‘เลิศศักดิ์’ ชี้ เป็นการสลายชุมนุมโดยไม่ชอบ ไม่มีพยานเข้าตรวจสอบการตรวจค้นจับกุม ลั่น หากไม่ปล่อยตัวผู้ชุมนุมภายในวันนี้ พร้อมตั้งหมู่บ้านทะลุฟ้า 2 ด้าน ‘ผบช.น.’ เผย ตรวจค้นพบกระท่อมและกัญชา จำนวนหนึ่ง
วันนี้ (28 มี.ค. 2564) เมื่อเวลาประมาณ 6.00 น. บริเวณที่ตั้ง “หมู่บ้านทะลุฟ้า” หน้าทำเนียบรัฐบาล ตำรวจควบคุมฝูงชน ประกาศขอคืนพื้นที่กลุ่มผู้ชุมนุม โดยขอให้เก็บของและรื้อถอนสิ่งกีดขวางเส้นทางการจราจรออกจากหน้าทำเนียบรัฐบาล จากนั้นไม่ถึง 5 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุมและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของหมู่บ้านทะลุฟ้าทันที แม้ตัวแทนผู้ชุมนุมจะพยายามเจรจาเพื่อขอเวลาในการเก็บสัมภาระ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม โดยจัดกำลังปิดหัว-ท้าย บนถนนพระรามที่ 5 เลียบคลองผดุงกรุงเกษม จากเชิงสะพานชมัยมรุเชฐไปจนถึงสะพานอรทัย
เจ้าหน้าที่ทยอยควบคุมตัวประชาชนและนักศึกษา ราว 70 คน ไปยัง กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (ตชด.ภาค 1) ส่วนพระสงฆ์ 2 รูป ที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุม หรือสำนักสงฆ์ทะลุฟ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นิมนต์ไปยังวัดเบญจมบพิตร เพื่อนิมนต์สึกพระทั้ง 2 รูป ก่อนนำตัวไปยัง ตชด.ภาค 1 เช่นกัน
ด้าน พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าตรวจสอบพื้นที่ภายหลังปฏิบัติการขอคืนพื้นที่หมู่บ้านทะลุฟ้า โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (อีโอดี) พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ เพื่อความปลอดภัยและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในพื้นที่
พล.ต.ท. ภัคพงศ์ เปิดเผยผลการตรวจค้นเบื้องต้น ว่า พบยาเสพติดเป็นกัญชาและกระท่อมจำนวนหนึ่ง ส่วนปฏิบัติการขอคืนพื้นที่วันนี้ (28 มี.ค.) ยืนยันเป็นปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้เลือกปฏิบัติ เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ภายใต้การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีข้อห้ามการชุมนุม และที่ผ่านมาได้ประกาศเตือนแล้วหลายครั้ง
จากนั้นประมาณ 8.15 น. ระหว่างการเข้าตรวจค้นและรื้อถอนหมู่บ้านทะลุฟ้า เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ กลุ่ม People Go Network และเป็นผู้แจ้งการชุมนุม ขอเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าไปตรวจสอบการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ โดยขอให้มีสื่อมวลชนร่วมด้วย แต่ไม่ได้รับอนุญาต
พริ้ม บุญภัทรรักษา ระบุว่า การเข้าขอคืนพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้เวลาเก็บสัมภาระเพียง 3 นาที และพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้แสดงท่าทีขัดขืน แต่กลับบุกเข้ามา จึงถือเป็นการสลายการชุมนุมโดยไม่ชอบ โดยตนเองในฐานะทนายความ ได้ขอเข้าตรวจสอบการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้รับอนุญาต
เลิศศักดิ์ ระบุว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปล่อยตัวกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ ตชด.ภาค 1 ภายในวันนี้ จะกลับมาตั้งหมู่บ้านใหม่ อีกครั้งอย่างแน่นอน พร้อมแสดงจุดยืน 4 ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มทะลุฟ้า “ปล่อยเพื่อนเรา เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ยกเลิก 112 ประยุทธ์ ออกไป”
ขอย้ำว่าหากมีเรื่องความรุนแรง หรือเหตุการณ์ที่จะถูกกล่าวอ้าง ว่าหมู่บ้านมีความรุนแรงซ่อนอยู่ ขอย้ำว่า หมู่บ้านนี้ ชุมนุมโดนสงบ สันติ และปราศจากอาวุธโดยตลอด ไม่มีการกระทำใด ๆ ผิดกฎหมาย ชุมนุมตามสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ส่วนหลักฐานเท็จ หากหมู่บ้านถูกกล่าวหาด้วยวิธีแบบนี้ หรือมีความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ใช่จากฝีมือของเรา และย้ำครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ปล่อยพี่น้องเราภายในวันนี้ เราจะสร้างหมู่บ้านใหม่อย่างแน่นอน
สมัชชาคนจน ออกแถลงการณ์ประณามการใช้กำลังเข้าสลาย “หมู่บ้านทะลุฟ้า”
สาระสำคัญในแถลงการณ์ระบุว่า การชุมนุมของหมู่บ้านทะลุฟ้า เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. 2564 โดยมีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1. ปล่อยเพื่อนเรา 2. เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ 3. ประยุทธ์ออกไป 4. ยกเลิก 112 เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ พร้อมทั้งมีการจัดให้ลงทะเบียนและคัดกรองโรคโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐและไม่เคยปรากฏว่าผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมในการใช้ความรุนแรงหรือใช้อาวุธในพื้นที่การชุมนุม ตลอดจนไม่เคยมีข้อเท็จจริงใดที่ระบุว่า มีผู้ติดโรคโควิด-19 จากพื้นที่ชุมนุมดังกล่าว
ดังนั้น การใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมของหมู่บ้านทะลุฟ้าเวลาเช้ามืด โดยอ้างว่า มีความผิดต่อ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คือการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการกำจัดผู้เห็นต่างทางการเมืองเท่านั้น เพราะตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมาของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รัฐบาลไม่สามารถใช้กฎหมายนี้ แก้ไขปัญหาโรคระบาดได้ ดังที่ปรากฏข้อเท็จจริงตามสื่อต่าง ๆ แต่กลับใช้เป็นเครื่องมือในการจับกุมผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางเมืองเป็นจำนวนมาก การใช้กฎหมายปิดปากคนเห็นต่างอย่างที่ทำอยู่ในปัจจุบันของรัฐบาล ไม่ได้ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองหายไปหรือดีขึ้น แต่เป็นเติมเชื้อไฟให้ความขัดแย้งลุกลาม และรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สมัชชาคนจน ขอประณามการใช้กำลังอันป่าเถื่อน ลุแก่อำนาจ เข้าสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า และจับกุมผู้ชุมนุมครั้งนี้ และขอให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมโดยทันที
