ระบุ ลดค่าบริหารจาก 4 บาท เหลือ 2 บาท เท่ากับได้เพิ่มคนละ 3 บาท ย้ำสื่อ ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะได้เห็นข้อมูลมากขึ้น
วันนี้ (14 ก.พ. 2564) ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบปรับค่าอาหารกลางวันนักเรียนอนุบาล 1 – ประถมศึกษาปีที่ 6 อีกคนละ 1 บาท จากเดิม 20 บาทต่อคนต่อวัน เป็น 21 บาทต่อคนต่อวัน ในปีงบประมาณ 2565 เป็นต้นไป ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าน้อยเกินไป ซึ่งเบื้องต้นอาจดูเหมือนน้อยที่ขยับจาก 20 บาท เป็น 21 บาท แต่หากไปดูเนื้อในการบริหารจัดการ มีการพูดคุยกับสำนักงบประมาณ ในงบฯ 21 บาท ได้ลดงบฯ ค่าบริหารจัดการ จาก 4 บาท เหลือ 2 บาท เพื่อให้มาเพิ่มในส่วนค่าอาหารหรือตัววัตถุดิบ ซึ่งจากการคำนวณถือว่าเพียงพอ และจะไปถึงเด็กนักเรียนอย่างแน่นอน ดังนั้น เมื่อนำมารวมกับเงินที่เพิ่มให้เด็กอีกคนละ 1 บาท จะเท่ากับเพิ่มถึงคนละ 3 บาท หรือเทียบเป็นร้อยละ 20
รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่ามีโอกาสที่จะปรับค่าอาหารกลางวันนักเรียนเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน หลังจากที่มีการวางแผนบูรณาการของโรงเรียนทั่วทั้งประเทศ โดยในช่วงของการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเห็นข้อมูลมากขึ้น โดยจะทำให้เห็นภาพรวมของโรงเรียนทั่วประเทศ เห็นว่าโรงเรียนขนาดเล็กมีความจำเป็นที่จะได้งบประมาณค่าอาหารกลางวันที่อาจถึง 30 กว่าบาท ซึ่งเป็นการบริหารจัดการภายในของกระทรวงที่เป็นแบบขั้นบันได แต่ทั้งนี้ต้องรอให้ได้ข้อมูลครบถ้วนก่อน
ส่วนการดูแลเรื่องปัญหาการทุจริตอาหารกลางวันเด็กนักเรียนนั้น ณัฏฐพล กล่าวว่า ที่ผ่านมาในช่วง 1 ปีหลัง เรื่องการทุจริตอาหารกลางวันเด็กมีน้อยลง เพราะมีการบริหารจัดการที่มีความเข้มงวด และในทุกโรงเรียนที่ตนลงไปตรวจสอบและสัมผัสดู มีการให้อาหารกลางวันเด็กอย่างเพียงพอ แต่หากสามารถเพิ่มเติมงบฯ ได้มากขึ้นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี ซึ่งจะมีการเพิ่มเติมในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายต้องดูค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะโรงเรียนเล็ก ๆ มีความจำเป็นที่เงินค่าอาหารกลางวันต้องมากขึ้นในระดับ 30 กว่าบาท ส่วนในปัจจุบันโรงเรียนที่มีนักเรียน 300 คนขึ้นไป ค่าอาหาร 20 บาทต่อคนต่อวัน ถึง 20 ต้น ๆ ถือว่าเพียงพอถ้าหารเฉลี่ยและบริหารอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ ต้องทำให้เด็ก ๆ ได้รับโภชนาการมากขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องทำต่อไป