ในจำนวนพืชพรรณนานับชนิด รวมถึงสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วผืนแผ่นดินไทย จะพบว่ามีพรรณไม้ ดอกไม้ที่มีชื่อพ้องกับพระนามาภิไธย สิริกิติ์ อยู่ไม่น้อย
บ้างเป็นไม้ป่าหายากที่เพิ่งถูกค้นพบภายในพื้นที่อนุรักษ์ บ้างเป็นไม้ดอกที่ผ่านการปรับปรุงพันธุ์ให้มีสีสันงดงามเป็นพิเศษ และอีกหลายชนิดได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานชื่อจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
แต่เบื้องหลังของชื่ออันงดงามของพืชพรรณเหล่านี้ คงไม่ได้เป็นเพียงเครื่องหมายแห่งการถวายพระเกียรติเท่านั้น หากยังสะท้อนถึงพระราชจริยวัตรของพระองค์ ที่ทรงห่วงใยต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด และยังทรงตระหนักถึงความสำคัญของรักษาไว้ซึ่ง ความหลากหลายทางชีวภาพ อันเป็นรากฐานของชีวิต
นั่นทำให้ตลอดช่วงการทรงงาน เกิดเป็นแนวทางพระราชดำริการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุล เพื่อให้ทั้งมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
The Active ชวนย้อนดูว่าที่ผ่านมาประเทศไทยมีพืชพรรณชนิดใดบ้าง ที่ได้รับการตั้งชื่อเฉลิมพระเกียรติ อัญเชิญพระนามาภิไธย จนถึงการได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานชื่อจาก สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมพาไปทำความเข้าใจถึงแนวพระราชดำริด้านการอนุรักษ์ และรักษาไว้ซึ่งความหลากหลายแห่งชีวิต
‘พรรณไม้’ ที่ขอพระราชทานนามตั้งชื่อ
โมกราชินี

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Wrightia sirikitiae D.J.Middleton & Santisuk
- วงศ์ : วงศ์ตีนเป็ด Apocynaceae
- คำระบุชนิด : “sirikitae” ตั้งเพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 29 หน้า 1-4 ปี ค.ศ. 2001 จากพรรณไม้ต้นแบบ Middleton & Wongprasert 579 (holotype: A; isotypes: AAU, BKF, E, K, L, MO, NY, TCD) ที่เก็บจากวัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
- ลักษณะพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงถึง 10 เมตร กิ่งอ่อนมีขนหนาแน่น กิ่งแก่เกลี้ยงมีช่องอากาศ ใบเรียงตรงข้าม รูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว 3-10 เซนติเมตร
- การกระจายพันธุ์ : เป็นพืชถิ่นเดียวของไทย พบที่ จ.นครสวรรค์ สระบุรี ลพบุรี และสระแก้ว
มหาพรหมราชินี

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mitrephora sirikitiae Weerasooriya, Chalermglin & R.M.K.Saunders
- วงศ์ : วงศ์กระดังงา Annonaceae
- คำระบุชนิด : “sirikitae” ตั้งเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ไดัรับการตีพิมพ์ในวารสาร Nordic Journal of Botany เล่ม 24 ฉบับที่ 2 หน้า 201-206 ปีค.ศ. 2004 จากพรรณไม้ต้นแบบ Chalermglin 460505 (holotype: QBG; isotypes: AAU, BK, BKF, C, CMU, HKU, K, L, TISTR) ที่เก็บจากอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ลักษณะพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 5-6 เมตร ใบเรียงเวียน รูปใบหอก ยาว 6-22 เซนติเมตร เป็นพืชถิ่นเดียวของไทย พบที่บริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
แคทลียาควีนสิริกิติ์

