หลังร้องเรียน 6 ปี ไม่คืบหน้า เอาผิด “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ห่วง อีก 4 เดือน คดีขาดอายุความ
วันนี้ (26 ม.ค. 2564) สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อสอบถามความคืบหน้าการดำเนินคดีของ “ปู่คออี้” หรือ โคอิ มีมิ และชาวบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน เหตุถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน วางเพลิงเผาทรัพย์ ซึ่ง ป.ป.ท. ดำเนินการล่าช้าจนใกล้ขาดอายุความ
คดีดังกล่าว สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 5-9 พ.ค. 2554 ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในขณะนั้น และพวก คือ เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ ได้เข้ารื้อถอนเผาทำลายบ้านเรือน ยุ้งฉาง และทรัพย์สินอื่น ๆ ของนายคออี้ และของชาวบ้านอีกหลายราย ซึ่งเป็นชาวไทยพื้นเมืองดั้งเดิมเชื้อสายกะเหรี่ยงที่หมู่บ้านบางกลอยบนและใจแผ่นดินเสียหายราว 100 หลัง
นายคออี้ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อนายชัยวัฒน์ พร้อมพวกที่วางเพลิงเผาทรัพย์ บ้านเรือนที่พักอาศัย ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน และสำนวนถูกส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตั้งแต่ปี 2558
ต่อมานายคออี้ และพวก ได้ฟ้องเป็นคดีขึ้นสู่ศาลปกครอง และคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เป็นคดีหมายเลขดำที่ อส.77/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อส.4/2561 โดยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว ศาลวินิจฉัยได้ความแล้วว่านายชัยวัฒน์ กับพวก เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ ใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่กระทำความผิดในการรื้อถอนเผาทำลายทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างของนายคออี้ กับพวก ซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีทั้งหกคน
การกระทำดังกล่าวของนายชัยวัฒน์ กับพวกในทางกฎหมายอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ได้แก่ มาตรา 157 ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, มาตรา 217 ความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, มาตรา 218 ความผิดฐานวางเพลิงเผาโรงเรือนที่คนอยู่อาศัย เช่น บ้านเรือน, มาตรา 218 (2) ความผิดฐานวางเพลิงเผาโรงเรือนอันเป็นที่เก็บหรือที่ทำสินค้า เช่น ยุ้งฉาง และ มาตรา 358 ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ คือทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพยของผู้อื่น
กรณีนี้ นับแต่วันที่นายชัยวัฒน์ กับพวกกระทำความผิดดังกล่าว (เดือนพฤษภาคม 2554) จนถึงปัจจุบัน นับเป็นระยะเวลานานกว่า 9 ปี 8 เดือนแล้ว ซึ่งความผิดตามมาตรา 217 วางเพลิงเผาทรัพย์ และ มาตรา 358 ทำให้เสียทรัพย์ ดังกล่าวข้างต้นกำลังจะขาดอายุความ 10 ปี
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า มูลนิธิผสานวัฒนธรรมจึงขอทราบความคืบหน้าในการดำเนินคดีดังกล่าวว่า ป.ป.ท. ได้ดำเนินคดีถึงขั้นตอนใด และมีกำหนดจะยื่นฟ้องผู้กระทำผิดดังกล่าวเมื่อไร โดยขอให้ ป.ป.ท. เร่งรัดดำเนินคดีมิให้ขาดอายุความไม่ว่าความผิดฐานใด