โอกาสที่สูญเสีย ของ ‘ถาวร ธนะสิงห์’ กับการต่อสู้กว่า 30 ปี เพื่อสิทธิในที่ดินของตัวเอง

วัย 70 ปี ควรเป็นวัยที่ได้พักผ่อน มีความสุขอยู่กับลูกหลาน มีความมั่นคงในชีวิต

แต่กับ ‘ถาวร ธนะสิงห์’ ชาว ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร กลับต้องมาใช้ชีวิตแบบยากลำบาก ต่อสู้ขอความเป็นธรรม เรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกินของตัวเอง ที่กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับที่สาธารณะโคกภูพระ เมื่อปี 2526

เกือบ 30 ปี การการต่อสู้เรียกร้องร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ตั้งแต่กลุ่มสมัชชาเกษตรรายย่อยภาคอีสาน จนถึงการชุมนุมของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ นับตั้งแต่ปี 2536 เรื่อยมา ได้ส่งผลกระทบต่อ “โอกาส” ในชีวิตของเธอและครอบครัวในหลายด้าน

ทั้งเรื่องเงิน ความมั่นคง ไปจนถึงเรื่องศักดิ์ศรีของครอบครัว

The Active ชวนติดตามชุดภาพ ที่บอกเล่าเรื่องราวผลกระทบและการสูญเสียโอกาสในชีวิต ที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ของ 'ถาวร ธนะสิงห์' ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
“ความรู้แค่ ป.4 ทำเกษตรมาทั้งชีวิต  ไม่คิดว่าต้องมาศึกษาอ่านข้อมูลเอกสารกองโต “  คำบอกเล่าของ ‘ถาวร’ ระหว่างนำเอกสารจำนวนมากมาอธิบายประกอบ เพื่อยืนยันสิทธิที่ดินทำกิน เอกสารแจ้งความฟ้องร้องดำเนินคดี และเอกสารติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา ที่สาธารณประโยชน์โคกภูพระทับที่ทำกินของเธอและชาวบ้าน 4 คน
“ตื่นตีสี่ ทำไร่ทำสวนทุกวัน แต่ไม่มีเงินเหลือเก็บไว้เตรียมทำศพตัวเอง“ 
 ในวัย 70 แล้ว  แต่ยังต้องทำไร่ ทำสวน เก็บพริก เก็บผักขาย เพื่อเป็นรายได้ ค่าใช้จ่ายในครอบครัว ที่สำคัญคือนำไปต่อสู้คดี และติดตามการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หากไม่เกิดปัญหานี้ คงพอจะมีเงินเก็บไว้ใช้ยามชราและเตรียมไว้เพื่อทำศพตัวเอง
สมุดบัญชี 4 เล่มนี้  จดบันทึกรายละเอียดค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เริ่มติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตลอด 29  ปี   รวมเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายต่อสู้คดี  'ถาวร’ ประเมินว่ารวมแล้วมากกว่า 5 แสนบาท
เงินส่วนใหญ่ที่หามาได้ ถูกใช้จ่ายไปกับการติดตามปัญหา ต่อสู้คดี จนไม่มีเงินเหลือเก็บเป็นค่าใช้จ่ายยามชรา ในช่วงที่โรคภัยรุมเร้า ทั้งความดัน เบาหวาน
รุ่งทิพย์ มณีจันทร์ ลูกสาวคนโตของ  'ถาวร’  เป็นกำลังหลักของครอบครัว  เลี้ยงวัวควาย ทำไร่ ทำสวน ดูแลบ้าน เธอบอกว่า หากพ่อกับแม่ไม่ต้องต่อสู้ขอความเป็นธรรมกับปัญหาดังกล่าว  คงจะมีกำลังพอที่จะส่งเสียให้เธอและน้องชายได้เรียนและมีงานทำที่ดี แต่ตอนนั้นต้องหยุดโอกาสไว้เพียงแค่ชั้น ป.6
“ห่วงอนาคตลูกหลาน และศักดิ์ศรีครอบครัวที่ถูกทำลาย" 
รุ่งทิพย์ บอกว่า ปัญหาข้อพิพาทที่ดินที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบเสื่อมเสียศักดิ์ศรีครอบครัว เพราะจนถึงทุกวันนี้ เวลาออกไปไหนมาไหนนอกบ้าน ยังมีคนซุบซิบว่าครอบครัวตนเป็นคนโกง อยากได้ที่หลวง ทั้งที่ตามเอกสารที่สาธารณประโยชน์แต่เดิม และ สค.1 ที่มีผู้จดแจ้งระบุพื้นที่ติดกับที่สาธารณประโยชน์นั้นอยู่คนละพื้นที่ กับที่ดินของครอบครัวเธอ  จึงยังคงยืนยันต่อสู้ เพื่อรักษาที่ดินบรรพบุรุษ ศักดิ์ศรีครอบครัว และอนาคตของลูกหลาน
ไม่ใช่ภาพที่ระลึก แต่ภาพเหล่านี้ 'ถาวร' ติดไว้ย้ำเตือน ไม่ว่าจะผ่านมากี่รัฐบาล ก็ยังไม่สามารถไปถึงการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมชัดเจน  แต่ก็ยังคงไม่หมดหวัง และมองว่าจะมีรัฐบาลที่จริงใจเข้ามาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ที่เกิดขึ้นกับเธอ และประชาชนอีกจำนวนมาก จากกรณีที่ดินรัฐ-เอกชนทับที่ชาวบ้าน ให้สำเร็จได้จริงๆ ซักที

Author

Alternative Text
AUTHOR

ทัศนีย์ ประกอบบุญ

นักข่าวสายลุย เกาะติดประเด็นแล้วไม่มีปล่อย รักการเดินทาง หลงรักศิลปะบนรองเท้า และชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