นายกฯ ตีตกกฎหมาย ‘บำนาญถ้วนหน้า’ ตรึงเบี้ยชรา ต่ำกว่าเส้นยากจน

เผย ร่างกฎหมายฯ ฉบับพรรคก้าวไกล ที่เคยเสนอ กำหนดให้รัฐจัดสรรบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ในอัตราไม่น้อยกว่าเส้นความยากจน ปรับทุก 3 ปี จ่ายตรงให้แก่ประชาชน ย้ำ 600 บาท/เดือน ไม่พอกิน จี้ นายกฯ แจงเหตุผลปัดตก ทั้งที่ ‘เพื่อไทย’ เคยเห็นชอบเมื่อสมัยรัฐบาลประยุทธ์

ตามที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจไม่ให้คำรับรองร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับบำนาญประชาชน 3 ฉบับ และกฎหมายสหภาพแรงงานอีก 1 ฉบับ ได้แก่

  1. ร่างพระราชบัญญัติบำนาญแห่งชาติและสวัสดิการผู้สูงอายุ พ.ศ. …. เสนอโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

  2. ร่างพระราชบัญญัติบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า พ.ศ. …. และพระราชบัญญัติสหภาพแรงงาน พ.ศ. …. เสนอโดย เซีย จำปาทอง ขณะนั้นยังเป็น สส. พรรคก้าวไกล

  3. ร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. …. เสนอโดย ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานกรรมาธิการสวัสดิการสังคม และขณะนั้นยังเป็น สส. พรรคก้าวไกล

ปัจจุบันจึงเหลือเพียง ร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุและบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ ซึ่งมีรายชื่อประชาชนสนับสนุน 43,826 รายชื่อ ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้รับการพิจารณาหรือถูกปัดตกเช่นเดียวกัน โดยร่างกฎหมายฉบับของ สส.ก้าวไกล ที่ถูกตีตกไปนั้น มีใจความสำคัญ คือ กำหนดให้รัฐต้องจัดสรรบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้าให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในอัตราไม่น้อยกว่าเส้นความยากจนที่กำหนดโดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมีการปรับอัตราทุก 3 ปี และต้องจ่ายตรงให้แก่ประชาชน

ท้วง เบี้ยยังชีพ 600 บาท/เดือน ไม่พอกิน ชี้ นายกฯ ไม่เข้าใจทุกข์ประชาชน

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคประชาชน และหนึ่งในผู้ร่วมเสนอกฎหมาย โพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจผ่านสื่อออนไลน์ โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ปัดตกกฎหมายบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า และร่างกฎหมายผู้สูงอายุที่พรรคก้าวไกลเคยเสนอ พร้อมตั้งคำถามว่า รัฐบาลไม่กล้าให้สวัสดิการผู้สูงอายุหรือไม่ และเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาใหม่

พร้อมทั้งระบุว่า กฎหมายทั้ง 2 ฉบับที่ถูกปัดตกมีหลักการสำคัญเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ โดยกำหนดให้ผู้สูงวัยได้รับบำนาญพื้นฐานที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เพราะเบี้ยยังชีพปัจจุบันที่ 600 บาทต่อเดือนไม่เพียงพอแม้แต่ค่าอาหารวันละมื้อเดียว จึงตั้งข้อสังเกตว่านายกรัฐมนตรีอาจไม่ได้เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ผลการศึกษาของกระทรวงการคลัง ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า รายได้หลังเกษียณควรอยู่ที่ไม่น้อยกว่า 50% ของรายได้ก่อนเกษียณ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น หากเคยมีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน ก็ควรมีเงินเก็บที่สามารถใช้จ่ายได้ประมาณ 25,000 บาทต่อเดือน เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตใกล้เคียงกับช่วงวัยทำงาน

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังพบด้วยว่า ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำของผู้สูงอายุอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาทต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าเบี้ยยังชีพปัจจุบันที่ 1,000 บาทต่อเดือน จึงไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะเมื่อค่าครองชีพเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เบี้ยยังชีพยังอยู่ที่ 600 บาท ไม่ได้รับการปรับขึ้นมานานกว่า 10 ปี แต่ส้นความยากจนก็เพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยปี 2566 อยู่ที่ 2,997 บาท

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคประชาชน

ถาม ‘เพื่อไทย’ เคยเห็นชอบ สมัย รบ.ประยุทธ์
เหตุใดจึงตีตก เมื่อถึงเวลาบริหารเอง ?

สำหรับร่างกฎหมายบำนาญแห่งชาติ และร่างกฎหมายผู้สูงอายุ เคยถูกพิจารณาในสมัยรัฐบาลก่อน ซึ่งขณะนั้นคณะกรรมาธิการสวัสดิการสังคมที่ประกอบด้วยทุกพรรคการเมือง รวมถึงพรรคเพื่อไทย เห็นตรงกันว่าสวัสดิการนี้มีความจำเป็น ต้องมีบำนาญขั้นพื้นฐานไปช่วยเหลือผู้สูงอายุให้เขาสามารถดำรงชีพได้ในวัยที่อ่อนแรงลง ทำงานได้ไม่เหมือนเดิมหรือทำงานไม่ได้แล้ว แต่รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ปัดตกด้วยเทคนิคทางกฎหมาย

ณัฐชา จึงตั้งคำถามต่อรัฐบาลปัจจุบัน ว่า ทำไมถึงใช้แนวทางเดียวกัน ทั้งที่ภาคประชาชนเคยมีความหวังว่า นายกฯ แพทองธาร จะมีแนวคิดที่แตกต่างจากรัฐบาลก่อน แต่กลับพบว่า มีแนวทางเดียวกัน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงเหตุผลที่ปัดตกกฎหมายเหล่านี้ หากมีปัญหาด้านงบประมาณ หรือรายละเอียด ก็ควรนำเข้าสู่สภาฯ เพื่ออภิปราย ไม่ใช่ตัดสินใจโดยไม่ให้โอกาสพิจารณา

“เราเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า คุณแพทองธาร จะต้องมีความคิดที่แตกต่างจาก พล.อ. ประยุทธ์ มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนมากกว่าแน่ จะผ่านต้องร่างกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ แน่ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเมื่อข้ามขั้วไปแล้วจะสืบสันดานทางความคิดจนดูเป็นเนื้อเดียวกันได้ขนาดนี้”

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์

ณัฐชา ยังอ้างถึง ทักษิณ ชินวัตร ว่า เป็นผู้สูงวัย และตั้งคำถามเชิงเปรียบเทียบว่า หากอดีตนายกรัฐมนตรีต้องดำรงชีวิตด้วยเบี้ยยังชีพเพียง 600 บาทต่อเดือน ลูกสาวที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาผ่านร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกล ควบคู่กับร่างฉบับประชาชนเพื่อให้สภาได้พิจารณาอย่างรอบด้านที่สุด

“อยากขอร้องให้ นายกฯ พิจารณาใหม่ ผ่านร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลคู่ไปกับฉบับของประชาชน เพื่อให้สภาฯ ได้มีโอกาสพิจารณาอย่างถี่ถ้วนที่สุดในการออกนโยบายผู้สูงอายุ ให้คิดเหมือนดูแลพ่อตัวเอง ถ้าคุณทักษิณต้องกินข้าวกับไข่ต้มแค่วันละมื้อ ในฐานะลูกสาวที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร จะให้ได้ไหมบำนาญถ้วนหน้ากับคุณทักษิณ”

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active