นายกฯ ยืนยัน รมว.ศธ. คนใหม่ ต้องทำตามนโยบายที่ฝ่ายบริหารวางไว้แล้ว

ส่วนชุมนุมวันนี้ (24 มี.ค.) ไม่ได้สั่งการเพิ่ม ทุกหน่วยทำตามหน้าที่รับผิดชอบ แจง ข้าวสาร 700 กระสอบ เป็น การค้าขายชายแดนปกติ

24 มี.ค. 2564 – พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาล กรณีที่มีการตั้งคำถามถึงคุณสมบัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ โดยระบุว่า รัฐบาลได้วางแนวนโยบายทางการศึกษาเอาไว้แล้ว ทั้งที่อยู่ในแผนปฏิรูปด้านการศึกษา แผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ และมีอีกหลายแผนงานที่รัฐมนตรีคนก่อนได้ดำเนินการไว้แล้ว

“ใครจะมาก็ตาม ก็ต้องปฏิบัติตามนี้ และนายกรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาเป็นพิเศษอยู่แล้ว อย่ามาบอกว่านายกไม่รู้รายละเอียด รู้ แต่นายกไม่ใช่ผู้ปฏิบัติ นายกเป็นผู้กำหนดนโยบาย แต่นายกก็ติดตามได้เพราะหลายอย่างก็สั่งการในการปฏิบัติ กำหนดเป้าหมาย กำหนดวัตถุประสงค์ลงไป”

โดยมีเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ คุณภาพของโรงเรียน และคุณภาพครู พร้อมย้ำว่า ต้องไม่ใช่ทำงานการเมือง แต่ต้องทำตามกรอบอำนาจหน้าที่ของฝ่ายบริหาร โดยจะเรียกรัฐมนตรีใหม่มาคุยก่อนปฏิบัติหน้าที่ หลังจากเข้าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ไม่ปล่อยปละละเลย

“ขอร้องให้ช่วยกัน ถ้าเราขัดแย้งกันมากๆ ก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วไปมีความเคลื่อนไหวข้างนอกอีก ผมไม่อยากให้มีเด็กดีหรือเด็กเลว อยากให้เด็กเราเป็นคนดี เพราะทุกคนคือกำลังสำคัญของชาติ เขาต้องเรียนรู้วันนี้ว่าอะไรคือความถูกต้อง ความชอบธรรม อะไรคือประชาธิปไตยที่เป็นสากล พูดกันแต่ว่านายกฯ เผด็จการ เผด็จการตรงไหน ยังไม่มีอะไรที่เผด็จการเลย ผมสั่งในอำนาจฝ่ายบริหาร”

นายกฯ ยังตอบคำถามกรณีการนัดหมายของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมในวันนี้ (24 มี.ค.) ด้วยว่า เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ในการทำงานอยู่แล้ว ซึ่งควรให้กำลังใจเจ้าหน้าที่บ้าง เขาไม่อยากทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยอยู่แล้ว ให้ดูทั้งสองด้าน อย่าดูด้านเดียว และไม่ต้องสั่งอะไรเพิ่มเติม เพราะมีกฎหมายอยู่แล้ว และทุกหน่วยงานมีความรับผิดชอบอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ยังตอบคำถามเรื่องข้าวสาร 700 กระสอบที่บริเวณริมแม่น้ำสาละวิน ซึ่งล่าสุด ได้มีรถมาขนข้าวสารทั้งหมดไปตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันนี้ (24 มี.ค. 2564) โดยนายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ปิดชายแดน เปิดหมดแล้ว การค้าขายก็เป็นปกติทุกช่องทาง คนที่ได้รับประโยชน์ตรงนี้ก็คือภาคธุรกิจเอกชนและประชาชนที่ต้องกินต้องใช้ ชายแดนติดกัน เศรษฐกิจก็พ่วงกันอยู่ ทหารเขาก็อยู่ชายแดนเหมือนฝั่งเรา เขาก็ต้องกิน ก็เลยสั่งของมา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปเป็นข้าวไทยใช่ไหม นายกฯ ตอบว่า ใช่ พร้อมกล่าวต่อว่า แต่เมื่อมีปัญหา เขาก็ระงับการส่งของเขาเอง นายกฯ ไม่ได้ไปห้ามเขาส่ง

“เป็นการค้าขายปกติ เข้าใจคำว่าปกติไหม ชายแดนน่ะ คนก็ต้องกิน มันคนละส่วนกัน ทำไมต้องทำให้เกิดปัญหา ไปพันเรื่องบริหารราชการแผ่นดินของเขา มันคนละเรื่องกัน ประชาชนเราติดต่อกัน”