อนุทิน ย้ำ พร้อมเปิดประเทศ ตั้งเป้าฉีดวัคซีนร้อยละ 70 โพล ชี้ คนไทยร้อยละ 94 กังวลเปิดประเทศ

คนไทยฉีดวัคซีนแล้วเกินร้อยละ 50 ก่อนเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ เร่งฉีดให้ครอบคลุมร้อยละ 70 พร้อมกระจายวัคซีนฉีดชายแดนใต้พื้นที่ระบาดหนัก ด้าน กรมอนามัย ขอความร่วมมือสถานประกอบการและนักท่องเที่ยวปฏิบัติเข้มตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เผยผลสำรวจ คนไทยร้อยละ 94 ยังกังวลเปิดประเทศ

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความพร้อมในการเปิดประเทศว่า ได้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนตามทฤษฎีระบาดวิทยา ที่ร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันเกินร้อยละ 50 แล้ว หากครบแล้ว ยังมีคนต้องการฉีดอยู่ จะจัดฉีดให้

ส่วนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงระบาดสูงอยู่ ยืนยันว่าตัวเลขเริ่มนิ่งและมีแนวโน้มที่จะลดลง ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา 

ขณะที่กรมควบคุมโรคได้เร่งจัดส่งวัคซีนไป 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นการส่งไปในพื้นที่ระบาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และขณะนี้ฉีดไปจำนวนมากแล้ว ขณะที่สัปดาห์นี้จะเร่งส่งวัคซีนไปยังจังหวัดที่ระบาดมากขึ้นเช่น นครศรีธรรมราช เพื่อให้สามารถสร้างภูมิโดยเร็ว ตามสูตรเดียวที่ส่งไปใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“หากดูจำนวนผู้ติดเชื้อใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้เริ่มลดลง และที่สำคัญจำนวนผู้เสียชีวิต เริ่มลดลงไปเรื่อยๆซึ่งตัวเลขที่ลดมาจากการฉีดวัคซีนล้วนๆ จึงเป็นตัวยืนยันว่าวัคซีนกำลังทำงานของมันอยู่”

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ภายหลังที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีคำสั่งกำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ อนุมัติประเทศและพื้นที่ที่อนุญาตให้ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นั้น ซึ่งจากผลการสำรวจของกรมอนามัยระหว่างวันที่ 14-20 ตุลาคม 2564 เกี่ยวกับความคิดเห็นต่อประเด็น “คิดเห็นอย่างไรกับการเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564” พบว่า คนไทยร้อยละ 94 มีความกังวล กับการเปิดประเทศ โดยมีความเชื่อมั่นต่อการควบคุมป้องกันโรคร้อยละ 28 ในขณะที่ร้อยละ 72 มีความคิดเห็นว่า ควรเพิ่มมาตรการที่จะทำให้เชื่อมั่นว่า หากเปิดประเทศแล้วจะปลอดภัยด้วยการเร่งฉีดวัคซีนให้ทุกคนทั่วประเทศ      ครบตามเกณฑ์ครอบคลุมทุกจังหวัดร้อยละ 70 ให้มีการคุมเข้มการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายตามแนวชายแดนร้อยละ 60 และมีการกำกับ ติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของสถานประกอบการและประชาชนอย่างเคร่งครัดร้อยละ 55 ตามลำดับ

“สถานประกอบกิจการต่าง ๆ ขอให้เพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานทุกคนที่ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว ควรได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ราชการกำหนด หรือตรวจ ATK ทุก 7-14 วัน มีการคัดกรองพนักงานด้วย “ไทยเซฟไทย” ทุกวัน หากพบว่ามีอุณหภูมิเกินกว่าที่กำหนดและมีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อให้ตรวจด้วย ATK ทันที”

สำหรับมาตรการด้านความปลอดภัยและอนามัยสิ่งแวดล้อม ให้ประเมินตนเองตามหลักเกณฑ์ของ Thai Stop COVID Plus ทุกเดือน และติดใบรับรอง Certificate ในบริเวณที่ผู้รับบริการและที่เจ้าหน้าที่สามารถสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบได้ รวมทั้งผ่านเกณฑ์การประเมิน SHA Plus ที่เน้นการระบายอากาศที่ดี เพียงพอ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ควบคุมจำนวนพนักงานและลูกค้า 1 คน ต่อ 4 ตารางเมตร และทำความสะอาดจุดเสี่ยงที่มีการสัมผัสร่วม โดยเพิ่มความถี่เมื่อมีผู้รับบริการมากขึ้น อย่างน้อยทุก 1 ชั่วโมง

สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยจะต้องไม่มีอาการเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง และได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ที่ราชการกำหนด หรือตรวจ ATK ทุก 7-14 วัน และปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT อย่างเคร่งครัด พร้อมคัดกรองตัวเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” และแสดงให้ผู้รับบริการตรวจสอบก่อนเข้าสถานประกอบการ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องไม่มีอาการเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง คัดกรองไม่พบเชื้อ และได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือมีผลตรวจ RT-PCR ตามระยะเวลาที่กำหนดด้วย

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active