สธ. ร่วม ศธ. เตรียมขยายมาตรการ Sandbox Safety Zone in School สู่โรงเรียนแบบไปกลับ พื้นที่สีแดงเข้มตรวจ ATK 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เรียนห้องละ 25 คน
นอกจากการฉีดวัคซีนเด็กอายุ 12 – 17 ปีแล้วมาตรการควบคุมโรคเป็นอีกสิ่งที่ต้องทำไปพร้อมกันเพื่อกลับมาเปิดเรียนอย่างปลอดภัย ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุข มีมาตรการ Sandbox Safety Zone in School ในโรงเรียนประจำได้ผลดี และเตรียมร่วมกระทรวงศึกษาธิการขยายสู่โรงเรียนแบบไปกลับ โดยคาดว่าหลายโรงเรียนจะกลับมาพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 ที่โรงเรียน วันที่ 1 พ.ย.2564 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า มีมาตรการและการดำเนินการของโรงเรียนที่ต้องเข้มขึ้นตามระดับพื้นที่ระบาดดังนี้
พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว)
– ครู บุคลากรต้องฉีดวัคซีนมากกว่า 85%
– ประเมินความเสี่ยง 1 วันต่อสัปดาห์
พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง)
– ครู บุคลากรต้องฉีดวัคซีนมากกว่า 85%
– ประเมินความเสี่ยงบุคคล 1 วันต่อสัปดาห์
– ตรวจ ATK 1 ครั้งใน 2 สัปดาห์
พื้นที่ควบคุม(สีส้ม)
– ครู บุคลากรต้องฉีดวัคซีนมากกว่า 85%
– ตรวจ ATK 1 ครั้งใน 2 สัปดาห์
– ประเมินความเสี่ยงบุคคล 2 วันต่อสัปดาห์
พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง)
– ครู บุคลากรต้องฉีดวัคซีนมากกว่า 85%
– ประเมินความเสี่ยงบุคคล 3 วันต่อสัปดาห์
– ตรวจ ATK 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
– สถานประกอบกิจการรอบสถานศึกษา 10 เมตร ต้องผ่านการประเมิน Thai Stop COVID Plus และ COVID Free Setting
– จัดทำ School Pass และจัดกลุ่มนักเรียนต่อห้องไม่เกิน 25 คน
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)
– ครู บุคลากรต้องฉีดวัคซีนมากกว่า 85%
– ประเมินความเสี่ยงบุคคลทุกวัน
– ตรวจ ATK 2 ครั้งต่อสัปดาห์
– สถานประกอบกิจการรอบสถานศึกษา 10 เมตร ต้องผ่านการประเมิน Thai Stop COVID Plus และ COVID Free Setting
– จัดทำ School Pass และจัดกลุ่มนักเรียนต่อห้องไม่เกิน 25 คน
7 มาตรการเข้มสถานศึกษา
- สถานศึกษาประเมินตนเองผ่าน Thai Stop COVID Plus และประเมินผลผ่าน MOECOVID
- การทำกิจกรรมร่วมกันต้องเป็นกลุ่มย่อยและไม่ข้ามกลุ่ม
- จัดระบบให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและโภชนาการ
- จัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการระบายอากาศ
- จัดเตรียม School isolation และ แผนเผชิญเหตุรองรับ ผู้ติดเชื้อโดยมีการซักซ้อม
- ควบคุมดูแล การเดินไปกลับให้มีความปลอดภัย (Seal Route) และ
- จัดทำ School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากร ซึ่งจะมีข้อมูลผลประเมินความเสี่ยง ผลตรวจ ATK ในระยะ 7 วัน ประวัติการรับวัคซีน หรือประวัติติดเชื้อช่วง 1-3 เดือน
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สำหรับการสนับสนุน ATK มี 2 ส่วน คือ 1. สปสช.จัดชุดตรวจ 8.5 ล้านชุด กระจายลงไปยังจังหวัดผ่านระบบสถานพยาบาลในพื้นที่ สามารถประเมินความเสี่ยงและรับชุดตรวจได้ตามเงื่อนไขที่สปสช.กำหนด และ 2. การจัดหาในพื้นที่ เช่น ท้องถิ่น คณะกรรมการโรงเรียนหรือกองทุนสุขภาพตำบล สามารถมาสนับสนุน การดำเนินการของโรงเรียนซึ่งเชื่อว่าจากนี้ ATK จะมีจำนวนมากขึ้นและราคาถูกลง
ข้อมูลระบาดวิทยาในเด็กอายุ 6-18 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 11 กันยายน 2564
- ติดเชื้อโควิด 19 สะสม 129,165 ราย
- เสียชีวิตสะสม 15 ราย
ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว แนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แม้ยังไม่มีการเปิดเรียน ส่วนหนึ่งติดเชื้อในครอบครัวหรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อยืนยัน
การฉีดวัคซีนในครู บุคลากรทางการศึกษา และเด็ก
- ครูได้รับวัคซีนแล้ว 88.3% (ข้อมูลวันที่ 5 ก.ย. 2564)
- เด็กอายุ 12-18 ปี ที่มีโรคประจำตัว
– วัคซีนไฟเซอร์เข็ม 1 จำนวน 74,932 คน
– วัคซีนไฟเซอร์เข็ม 2 จำนวน 3,241 คน
(ข้อมูลถึงวันที่ 11 ก.ย. 2564)