รมช.สธ. ขอ 2 วัน เปิดไทม์ไลน์ “ศักดิ์สยาม” เผย เร่งเจรจาซื้อวัคซีนเพิ่ม แต่ไม่มีเจ้าใดส่งมอบทัน มิ.ย. นี้ ด้าน นักวิจัยระบบสุขภาพ ห่วงสงกรานต์ระบาดใหญ่กว่าทุกระลอก แนะเตรียมระบบบริการสุขภาพให้เพียงพอ
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2564 ผศ.นพ.บวรศม ลีระพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกันสาขาระบาดวิทยา และนักวิจัยระบบสุขภาพ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์กับรายการ Active Talk ว่าการระบาดรอบนี้เหมือนย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ประเทศไทยมีความรู้มากขึ้นเรื่องสายพันธุ์ แม้สายพันธุ์อังกฤษจะหลุดรอดเข้ามาแล้ว แต่ต้องสกัดกั้นสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ซึ่งวัคซีนที่มีอยู่ตอนนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า รองรับได้หรือไม่
อีกประเด็นสำคัญ คือ คลัสเตอร์ทองหล่อต้องสอบสวนโรคหาต้นตอให้ได้ ว่าหลุดมาจากที่ไหน โดยใช้ระบบ Contact testing และเตรียมเรื่องระบบบริการสุขภาพให้เพียงพอ รอบนี้มีความเหมือนกับรอบแรกที่ระบาดจากสนามมวยและผับบาร์ โดยจะสังเกตได้ว่าสถานที่เสี่ยง และกิจกรรมที่รวมตัวกันหนาแน่น จะเป็น Superspreading event ที่แพร่เชื้อไปได้ไกล
สำหรับนโยบายในการควบคุมโรครอบนี้ยังคงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ตัดสินใจเอง แต่ควรมีข้อพิจารณาหรือหลักเกณฑ์เดียวกันเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือทำตาม ๆ กันเหมือนอย่างที่ผ่านมา รวมทั้งควรสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจถึงแนวทางการตัดสินใจออกมาตรการต่าง ๆ จากรัฐด้วย
ผศ.นพ.บวรศม ระบุต่อไปว่า ในเชิงระบาดวิทยาคนในพื้นที่จะรับรู้ถึงความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงกรานต์ อาจต้องคิดร่วมกันที่จะควบคุมโรคอย่างไร เมื่อทุกฝ่ายวิเคราะห์ตรงกันเป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงมากที่สุด เพราะจะมีการเคลื่อนย้ายประชากร กระทรวงสาธารณสุข จึงพยายามปรับแผนการฉีดวัคซีนที่ปัจจุบันยังมีอยู่น้อยมาก จำนวน 2 ล้านโดส จากซิโนแวคและแอสตราเซเนกา เพื่อนำมาสร้างความเชื่อมั่นและส่วนหนึ่งก็แบ่งเอาไว้บริหารความเสี่ยงแต่อย่างไรก็ตามไม่มากพอที่จะใช้สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ แต่หากกรณีจะเปิดประเทศที่เกาะภูเก็ตก็จำเป็นต้องใช้วัคซีน ให้เพียงพอ กับประชากรจำนวน 70%
ดังนั้น ช่วงที่ยังรอวัคซีนล็อตใหญ่ของแอสตราเซเนกา ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ที่จะได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ระหว่างนี้ จึงนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกช่วงหนึ่งในการควบคุมโรค
ด้าน สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าการระบาดรอบล่าสุด ก็สามารถเรียกว่าเป็นรอบ 3 ได้ โดยคนที่ไปร่วมกิจกรรมเสี่ยงและติดเชื้อมาอยู่ในวิชาชีพที่ต้องทำงานกับผู้คนจำนวนมากเลยแพร่กระจายไปได้มาก
ในส่วนของนายกรัฐมนตรีคงไม่มีคำสั่งล็อกดาวน์ ปิดเมือง แต่คนที่ทำงานด้านสาธารณสุขก็จะเหนื่อยพอสมควรกับการตามสอบสวนโรคซึ่งไม่สามารถทำได้ 100%
“ผมย้ำกับเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคว่าต้องโปร่งใส ในการแสดงไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ เพราะหากไม่จริงจังสิ่งที่ทำมาจะหมดความน่าเชื่อถือ กรณีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ติดเชื้อเมื่อวันที่ 7 เมษายน คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 วันจึงจะทราบไทม์ไลน์ ที่ชัดเจน”
ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้มีการระดมเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคจากต่างจังหวัด เข้ามาที่กรุงเทพฯ เพราะต้องใช้จำนวนคนที่มากขึ้น ในขณะที่ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือหลายคนไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนเอง ทำให้ไม่ได้เข้าสู่ระบบของกรมควบคุมโรค การติดตามตัวก็จะยากมากขึ้น ล่าสุด มีการประสานงานกับทุกหน่วยโรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชนว่าหากพบผู้ติดเชื้อให้รับแอดมิดทันที และจะมีเจ้าหน้าที่ไปพบ
สำหรับแนวทางการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ในสถานการณ์ฉุกเฉินและยังมีวัคซีนอยู่จำกัด ก็อาจมีการปรับเปลี่ยนแผน ฉีดเน้นในจุดที่เกิดการระบาดในกรุงเทพฯ มากขึ้น
เดิม ครั้งแรกกรุงเทพฯ ได้รับการจัดสรรวัคซีนจำนวน 60,000 โดส ต่อมาเพิ่มเป็น 100,000 โดส และคาดว่าวัคซีนจากซิโนแวค ที่จะมาในวันที่ 10 เมษายนนี้ อีกจำนวน 1 ล้านโดส จะทุ่มไปที่กรุงเทพฯ เป็นส่วนมาก
ส่วนการจัดหาวัคซีนในระหว่างที่ยังรอวัคซีนล็อตใหญ่ 26 ล้านโดส ส่งมอบล็อตแรก 5 ล้านโดสกลางเดือนพฤษภาคมนี้นั้น คณะกรรมการวัคซีนฯ ก็คุยกันมาตลอดและมีการเจรจากับบริษัทวัคซีนหลายบริษัท แต่ไม่มีเจ้าใดสามารถส่งมอบวัคซีนได้ทันก่อนเดือนมิถุนายน เช่นบริษัท Johnson & Johnson สามารถส่งมอบวัคซีนให้ได้ในเดือนตุลาคม ทั้งนี้หากสามารถเจรจาซื้อวัคซีนได้ก่อนเดือนมิถุนายน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใด รัฐบาลพร้อมที่จะทุ่มงบประมาณเต็มที่ที่จะซื้อวัคซีนโดยเร็วที่สุด