ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ ถือหุ้น บ.โฆษณา และไม่ได้โอนหุ้นก่อนลงเลือกตั้งจริง ส่วน 29 ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล รอดทั้งหมด
วันนี้ (28 ต.ค. 2563) ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 29 คนรอด ไม่ได้ถือหุ้นสื่อ ส่วนฝ่ายค้าน วินิจฉัยให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ 1 คน คือ “ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” ส.ส.พรรคก้าวไกล ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. กรณีถือหุ้นในบริษัทประกอบกิจการสื่อ
29 ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล รอด
ในส่วนของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลทั้งหมด 32 คน ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า 29 คน ไม่ได้ถือหุ้นสื่อ เนื่องจากไม่เข้าข่ายประกอบกิจการสื่อมวลชน ส่วนที่เหลืออีก 3 คน สั่งจำหน่ายคดี
สำหรับ 29 ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 21 คน ได้แก่ 1. ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 2. พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ 3. อรรถกร ศิริลัทธยากร 4. กษิดิ์เดช ชุติมันต์ 5. กุลวลี นพอมรบดี 6. ชาญวิทย์ วิภูศิริ 7. ฐานิสร์ เทียนทอง 8. ฐาปกรณ์ กุลเจริญ 9. ตรีนุช เทียนทอง 10. ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ
11. บุญยิ่ง นิติกาญจนา 12. ปฐมพงศ์ สูญจันทร์ 13. ภิญโญ นิโรจน์ 14. วีระกร คำประกอบ 15. สมเกียรติ วอนเพียร 16. สัมพันธ์ มะซูโซ๊ะ 17. สิระ เจนจาคะ 18. สุชาติ ชมกลิ่น 19. อนุชา น้อยวงศ์ 20. ภาดา วรกานนท์
พรรคประชาธิปัตย์ 8 คน ได้แก่ 1. จิตภัสร์ กฤดากร 2 อัศวิน วิภูศิริ 3. กันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ 4. ภานุ ศรีบุศยกาญจน์ 5. วชิราภรณ์ กาญจนะ 6. สมชาติ ประดิษฐพร 7. สาคร เกี่ยวข้อง 8. สาธิต ปิตุเตชะ และ พรรคชาติพัฒนา 1 คน ได้แก่ เทวัญ ลิปตพัลลภ
ส่วน ส.ส. 3 คนที่ศาลสั่งจำหน่ายคดี ได้แก่ พันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ, ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล พรรครวมพลังประชาชาติไทย และ สมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประชาภิวัฒน์ เนื่องจากลาออกจากตำแหน่งก่อนแล้ว
เชือด “ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” พรรคก้าวไกล
ส่วนฝ่ายค้านจำนวน 32 คน ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ 1 คน ส่วน ส.ส.อีก 28 คน ไม่สิ้นสุดสมาชิกภาพ และให้จำหน่ายคดี 3 คน
โดยคนที่ถูกวินิจฉัยให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ คือ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พ้นจากความเป็น ส.ส. โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ามีพฤติการณ์คล้าย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีใบเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นในแบบ บมจ.5
เนื่องจาก ธัญญ์วาริน ถือหุ้น บริษัท แอมฟายน์ โปรดักชั่น จำกัด และ บริษัท เฮด อัพ โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจโฆษณา ผลิตภาพยนตร์ โทรทัศน์ และไม่ได้โอนหุ้นก่อนลงเลือกตั้งจริง ทั้งยังมีข้อพิรุธไม่มาไต่สวนชี้แจงต่อศาล ทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. สิ้นสุดการเป็นสมาชิกภาพตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. 2562 ซึ่งเป็นวันยื่นสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อกับ กกต.
ศาลรัฐธรรมนูญระบุด้วยว่า แต่ด้วยเหตุที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปแล้ว จึงไม่มีบัญชีรายชื่อให้เลื่อนลำดับขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน และให้ถือว่าวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย เป็นวันที่ตำแหน่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อว่างลง โดยให้มีสมาชิกเท่าที่มีอยู่ ทำให้พรรคก้าวไกลเหลือ ส.ส. เท่าที่มีอยู่ในสภา
ส่วน ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน 29 คน ที่ไม่สิ้นสุดสมาชิกภาพ เป็น ส.ส.พรรคก้าวไกล (อดีตพรรคอนาคตใหม่) 20 คน เช่น พลโท พงศกร รอดชมภู, พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์, คารม พลพรกลาง และอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ฯลฯ
ส่วนพรรคเพื่อไทย 4 คน เช่น วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย และ นิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก ฯลฯ
พรรคเพื่อชาติ เช่น สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ และเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ฯลฯ ขณะที่พรรคเสรีรวมไทย คือ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคและลูกพรรคอีก 2 คน
ทั้งนี้ คดีนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพ ส.ส.จำนวน 64 คนทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านรัฐบาล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อหรือไม่