พาณิชย์จังหวัดฯ ยัน ยังไม่พบสินค้าขึ้นราคา ขณะที่น้ำท่วมภาคใต้หลายจังหวัดเริ่มคลี่คลาย ด้าน สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก วันนี้ – 4 ธ.ค.
วันนี้ (1 ธ.ค. 67) สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้เริ่มคลี่คลายในหลายจังหวัดหลังฝนหยุดตก และทุกหน่วยงานเร่งระบายน้ำทำให้ระดับน้ำลดลง รวมถึงความช่วยเหลือเริ่มเข้าไปถึงผู้ประสบภัยในพื้นที่ได้แล้ว
อย่างไรก็ตามจากการสำรวจของทีมข่าว Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคใต้ พบว่า ประชาชนยังกังวลว่าฝนอาจตกซ้ำ และน้ำอาจกลับมาท่วมอีก ส่งผลให้ประชาชนต่อแถวเติมน้ำมัน และซื้อของใช้จำเป็น จนทำให้ร้านค้าบางแห่งชั้นวางสินค้าว่างเปล่า
เช่น ร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส หลังประชาชนออกมาซื้อสินค้าของสด ของแห้ง และน้ำดื่มเตรียมใช้ในบ้าน โดยเฉพาะไข่ไก่ ทำให้ไข่เริ่มขาดตลาดกลายเป็นสินค้าหายาก โดยพนักงานคาดว่าอีกประมาณ 2-3 วัน รถส่งสินค้าจึงจะเข้ามาส่งสินค้าในพื้นที่ เนื่องจากเส้นทางเดินทางมาจังหวัดนราธิวาส ถูกตัดขาดตั้งแต่จังหวัดปัตตานี
ด้าน พาณิชย์จังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด พบว่า สินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ ไข่ไก่ ผักสด เนื้อสัตว์ (ไก่และหมู) มีปริมาณลดลง โดยเฉพาะไข่ไก่ และผักสด อาจมีจำหน่ายเพียงเล็กน้อยในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) เนื่องจากรถขนส่งสินค้าไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่ได้ ในส่วนของข้าวสาร น้ำมัน น้ำตาลทราย อาหารแห้ง ยังมีเพียงพอ ด้านราคายังคงทรงตัว ไม่พบการกักตุนสินค้า หรือฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือจงใจจำหน่ายสูงเกินสมควร พร้อมนี้ได้ให้คำแนะนำผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อย่างเคร่งครัด
สำหรับภาพรวมจังหวัดนราธิวาส ยังคงมีน้ำท่วมขังกระจายในทุกพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ โดยในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 7 ตำบล 53 หมู่บ้าน 13 ชุมชน 9,073 ครัวเรือน มีบางชุมชนริมแม่น้ำที่น้ำยังท่วมสูง ส่วนจังหวัดสงขลายังมีน้ำท่วมขัง ในที่ลุ่มชั้นในทั้งสองฝั่ง ทั้งฝั่งเทศบาลพัฒนาและฝั่งชุมชนรอบวัดหาดใหญ่ใน แต่น้ำเริ่มลดลงเรื่อย ๆ บ้านเรือนที่น้ำลดก็เริ่มกลับเข้าไปทำความสะอาดแล้ว
เช่นเดียวกับที่จังหวัดยะลา น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว พื้นที่หลายแห่งระดับน้ำลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังประกาศขยายเขตภัยพิบัติเพิ่ม 7 อำเภอ พื้นที่เศรษฐกิจกลางเมือง บริเวณถนนสายกลาง ระดับน้ำลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ ร้านค้าหลายแห่งเริ่มทำความสะอาดร้านค้าบ้างแล้ว
ส่วนแม่น้ำปัตตานี ที่ไหลผ่านเขตเทศบาลนครยะลา ยังไหลล้นตลิ่งเข้ามาที่บริเวณแยกห้างโลตัสยะลาแต่ปริมาณน้ำไม่รุนแรงเหมือน 1-2 วันที่ผ่านมา คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มมากกว่านี้ มีแนวโน้มว่าน้ำน่าจะลดลงภายใน 2-3 วัน
สทนช. ประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก พื้นที่ภาคใต้ วันนี้ – 4 ธ.ค. 67
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 1 ธ.ค. 67 เวลา 7.00 น. พบว่า สภาพอากาศวันนี้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณช่องแคบมะละกา ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
โดยคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 4–6 ธ.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนกลางและตอนล่างมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
ขณะที่ประกาศ สทนช. ฉบับที่ 20/2567 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 27 พ.ย. – 4 ธ.ค. 67 ดังนี้
- พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี ตรัง สตูล นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
- เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม
- เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลัก และลำน้ำสาขาของ คลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี แม่น้ำตรัง คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส