นักเรียนชายแดนใต้ หนังสือใกล้ฉัน กับความฝันไกล…ใกล้ตัว

เมื่อ "การอ่าน" คือจุดเริ่มต้นของการทำความเข้าใจโลก การเรียนภาษาก็ควรทำให้เด็กได้เห็นถึงความหลากหลายในโลกนี้

"หนังสือ" คือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เด็ก ๆ รู้จักกับจุดยืนของตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น และพาเขาไปสู่ความฝันเท่าที่เขาจะจินตนาการได้

จึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย ถ้าเราจะเรียนสักภาษาหนึ่งเพียงเพราะมันสำคัญแค่ในห้องเรียน

The Active ลงพื้นที่ชายแดนใต้ สำรวจห้องเรียน "พหุภาษา" ชวนเด็กหยิบจับหนังสือที่ชอบใกล้ตัว แล้วลองดูว่า มันจะพาพวกเขาไปได้ไกลแค่ไหน ? หรืออย่างน้อยนี่ก็ถือเป็นโอกาสที่พวกเขาสามารถจินตนาการได้ถึงอนาคตที่อยากไปให้ถึง


"รุสลัน มามะ" ชั้น ม.5 หนังสือที่ชอบ คือเรื่อง "อยากให้เธอสดใสเหมือนดอกทานตะวัน" ทำให้เขามีความฝันอยากเป็น  "นักจิตวิทยาคลินิก" รุสลัน เล่าว่า โตมากับภาษามลายู เขาเคยไม่มั่นใจเวลาพูดภาษาไทย กลัวพูดผิด กลัวโดนล้อ จนเลือกที่จะเงียบ...  “โรงเรียนเปิดโอกาสให้ใช้ภาษาที่เราถนัด ครูไม่บังคับว่าต้องพูดไทยเสมอ ให้คะแนนจากความตั้งใจมากกว่าความถูกต้อง มันทำให้ผมกล้าที่จะพูดมากขึ้น”...  “ตอนเด็ก ๆ ผมอยากเป็นตำรวจ แต่พอโตขึ้นมา ผ่านช่วงที่อยู่แต่ในห้อง ไม่อยากเจอใคร หนังสือช่วยผมออกจากช่วงนั้น ทำให้ผมรู้ว่าความเข้าใจคือพลังที่ยิ่งใหญ่ ตอนนี้ผมอยากเป็นนักจิตวิทยาคลินิก อยากฟังปัญหาคนอื่น อยากให้เขาสบายใจขึ้น”
"อัฟวาห์ เเวดือเระ" ชั้น ป.3 หนังสือที่ชอบคือ "Spotlight Science วิทยาศาสตร์ประถมศึกษา" เธอฝันอยากเป็น "ครูสอนวิทยาศาสตร์"...“หนูอยากเป็นครูวิทยาศาสตร์ เพราะอยากให้ความรู้กับเด็ก ๆ หนูชอบเรื่องสิ่งแวดล้อม"...  “อยากรู้ว่าทำไมโลกถึงเปลี่ยนไป และอยากปลูกต้นไม้เยอะ ๆ เพื่อให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้น”...  “หนูเริ่มอ่านภาษาไทยได้แล้วตั้งแต่อนุบาล 3 ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกดี เพราะเข้าใจอะไรมากขึ้น และอยากเรียนรู้ต่อไปค่ะ”
"ฟิรดาวส์ อาแว" ชั้น ป.3 หนังสือที่ชอบคือ "Fastinating Facts"...  “หนูอยากเป็นหมอฟันค่ะ เพราะหมอฟันได้เงินเดือนเยอะ (ขำ) แล้วก็ได้ช่วยคนอื่นด้วย”...  “หนูชอบเรียนภาษาอังกฤษ เพราะรู้สึกว่ามันคล้ายภาษาไทยเลยเรียนง่าย แม่ก็ซื้อหนังสือภาษาอังกฤษมาให้อ่านเยอะ หนูอ่านเองบ่อย ๆ เพราะอยากเก่งขึ้น”...  “เมื่อก่อนหนูพูดแต่มลายู เพิ่งเริ่มพูดภาษาไทยได้ตอนอนุบาล 2 พอพูดได้ก็เริ่มอ่านหนังสือเยอะขึ้น หนูอยากให้ผู้ใหญ่สนับสนุนเด็ก ๆ ให้ได้อ่านเยอะ ๆ จะได้มีโอกาสทำตามความฝันของตัวเองค่ะ”
"ซอลีฮะห์ แวนาแว" และ "แวนัศรุน ดอเลาะ" ชั้น ป.6 ทั้งคู่ชอบหนังสือ "เจาะลึกวิทยาศาสตร์ ป.4" แต่แวนัศรุน ชอบลงมือทำมากกว่าอ่านหนังสือ โดย ซอลีฮะห์ ฝัน อยากเป็นหมอฟัน..."หนูอยากเป็นหมอฟันค่ะ เพราะตอนเด็ก ๆ ฟันผุบ่อย ต้องไปหาหมอบ่อย ก็เลยอยากรักษาคนอื่นและรักษาตัวเองได้ด้วย”... 
ส่วนแวนัศรุน ก็ฝันอยากเป็นนักวิจัยทางด้านเคมี..."“ผมชอบทดลอง ชอบเห็นผลของสิ่งที่เราทำจริง ๆ อย่างตอนทำกิจกรรมเรื่องโซดากับน้ำส้มสายชู ก็รู้สึกว่าน่าสนใจมาก”  ทั้งคู่ยอมรับตรงกันว่า “หนูพูดได้ทั้งภาษามลายูและไทย ภาษาไทยช่วยให้รู้กว้างขึ้น ส่วนภาษามลายูก็เป็นภาษารู้สึกเหมือนอยู่บ้าน”
"ซามาเฮร์ ตือบิงหม๊ะ" ชั้น ม.1 หนังสือที่ชอบคือ "New World" สำหรับความฝันนั้นอยากเป็น "นักบิน" เธอเล่าว่า เกิดที่เมกกะ ตอนเด็ก ๆ พูดภาษาอาหรับก่อน จากนั้นก็ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย แล้วก็ภาษามลายู แต่ที่ถนัดที่สุดคืออาหรับเพราะพูดได้คล่องและมั่นใจ ส่วนภาษาไทยยังอาย ไม่กล้าพูด...  “หนูอยากเป็นนักบิน เพราะอยากไปทั่วโลก อยากรู้จักผู้คนจากหลายประเทศ หนูคิดว่าถ้าอยากเป็นนักบิน ต้องตั้งใจเรียน ทำงานส่งทุกครั้ง ถ้าไม่เข้าใจก็ถามครู ถามเพื่อนได้”...  “My favorite book is English book. I can understand every single word in this. Thai book I don’t understand any word. If there is a word that I don’t understand, I have to ask. Sometimes I ask too much, more than ten times.”
ในชั้นปฐมวัย ทักษะภาษาจะถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว การขยับร่างกายไปพร้อมกับการใช้ภาษา จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้น
หลายโรงเรียนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครูจะสอนภาษาอาหรับเพิ่มเติมไปด้วย เพื่อประโยชน์ในการศึกษาอัลกุรอ่าน
ภาษาอาหรับโดยเริ่มเเรกเดิมทีเป็นภาษาอัลกุรอาน ชั้นเรียนภาษาอาหรับจึงจำเป็นต้องใช้ครูศาสนาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ
เยาวชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ คุ้นเคยกับภาษาที่แตกต่างหลากหลาย จึงเป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ควรได้รับการต่อยอด
ภาษาควรเป็น "สะพาน" มากกว่าเป็น "กำแพง" สถานศึกษาและสังคม จึงจำเป็นต้องช่วยให้เด็กสามารถพัฒนาทักษะภาษาได้ เมื่อเขาต้องการ เพื่ออนาคตของพวกเขา

Author

Alternative Text
AUTHOR

พีรดนย์ ภาคีเนตร

เฝ้าหาเรื่องตลกขบขันในชีวิต แต่พบว่าสิ่งที่ตลกที่สุดคือชีวิตเราเอง