11 จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ถนนโลคัลโรด

#ถนนไทยทำไมเป็นแบบนี้

โลคัลโรด


ระยะทาง 19 กิโลเมตร ของถนนกำแพงเพชร 6 หรือที่คนในพื้นที่เรียกกันว่า “ถนนโลคัลโรด” เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เฉพาะปี 2567 เพียงปีเดียว มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน หรือหากดูสถิติย้อนหลัง 5 ปี พบว่ามีผู้เสียชีวิตสะสม 21 คน ชวนสำรวจ 11 จุดเสี่ยงของถนนเส้นนี้ และร่วมค้นหาคำตอบว่า นอกจากสภาพถนนที่เป็นลูกคลื่น โค้งอันตราย ไฟส่องสว่างน้อย ยังมีปัจจัยอะไรอีกบ้างที่นำมาสู่ความสูญเสีย ที่สำคัญใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแก้ไข


1 ปี ถนนโลคัลโรด สูญเสียชีวิตไปแล้วเท่าไหร่

ถนนโลคัลโรด ครอบคุม 3 พื้นที่ เขตดอนเมือง เขตหลักสี่ เขตจตุจักร และบางส่วนของจังหวัดปทุมธานี ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ Thai RSC พบว่า ถนนเส้นนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งและมีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต จำนวนมาก

พื้นที่เขตดอนเมือง ในปี 2567 เสียชีวิต แล้ว 4 คน ในระยะ 1.9 กิโลเมตร ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 3 คน ที่มีทั้งล้มเอง 1 คน กรณีรถจักรยานยนต์ที่มีคู่กรณีเป็นจักรยานยนต์ด้วยกันเสียชีวิต 1 คน และกรณีรถจักรยานยนต์กับรถยนต์เสียชีวิต 1 คน

พื้นที่เขตจตุจักร ในปี 2567 เสียชีวิต 2 คน ในระยะทาง 129 เมตร ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนทั้งหมด 2 คน แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ไม่มีคู่กรณี 1 คน และกรณีรถจักรยานยนต์ที่มีคู่กรณีจักรยานยนต์ด้วยกัน 1 คน

หากพิจารณาจากรายละเอียด ‘ลักษณะเหตุ’ ของผู้เสียชีวิตและพฤติกรรม จากข้อมูลปี 2567 มีผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นรถจักรยานต์ทั้งหมด เป็นผู้ชาย 5 คน ผู้หญิง 1 คน ช่วงอายุ 40-60 ปี ทั้งหมด 5 คน (เป็นชายทั้งหมดและเป็นผู้ขับขี่ทั้งหมด ) อายุ 29 ปี เป็นหญิง 1 คน ถูกชนขณะข้ามถนนที่ไม่ใช่ทางข้าม โดยรวมมีพฤติกรรมเสี่ยง ขับเร็ว 3 คน ขับตามคันหน้าระยะกระชั้นชิด 1 คน และขับรถย้อนศร 1 คน หากจำแนกจากพฤติกรรมพบว่าเป็นการ ขับเร็ว 60 % ตามคันหน้าระยะประชิด 20 % ย้อนศร 20 %

หากพิจารณาจากรายละเอียดวันและเวลา บริเวณถนนโลคัลโรด มีวันเวลาเกิดเหตุกระจายอยู่ในหลายเดือน ซึ่งพบว่าเกิดเหตุบ่อย ช่วงเวลากลางคืน ช่วง 21.00 เป็นต้นไป จากปัจจัยเสี่ยงทางกายภาพที่เห็นได้ชัดที่เป็นปัญหา ผิวถนนชำรุด ผิวถนนเป็นหลุมเป็นคลื่น คิดเป็น 50 % โค้งอันตราย 25 % ไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ 25 %

“ถนนโลคัลโรด” เกิดอุบัติเหตุตรงไหนบ้าง

จากพื้นที่ จุด Heat Maps บนถนนกำแพงเพชร 6 หรือถนนโลคัลโรด ช่วง ม.ค.-ธ.ค. 2567 พบว่ามีจุดเกิดเหตุบ่อยครั้ง จนจัดเป็นจุดเสี่ยงที่ผู้สัญจรไปมารวมทั้งผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าวต้องระมัดระวังเป็นพิเศษใน 11 จุดเสี่ยง ได้แก่

  1. สามแยกหน้าวัดรังสิต
  2. ใต้สถานีรถไฟฟ้าหลัก 6 มหาวิทยาลัยรังสิต
  3. บริเวณใต้สะพานตลาดสี่มุมเมือง
  4. ใต้สถานีรถไฟฟ้าดอนเมือง (ตลาดใหม่) จุดนี้มีผู้เสียชีวิตจากการข้ามถนนบริเวณที่ไม่ใช่ทางม้าลาย ถูกจักรยานยนต์เฉี่ยวชนเสียชีวิตในปี 2567 จำนวน 1 คน
  5. บริเวณปากซอย กำแพงเพชร 6 ซอยช่วงใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้าการเคหะ
  6. หน้าวัดหลักสี่
  7. แยกหลักสี่
  8. หน้า สน.ทุ่งสองห้องและสามแยกหน้าศาลเจ้าแม่ทับทิม
  9. ซอยวิภาวดีรังสิต 25 ใต้สถานีรถไฟฟ้าทุ่งสองห้อง
  10. แยกบางเขน
  11. แยกวัดเสมียนนารี รร.วัดเสมียนนารี

ย้อน 5 ปี (2564-2568) “ถนนโลคัลโรด” เสียชีวิตสูงถึง 21 คน

ใน 5 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมถนนโลคัลโรด มีผู้เสียชีวิตกระจายทุกเดือนตลอดทั้งปี โดยเดือนที่เกิดเหตุมากที่สุดคือเดือน มกราคม วันที่เกิดเหตุมากที่สุดเป็น วันจันทร์ วันเสาร์ และวันพฤหัสบดี ช่วงเวลาเกิดเหตุ 76 % เป็นช่วงเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 19.00- 05.59 น.

ข้อมูลจาก ศูนย์ความร่วมมือป้องกันอุบัติเหตุกรุงเทพมหานคร พบว่า เกิดเหตุจากรถจักรยานยนต์ 19 คน และรถยนต์ 2 คน เพศชายเสียชีวิต 17 คน เพศหญิง 4 คน ช่วงอายุเกิดเหตุค่อนข้างสูง คือช่วง อายุ 20-29 ปี คิดเป็น 33 % และอายุ 40-49 ปี คิดเป็น 33 % ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมขับรถเร็ว 64 % ย้อนศร 18 % รถใหญ่จอดริมถนน 9 % ขับรถตามคันหน้าระยะประชิด 9 %

วิเคราะห์อุบัติเหตุจากปัจจัยทางกายภาพ ใน ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

  • ลักษณะถนน ทางตรง 16 คน ทางโค้ง 1 คน ทางร่วม 1 คน ทางแยก 1 คน
  • ปัจจัยเสี่ยงทางกายภาพไฟส่องสว่างไม่เพียงพอรวมกับพื้นผิวถนนชำรุด 13 คน พื้นผิวถนนชำรุด 5 คน และ จากปัญหาโค้งอันตราย 1 คน

กทม. เตรียมรับมอบ และปรับปรุง โลคัลโรด

แต่ละปีจะมีจุดเสี่ยงเสียชีวิตใกล้เคียงกับจุดที่เคยเกิดเหตุก่อนหน้าทั้งเขตดอนเมือง เขตจตุจักร เขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 68 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ถนนกำแพงเพชร 6 หรือ ถนนโลคัลโรด เดิมอยู่ในการดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)แต่ขณะนี้มีการเจรจาเตรียมส่งมอบให้กับ กทม. เป็นผู้ดูแล

ก่อนหน้านี้มีเรื่องร้องเรียนหลายประเด็นทั้ง ถนนมืด ไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ และถนนเป็นคลื่น เพราะถนนสูงโดยเฉพาะบริเวณเสาตอม่อซึ่งมีฐานราก และทรุดตัวตรงที่ไม่มีเสา รถวิ่งมาก็จะเหิน อย่างรถจักรยานยนต์ขับขี่ก็ลอยได้

ทั้งนี้ ถนนกำแพงเพชร 6 อยู่ในระหว่างการส่งมอบให้ กทม. โดยกทม. ได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงแก้ไขแล้ว เช่น ผิวถนนบริเวณหน้าสำนักงานเขตดอนเมือง ได้เทลาดยางแอสฟัลท์และปาดผิวถนนบริเวณที่นูนออก เริ่มเปลี่ยนไฟถนน ตอนนี้เตรียมรับมาดูแลและเดินหน้าแก้ปัญหา

ภาพรวมและความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน

ด้าน เกษม สังข์ภิรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด กล่าวว่า ถนนโลคัลโรด ปัจจุบันอาจไม่ใช่ถนนที่สมบูรณ์แบบเพราะว่ามีความเกี่ยวพันหลายประเด็นในเชิงกายภาพและโครงสร้าง มีทางรถไฟ มีรถไฟฟ้า มีตอม่อคอนกรีต บนถนนบางทีเลี้ยวซ้าย ต้องชะลอทางขวา สลับกันไป

นอกจากนี้ ความโค้งของถนน ก็มีผลทำให้เกิดอุบัติเหตุได้หากขับรถด้วยความเร็ว ประกอบกับ ผิวถนนชำรุด ผิวถนนเป็นหลุมคลื่น มีโค้งอันตราย ยังไม่ได้มาตรฐาน ขณะที่หลายจุดไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ เหล่านี้คือจุดที่ควรปรับปรุง

เกษม ระบุอีกว่า จากข้อมูลศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ Thai RSC แต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิต 14,000 -17,000 คน แม้จำนวนจะลดลงบ้างในช่วงโควิด-19 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 12,000 -13,000 คน โดยพบว่ากลุ่มผู้ที่มี อายุ 1 ปีถึง 25 ปี เสียชีวิตมากถึง 21% ครึ่งหนึ่ง เสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์  ขณะที่แนวโน้มการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุปัจจุบันกลับมาเพิ่มขึ้น

“จริง ๆ แล้วประเทศไทย ตั้งเป้าต้องลดคนเสียชีวิต ให้ได้ 12 คน ต่อ แสนประชากร คือต้องเสียชีวิตไม่เกิน 6,000 คนต่อปี แต่ไทยก็ยังไม่ถึงเป้านั้นเลย”

ประเมินความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนต่อปี ประเทศไทยสูญเสียเกือบปีละแสนล้านบาท คิดเป็น เกือบ 1% ของ GDP  และยังมีผลกระทบที่ตามมา ทั้งการเยียวยา การดูแลผู้พิการ ซึ่งถ้าลดการเสียชีวิต ให้เหลือ 12 คนต่อแสนประชากร  GDP ของประเทศไทย จะเพิ่มขึ้นมา ประมาณ 0.6 -0.5 %

เกษม ประเมินว่า ที่ผ่านมาไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ในช่วงอายุประมาณ 25-60 ปี จะเสียชีวิตมากถึง 60% ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน สำหรับ อายุ 1 ปีถึง 25 ปี เสี่ยชีวิต ประมาณ 21 % แล้วในช่วงอายุเดียวกัน ครึ่งหนึ่ง เสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์  ทำให้เห็นว่าช่วงอายุเนี่ย เป็นสิ่งสำคัญเพราะปัจจุบันเยาวชนก็เริ่มเสียชีวิตเพิ่มขึ้น อย่างวัย เจน Z


ข้อเสนอเชิงนโยบาย Public Policy Forum ครั้งที่ 3 เรื่อง สงกรานต์ 2566: จากงานวิจัยสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายความปลอดภัยทางถนน ในมุมมองถน

การขับเคลื่อนนโยบายตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2561–2564 ที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย พบช่องว่างที่สำคัญ นำมาสู่ข้อเสนอแก้ปัญหาเชิงนโยบายดังนี้

  1. การจัดการความปลอดภัยทางถนนเชิงระบบ ออกแบบระบบถนนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากสิ่งแวดล้อม
  2. การปรับปรุงถนนที่ปลอดภัย ที่มองเห็นแนวเส้นทาง ทางโค้ง ทางแยก และทางคนข้าม แสดงสัญลักษณ์จราจรที่ชัดเจน ป้ายและเครื่องหมายจราจรเป็นอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยทางถนนที่ช่วยในการเตือน ปรับสภาพผิวจราจร สภาพผิวจราจรให้ดีขึ้น
    สนับสนุนให้ประชาชน ลดความเร็วเพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ถนน เพราะความเร็วเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิต
  3. เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลความปลอดภัย ความขัดแย้งการจราจร “Traffic Conflict Technique” เป็นวิธีการประเมินความปลอดภัยที่เป็นที่นิยมใช้สำหรับคาดการณ์อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการตรวจจับ การติดตามเคลื่อนที่ และการวิเคราะห์
  4. การวิเคราะห์ปัญหาและประเมินมาตรการในพื้นที่นำร่อง เช่น มาตรการจำกัดควบคุมการใช้ความเร็วในเขตชุมชน มาตรการลดความเร็วด้วยเนินชะลอความเร็ว มาตรการจัดการควบคุมการขับขี่ย้อนศร มาตรการปรับปรุงทางโค้งที่มีทางเชื่อม มาตรการปรับปรุงทางข้ามสัญญาณไฟ
  5. การพัฒนาองค์ความรู้และถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีด าเนินการจัดทำคู่มือวิศวกรรมความ
    ปลอดภัยทางถนนเพื่อกลุ่มผู้ใช้ถนนที่เปราะบาง

Author

Alternative Text
AUTHOR

นิตยา กีรติเสริมสิน

สนใจวงการบันเทิงตั้งแต่เด็ก รักการพูด แต่ชีวิตพลิกผันก้าวสู่นักสื่อสารมวลชน รักงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดิน น้ำ และความเป็นไปของโลก คิดบวก มองทางเลือกใหม่ ๆ อย่างสร้างสรรค์