สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ออกจดหมายเปิดผนึก เร่งแก้ปัญหาการจัดรอบฉายที่ไม่เป็นธรรม ชี้เป็นปัญหาเรื้อรังในวงการภาพยนตร์ไทย ตัดโอกาส ฉุดรั้งการพัฒนาของภาพยนตร์ไทย
วันนี้ (7 มี.ค. 66) สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย เขียนจดหมายเปิดผนึก ประเด็นการจัดโรงและรอบฉายภาพยนตร์ไทยหลายครั้ง โดยระบุว่า กรณีล่าสุดคือเรื่อง ขุนพันธ์ 3 โดยปัญหาการจัดโรงและรอบฉายที่ไม่เป็นธรรม ตัดโอกาสของภาพยนตร์ไทย เป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นเรื่อยมา เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางในหมู่คนทำงานในวงการภาพยนตร์ไทย
เมื่อการสร้างภาพยนตร์ไม่อาจเป็นหลักประกันได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นจะมีโรงและรอบฉายที่มากเหมาะสมสำหรับการสร้างรายได้ให้กับภาพยนตร์ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้สร้างจำนวนมากไม่กล้าลงทุนในภาพยนตร์คุณภาพที่มีเนื้อหาหลากหลาย จนเป็นเหตุให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกเสื่อมศรัทธากับภาพยนตร์ไทย เพราะมีเนื้อหาที่ซ้ำซาก ไร้การพัฒนา แต่ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องที่มีเนื้อหาแปลกใหม่ มีคุณภาพกลับได้รับการจัดโรงและรอบที่น้อยจนหมดโอกาสในการสร้างผู้ชมและรายได้
อนุชา บุญยวรรธนะ นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ระบุว่า ปัจจุบันอย่างที่รับทราบกันว่าอุตสาหกรรมหนังไทยตกต่ำกว่าที่ผ่านมา คนทำหนังทุกคนทราบกันดี การจัดหนังเขาฉายในโรงภาพยนตร์เป็นหนึ่งวิธีการที่จะช่วยอุตสาหกรรมหนังไทยไปได้ต่อ ซึ่งภาครัฐควรเข้ามามีส่วนจัดการ
“ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่การจัดรอบฉาย ยังมีปัญหาอื่นมากมาย แต่ปัญหาการจัดรอบถือเป็นปัญหาสำคัญเรื่องหนึ่ง กลไกภาครัฐควรที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุน และปกป้องอุตสาหกรรมที่โลคอล เพื่อให้อุตสาหกรรมอยู่ได้”
นอกจากความบันเทิงแล้ว ควรคำนึงถึงเนื้อหา การสร้างวัฒนธรรมการดูหนังที่มีความหลากหลายด้วย ภาพยนตร์ไม่ใช่เพียงแค่คุณค่าทางเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมด้วย หลายประเทศเลือกที่จะปกป้องอุตสาหกรรมของเขาด้วยการจัดโควต้า โดยมีการกำหนดรอบฉายหนังในประเทศและต่างประเทศกี่เปอร์เซนต์เพื่อให้พื้นที่หนังในประเทศก่อน แม้ทุนในการผลิตจะสู้ต่างประเทศไม่ได้ แต่อย่างน้อยมีความได้เปรียบเรื่องพื้นที่ในการฉายมาทดแทน
ไม่น่าจะปล่อยไปตามกลไกทางการตลาดเพียงอย่างเดียว หรือต่อให้ปล่อยไปตามกลไกทางการตลาดเพียงอย่างเดียวก็ต้องดูด้วยว่าที่สุดแล้วแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมแล้วหรือเปล่า เพราะทุนของบางที่สู้เขาไม่ได้
ทางสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ในฐานะคนทำหนัง จึงขอแสดงจุดยืนในการปกป้องผู้กำกับภาพยนตร์และคนทำงานที่ควรได้รับโอกาสในการเผยแพร่ผลงานอย่างเป็นธรรม โดยการออกจดหมายเปิดผนึก โยระบุข้อเรียกร้องดังนี้
1. ขอให้สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจาต่อรองหรือจัดสรรรอบฉายของภาพยนตร์ไทยให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นไปเพื่อนำเสนอภาพยนตร์ไทยคุณภาพออกสู่สายตาผู้ชม สร้างความหลากหลายในการชมภาพยนตร์ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ชมและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาวงการภาพยนตร์ไทยในระยะยาว
2. ขอให้สื่อมวลชนนำเสนอประเด็นปัญหานี้ให้ผู้ชมได้รับรู้และเข้าใจถึงปัญหาในวงการภาพยนตร์ไทย อันจะนำไปสู่การสนับสนุนให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยขอเรียกร้องให้หนังไทยทุกเรื่องมีพื้นที่ฉายอย่างสมศักดิ์ศรี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดการแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายในวิกฤตการณ์ครั้งนี้