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cattleya ‘Queen Sirikit’
- วงศ์ : Orchidaceae
- กล้วยไม้ลูกผสมระหว่าง Cattleya Bow Bells และ Cattleya O’brieniana var. alba โดยบริษัท Black & Flory Ltd. สหราชอาณาจักร ลำต้นมีขนาดกะทัดรัด ดอกสีขาวมีแต้มสีเหลืองทอง ฟอร์มดี และจดทะเบียนตั้งชื่อพันธุ์เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2501 ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากสมาคมพืชสวนอังกฤษ ปีเตอร์ แมคเคนซี แบล็ค ผู้เป็นเจ้าของจึงขอพระราชทานพระราชานุญาต เชิญพระนามาภิไธย Queen Sirikit เป็นชื่อกล้วยไม้ และใช้ชื่อพันธุ์ว่า ‘Exquisite’ สำหรับลูกผสมที่นำเข้ามาปลูกเลี้ยงในประเทศไทยได้ออกดอกลักษณะเดียวกัน และได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากสมาคมพฤกษศาสตร์ในพระบรมราชินูปถัมภ์มีชื่อพันธุ์ว่า ‘Diamond Crown’ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานแคทลียาควีนสิริกิติ์ เป็นดอกไม้ประจำวันสตรีไทย
- ลักษณะพฤกษศาสตร์ : กล้วยไม้อิงอาศัยลูกผสม ความสูง 10 – 14 เซนติเมตร ลำต้นสีเขียวสด ลำแก่มีร่องตามแนวยาวลำละ 1 ใบ ใบเป็นใบเดี่ยวรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน
กุหลาบควีนสิริกิติ์

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rosa ‘Queen Sirikit’
- วงศ์ : วงศ์กุหลาบ Rosaceae
- ลูกผสมระหว่างกุหลาบพันธุ์ Konigin der Rosen และ Gloden Giant ซึ่งลูกผสมใหม่เรียกเป็นสายพันธุ์ Perr Gynt มีดอกขนาดใหญ่งดงาม มีสีเหลืองสดใส กิ่งก้าน และใบแข็งแรง บางครั้งกิ่งเดียวอาจจะมีดอก 1 – 3 ดอก มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และถ้าถูกแดดจัดตรงปลายกลีบจะแปรเป็นสีส้มเรื่อ ๆ ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดกุหลาบที่กรุง Belfast เมื่อปี พ.ศ. 2513 Andre’ Hendricx ชาวเบลเยี่ยม ผู้อำนวยการเรือนกุหลาบ Grandes Roseraiea Du Val De Loire ประเทศฝรั่งเศส จึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต อัญเชิญพระนามาภิไธย Queen Sirikit เป็นชื่อกุหลาบพันธุ์นี้ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2514 เอกสารนี้มีคำบรรยายตอนหนึ่งว่า “ดุจพระราชินีแห่งประเทศไทย ผู้ทรงพระสิริโฉม เป็นเสน่ห์แบบตะวันออก ที่เหนือตะวันตก” นิยมใช้เป็นต้นพันธุ์สำหรับผลิตลูกผสมพันธุ์ใหม่ ๆ
- ลักษณะพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่มสูง 1 – 2 เมตร ลำต้นสีน้ำตาลมีหนามแหลม ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ออกเวียนสลับ ใบย่อยรูปรี ปลายใบแหลมโคนใบสอบถึงมน ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย
ดอนญ่าควีนสิริกิติ์

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mussaenda ‘Queen Sirikit’
- วงศ์ : วงศ์เข็ม Rubiaceae
- ดอนญ่าพันธุ์นี้เป็นลูกผสมระหว่าง Mussaenda Dona Luz Mag Say Say กับ Mussaenda philippica var. aurora Sulit ซึ่งมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ ได้ผสมขึ้น และขอพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธย Queen Sirikit เป็นชื่อดอนญ่าพันธุ์ใหม่ ในคราวที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ใน พ.ศ. 2526
- ลักษณะพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูงประมาณ 1 – 3 เมตร ใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม รูปรี ปลายแหลม ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อมีใบประดับขนาดใหญ่รองรับสีชมพูอ่อน ขลิบขอบด้วยสีชมพูเข้มเกือบแดง
บัวควีนสิริกิติ์

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nymphaea ‘Queen Sirikit’
- วงศ์ : Nymphaeaceae
- บัวลูกผสมที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างบัวฝรั่งหรือบัวเขตอบอุ่น กับบัวผันของไทย โดย ไพรัตน์ ทรงพานิช นักวิชาการจากกรมวิชาการเกษตร สีดอกของบัวลูกผสมมีสีม่วงซึ่งถือว่าเป็นสีใหม่ที่ยังไม่เคยปรากฏมาก่อนในสายพันธุ์บัวเขตอบอุ่น สมาคมพฤกษศาสตร์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต ใช้ชื่อว่า บัวควีนสิริกิติ์ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ พระมารดาแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ เมื่อปี 2553
- ลักษณะพฤกษศาสตร์ : บัวลูกผสมที่เกิดจากการผสมพันธุ์โดยใช้บัวเขตอบอุ่นพันธุ์เพอรี่ส์ไฟรโอปอล (Perry’s Fire Opal) เป็นต้นแม่ และใช้บัวผันพันธุ์นางกวักฟ้าเป็นต้นพ่อ ได้ลูกผสมที่มีกลีบดอก 2 สี คือส่วนปลายกลีบดอกมีสีม่วง โคนกลีบดอกมีสีขาว ส่วนกลีบเลี้ยงมีสีขาวอมเขียว
นอกจากนั้นยังมีสัตว์และสิ่งมีชีวิต ได้แก่
ปูราชินี

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Thaiphusa sirikit (Naiyanetr, 1992)
- วงศ์ : Potamidae Ortmann, 1896
- ชื่อพื้นเมือง : ปูสามสี, ปูไตรรงค์, ปูป่า
- ชื่อสามัญ : Regal Crab,Terrestrial Crab
- ปูราชินี ค้นพบโดย สุรพล ดวงแข และว่าที่ร้อยตรี พิทักษ์ ชิดเครือ เป็นสัตว์เฉพาะถิ่น พบครั้งแรกบริเวณพุน้ำจืด และลำห้วย บริเวณบ้านน้ำโสม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับพระราชทานชื่อ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ปี 2534 และตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Crustaceana. 1992, 62(2): 112 – 120. ปูราชินี มีสามสี คือ สีแดง สีขาว สีน้ำเงินม่วงดำ พบเฉพาะที่ลำห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ และอุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ปะการังเขากวางพระบรมราชินีนาถ
เป็นปะการังเขากวางสกุล Acropora กิ่งลักษณะเป็นท่อกลมแตกแขนงคล้ายเขากวาง เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.2 – 1.8 เซนติเมตร ยาวได้ถึง 7 เซนติเมตร มีสีครีม เหลือง เหลืองอมน้ำตาล หรือน้ำตาล พบครั้งแรกเมื่อปี 2555 ในทะเลฝั่งอันดามัน ตั้งแต่หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา ไปถึงหมู่เกาะอาดัง-ราวี จ.สตูล มักพบตามแนวปะการังระดับน้ำตื้นไปจนถึงน้ำลึก
ตั้งชื่อเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม ปี 2555 ที่ทรงมีแนวพระราชดำริด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงการอนุรักษ์แนวปะการังของประเทศไทย ด้วยการใช้ปะการังเทียมเพื่อฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ
‘พรรณไม้’ ที่ได้รับพระราชทานนาม
นอกจากนั้นยังมีพืชพรรณที่ได้รับพระราชทานชื่อเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ที่ขึ้นในแหล่งธรรมชาติที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงทอดพระเนตรและทรงศึกษาพันธุ์ดอกไม้ป่าเป็นการส่วนพระองค์ ณ บริเวณทุ่งดอกไม้ป่า หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติผาแต้ม หน่วยที่ 1 (สร้อยสวรรค์) เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2548 และได้พระราชทานชื่อแก่ดอกไม้ป่า 5 ชนิด ในทุ่งแห่งนี้ ได้แก่
ดุสิตา

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Utricularia delphinioides Thorel ex Pellegr.
- วงศ์ : Lentibulariaceae
- มีชื่อเรียกที่แตกต่างไปแต่ละท้องถิ่น เช่น หญ้าข้าวก่ำน้อย หญ้าเข็ม หรือดอกขมิ้น เป็นพืชล้มลุกกินแมลงที่พบตามพื้นที่โล่งและชุ่มชื้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ดอกเป็นช่อสีม่วงเข้ม มีใบที่เปลี่ยนเป็นถุงสำหรับดักจับแมงขนาดเล็ก ออกดอกช่วงตุลาคม – ธันวาคม
มณีเทวา

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eriocaulon siamense Moldenke
- คำระบุชนิด : “siamense” หมายถึง สยาม หมายความว่าพืชชนิดนี้พบครั้งแรกในประเทศไทย
- มีชื่อเรียกทั่วไป เช่น กระดุมเงิน หญ้าตุ้มหู หญ้าผมหงอก เป็นไม้ล้มดอกกลมสีขาวออกเป็นช่อ พบมากในภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ออกดอกช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์
สร้อยสุวรรณา

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Utricularia bifida L.
- วงศ์ : Lentibulariaceae
- มีชื่อเรียกทั่วไป คือ เหลืองพิศมร หญ้าสีทอง สาหร่ายดอกเหลือง เป็นไม้ล้มลุกกินแมลงกอเล็ก ๆ ออกดอกเป็นช่อสีเหลือง งามสะพรั่งช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ในประเทศไทยพบตามพื้นที่โล่งและชุ่มชื้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีสรรพคุณแก้ไข้ บำรุงเลือด รักษาโรคระบบทางเดินปัสสาวะ
ทิพเกสร

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Utricularia minutissima Vahl
- วงศ์ : Lentibulariaceae
- มีชื่อเรียกทั่วไปว่าหญ้าฝอยเล็ก มีดอกสีม่วงอ่อนแกมชมพู ออกดอกช่วงสิงหาคม – ธันวาคม ในประเทศไทยพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
สรัสจันทร

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Burmannia coelestis D. Don
- วงศ์ : Burmanniaceae
- มีชื่อเรียกทั่วไป คือ หญ้าแลไข่กา จำปีบะ ดอกดิน กล้วยเล็บมือนาง กล้วยมือนาง หญ้าหนวดเสือ เลื้อมนกเขา หญ้านกเขา ไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ดอกสีชมพูจนถึงสีม่วงอ่อนอมฟ้า ส่วนปลายมีสีเหลืองหรือสีครีม พบตามบริเวณทุ่งหญ้าเปิด ริมหนองน้ำและบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ ในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม
นิมมานรดี

- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pinalia amica (Rchb.f.) Kuntze
- วงศ์ : Orchidaceae
- ชื่ออื่น : เอื้องผีพราย
- ลักษณะพฤกษศาสตร์ : กล้วยไม้อิงอาศัย ลำลูกกล้วยรูปทรงกระบอก เส้นผ่าน ศูนย์กลาง 2 ซม. สูง 7-10 ซม. ใบ รูปขอบขนานแกมรี กว้าง 2-3 ซม. ยาว 10 – 12 ซม.ดอก ออกเป็นช่อ ยาว 12-15 ซม. ก้านดอก มีขนนุ่มสีขาว กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีขาว มีขีดตามยาว สีแดงเข้ม กลีบปากสีขาวที่ปลายมีสีเหลือง เข้มและมีแต้มสีแดงเข้มที่หูกลีบปาก ดอกบานเต็มที่กว้าง 1-1.5 ซม. ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
- การกระจายพันธุ์ : ตามคบไม้ในป่าดิบเขา ตามที่โล่งแจ้งแสงแดดจัด ที่ความสูงความสูง 1,000 – 1,800 เมตร ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ
- สถานภาพ : พบได้ตามสวนพฤกษศาสตร์ ในธรรมชาติพบเพียงบางพื้นที่และมีจำนวนลดลง
- กล้วยไม้อิงอาศัย ดอกขนาดกลีบเล็กสีขาว มีเส้นตามยาวสีแดงเข้ม กลีบปากที่ปลายมีพื้นสีเหลืองเข้มและมีแต้มสีแดงเข้มที่โคนกลีบ ได้รับพระราชทานนามจากคราวเสด็จพระราชดำเนินโคกนกกะบา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย
‘พระมารดา’ แห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ
วรดลต์ แจ่มจำรูญ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอนุกรมวิธานพืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้คำอธิบายเพิ่มเติมกับ The Active ว่า การตั้งชื่อสิ่งมีชีวิต ทั้งหมดเป็นไปตามกฎทางพฤกษศาสตร์ โดยตั้งตามลักษณะเด่นของพรรณพืชนั้น ๆ ตั้งเพื่อเป็นเกียรติให้กับสถานที่ โดยในยุคใหม่ ๆ ก็จะตั้งในพื้นที่ที่เคยเจอครั้งแรก หรือตั้งตามบุคคลซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของที่พบจะพิจารณา ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัว

กรณีนักพฤกษศาสตร์ ตั้งชื่อโดยการถวายพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ก็เพราะพระองค์ท่านถือเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ กับวงการพฤกษศาสตร์ไทย พระองค์ทรงสนพระทัยเรื่องกล้วยไม้ พืชพรรณต่าง ๆ พร้อมทั้งยังทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จึงเป็นเหตุผลของการยกย่อง เทิดพระเกียรติ
ไม่เพียงเท่านั้น การเสด็จพระราชดำเนินไปทุกแห่งหนในประเทศไทย จึงทรงเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ ที่ไม่ใช่แค่หล่อเลี้ยงคนในป่า แต่สำหรับพระองค์แล้วได้ทรงตรัสอยู่บ่อย ๆ ว่าการอนุรักษ์ต้องประกอบ 3 ส่วนไปด้วยกัน คือ ป่าไม้ มนุษย์ และ สัตว์ป่า เหล่านี้คือ ความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ต้องเกื้อกูลไปด้วยกัน ไม่ให้สิ่งไหนหายไป
ผู้เชี่ยวชาญ จากกรมอุทยานฯ ยังบอกด้วยว่า สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังทรงมีพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และพรรณพืชอย่างต่อเนื่อง โดยทรงมุ่งเน้นการฟื้นฟูและรักษาป่าไม้ แหล่งน้ำ และความหลากหลายทางชีวภาพ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ประชาชนอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ตามพระราชดำรัสที่ว่า
“พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ
พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า”
โดยโครงการด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และการอยู่ร่วมกันของคนกับป่า ที่เกิดขึ้น เช่น โครงการป่ารักน้ำ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม โดยเฉพาะในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร พร้อมส่งเสริมให้ราษฎรมีส่วนร่วมในการปลูกและดูแลป่า ใช้พันธุ์ไม้พื้นถิ่น เพื่อให้คนสามารถอยู่ร่วมกับป่าและสร้างรายได้จากป่าชุมชนอย่างยั่งยืน, โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เพื่อให้ราษฎรสามารถอยู่อาศัยและทำการเกษตรอย่างเหมาะสมในพื้นที่สูง โดยไม่บุกรุกป่า และช่วยกันดูแลรักษาป่าต้นน้ำ, สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริมุ่งเน้นการฟื้นฟูและอนุรักษ์สภาพป่าพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ขยายพันธุ์พืชหายากหรือใกล้สูญพันธุ์ พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร, โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎร โดยเฉพาะราษฎรในชุมชนที่อพยพจากป่าและชุมชนที่อยู่อาศัยอยู่ติดแนวเขตป่าอนุรักษ์ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอาชีพที่เหมาะสมยั่งยืน

ในหลายโอกาสยังได้มีพระราชดำรัสให้ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันช่วยดูแล รักษากล้วยไม้ไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้กล้วยไม้ของไทยที่สวยงามและหายาก ได้คงอยู่เป็นมรดกทางธรรมชาติอันล้ำค่าของประเทศสืบไป เป็นที่มาของอีกหลากหลายโครงการด้านการอนุรักษ์ ศึกษา ขยายพันธุ์กล้วยไม้ไทยด้วย พร้อมทั้งยังมีพระราชเสาวนีย์ให้ตั้ง สวนพฤกษศาสตร์ สำหรับรวบรวมพันธุ์ไม้ประจำถิ่น เพื่อการศึกษา และการท่องเที่ยว ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ต่อการอนุรักษ์ คุ้มครอง และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ปี 2553 ถวายพระราชสมัญญา “พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ” แด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“ถึงตรงนี้พระราชกรณียกิจของพระองค์ หากมองในภาพรวมจะเห็นว่าทรงดูแล และให้ความสำคัญกับเรื่องป่าไม้ และน้ำ พยายามสะท้อนให้เห็นมุมมอง คนกับป่าไม้พึ่งพิงกัน ประชาชนใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นสิ่งที่เน้นย้ำเสมอมาคือในฐานะหน่วยงานราชการต้องไม่ใช่ทำเรื่องการอนุรักษ์อย่างเดียว แต่ต้องส่งเสริม ถ่ายทอดให้ประชาชน เกษตรกรเอาไปต่อยอด การศึกษาวิจัยต่าง ๆ ก็ต้องต่อยอดไปได้เรื่อย ๆ”
วรดลต์ แจ่มจำรูญ ทิ้งท้าย
- ข้อมูลอ้างอิง
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย THAILAND BIODIVERSITY INFORMATION FACILITY (TH-BIF)


