565 ที่เรียกร้องให้มีการปกป้องและอนุรักษ์มหาสมุทร แผ่นดิน และ แหล่งน้ำจืดอย่างน้อยร้อยละ 30 ภายในปี ค.ศ. 2030″
“กิจกรรมปล่อยปูหน้าขาว..คืนบ้านให้เสฉวน… หวนคํานึงวิถีชาวเล” เนื่องในวันมหาสมุทรโลก ถือเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของพลัง พวกเราชาวเกาะในการร่วมปกป้องทรัพยากรทางทะเล ด้วยภูมิปัญญาและนวัตกรรม รักษาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล และเคารพวัฒนธรรม วิถีชีวิตชาวเล และพร้อมมุ่งมั่นยกระดับขับเคลื่อนผนึกพลัง สร้างมูลค่า ใหม่ให้แก่เกาะของไทย มุ่งสู่การพัฒนาเกาะเพื่อการท่องเที่ยวเกาะอย่างยั่งยืน และ การท่องเที่ยวเกาะคาร์บอนเป็นศูนย์เพื่อให้เกาะบ้านเราน่าอยู่ น่าเที่ยวและยั่งยืน ส่งต่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานสืบต่อไป”
คำประกาศเจตนารมณ์ผู้นำเกาะ