ศบค. ห่วงคลัสเตอร์สถานบันเทิง หลังพบลาม 15 จังหวัด เหตุ นักเที่ยวไปหลายแห่งในคืนเดียว
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงวันนี้ (7 เม.ย. 2564) ระบุ ประเทศไทยมีผู้ป่วยรายใหม่ 334 คน โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 327 คน และติดเชื้อจากต่างประเทศ 7 คน และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
โดยจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก คือ กรุงเทพฯ 216 คน ทั้งนี้ แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวด้วยว่า ตัวเลขนี้เป็นการนับเมื่อเวลาเที่ยงคืนวานนี้ (6 เม.ย.) ซึ่งยังไม่รวมกรณี อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หรือแสตมป์ นักร้องชื่อดัง รวมทั้งกรณีบุคลากรของ รพ.ราชวิถี โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อจะมีการรายงานความคืบหน้าอีกครั้งในการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุขในช่วงบ่ายวันนี้ (7 เม.ย.)
นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สถานบันเทิงใน กทม. คือ พระนครศรีอยุธยา 1 คน, นนทบุรี 8 คน, สมุทรปราการ 15 คน, ชลบุรี 6 คน และสระแก้ว 20 คน ส่วนการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน วันนี้ พบเพิ่มใน กทม. 133 คน สมุทรปราการ 15 คน และชลบุรี 5 คน
“กทม. ปทุมธานี ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี และนครปฐม จังหวัดเหล่านี้ยังต้องติดตามต่อเนื่อง เพราะมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สถานบันเทิงใน กทม.”
ส่วนแนวโน้มผู้ติดเชื้อในภาพรวม พบว่า ในช่วงวันที่ 4-7 เม.ย. 2564 พบผู้ติดเชื้อกระจายไป 27 จังหวัด จากเดิมก่อนหน้านี้ที่พบกระจายแค่ 14 จังหวัด
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็กมื่อช่วงเช้า มีความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงใน กทม. หลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังพบลักษณะการกระจายผู้ติดเชื้อในสถานบันเทิงที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ทั้งในพื้นที่โซนรังสิต-ปทุมธานี และโซนทองหล่อ-เอกมัย โดยตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. – 6 เม.ย. 2564 พบตัวเลขผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงสูงถึง 291 คน ใน 15 จังหวัด โดย กทม. พบมากที่สุด 200 คน รองลงมาคือชลบุรี 23 คน และสมุทรปราการ 18 คน
“พฤติกรรมของนักเที่ยว บางครั้งจะไปหลายสถานบันเทิงต่อเนื่องในคืนเดียว รวมทั้งนักร้อง นักดนตรี ก็จะไปแสดงในหลายแห่ง”
ส่วนมาตรการในการจัดการ ในส่วนพื้นที่ กทม. ได้ออกคำสั่งปิดสถานบันเทิงชั่วคราววันที่ 6-19 เม.ย. ใน 3 เขต คือ ทวีวัฒนา คลองเตย และบางแค ส่วนการปรับพื้นที่สีนั้น ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็ก ยังไม่มีมติ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยหารือกันก่อน