ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี การลักลอบทิ้งกากฯ ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม และตรวจหาปริมาณและชนิดของสารเคมีที่ปนเปื้อนในดินและน้ำ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ กระทำความผิด
24 ก.ย. 2564 – ประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ พฤกษ์ ศิโรรัตนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกรณีการลักลอบ ทิ้งกากอุตสาหกรรม ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี โดยร่วมมือกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี และเจ้าหน้าที่ ท้องถิ่น ซึ่งการลงพื้นที่ฯในครั้งนี้ เพื่อทำการขุดสำรวจลงไปในผิวดินเพื่อพิสูจน์ชนิดของสารเคมี
โดยพบว่าบริเวณดังกล่าวมีกลิ่นสารเคมีเข้มข้นกระจายฟุ้งไปทั่ว ชี้ให้เห็นว่ามีการซึมลงไปในชั้นดิน โดยคาดว่าน่าจะเป็นความลึก ที่ประมาณ 1 – 2 เมตรจากผิวดิน โดยพบของเหลวสีขาวลักษณะหนืดข้น ส่วนหนึ่งปนเปื้อนน้ำสีดำ และสีแดง คล้ายสนิมเหล็กจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างของเหลวและดินที่ขุดขึ้นมาเพื่อนำไปพิสูจน์การ ปนเปื้อน ในห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ โดยกระบวนการคัดแยกชนิดสารเคมีได้สั่งการให้ห้องปฏิบัติการตรวจ วิเคราะห์ดำเนินการเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ได้ทราบองค์ประกอบของสารเคมีที่พบในดินและน้ำ จากนั้นจะรวบรวมหลักฐานเชื่อมโยงกับข้อมูลของโรงงานผู้ก่อกำเนิดของเสีย เพื่อส่งให้กับพนักงานสืบสวนดำเนินคดีต่อไป
พฤกษ์ ศิโรรัตนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม กล่าวว่า การดำเนินการขุดค้นเพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานการกระทำความผิดลักลอบฝังกลบสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจาก ภาคอุตสาหกรรม เนื่องด้วยสภาพการมีองค์ประกอบหลายส่วนที่ทำให้เชื่อว่ามีการกระทำความผิดจริง โดยพบว่ามี กิจกรรมการฝังกลบเศษวัสดุเหลือใช้จากภาคอุตสาหกรรมบดผสมกับเนื้อดิน และการใช้เครื่องจักรซึ่งเป็นรถแบคโฮ 2 คัน มีกำลังแรงม้ามากกว่า 50 แรงม้าเข้าข่ายลักษณะโรงงาน ซึ่งถ้าพิสูจน์แล้วมีความผิดจริงจะมีความผิดฐาน ประกอบกิจการโรงงานจำพวก 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535
“สารที่มีอยู่มีอะไรบ้างต้องหา บางตัวอาจใช้เวลาไม่มากนักอาจจะเจอ บางตัวอาจใช้เวลา 1-2 เดือน แล้วแต่ความเป็นมลพิษของดินที่เกิดขึ้น”
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ดำเนินการแจ้งความและร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวน สภ.พัฒนานิคม ด้วยความผิดฐานการครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 23 วรรค 1 และมาตรา 73 พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และเมื่อทราบผลจากการตรวจสอบวิเคราะห์หาสารปนเปื้อนในดินและน้ำ ซึ่งจะนำไปเชื่อมโยงกับโรงงานผู้ก่อกำเนิดของเสียจากอุตสาหกรรม และเป็นหลักฐานชี้ชัดในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดไม่ ว่าจะเป็นเจ้าของที่ดิน ผู้ขนส่งลักลอบทิ้งของเสีย และผู้รับบำบัดและกำจัดของเสียต่อไป
สำหรับกรณีการลักลอบทิ้งสารเคมีในตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี พบว่ามีการลักลอบนำถังเหล็ก ถังพลาสติกจำนวนมากมาทิ้งไว้ในพื้นที่และมีอีกจำนวนมากถูกฝังใต้ดินและยังพบขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกจำนวนหนึ่ง จุดที่ทิ้งสารเคมีมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ 2 บ่อ บ่อที่มีขนาดเล็กกว่าพบความผิดปกติของน้ำแล้ว ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นระบุว่าพบการขนย้ายของเหล่านี้เข้ามาในพื้นที่ด้วยรถบรรทุกพ่วงวันละ 2 เที่ยว จนกระทั่งเพิ่มมากขึ้นและมีรถแบคโฮเข้ามาขุดฝังกลบก่อนจะเกิดกลิ่นเหม็นกระทบชาวบ้านไปทั่ว ส่วนพื้นที่ที่เป็นจุดลักลอบทิ้ง คนในพื้นที่ระบุว่าเป็นของเอกชน