ครบ 50 วันตึกสตง.ถล่ม ACT จี้รัฐบาลเอาจริง หวั่นกระบวนการทำคดีสาวไม่ถึงตัวผู้บงการ

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เร่งรัฐบาลดำเนินคดีคนผิด แม้จะมีการจับผู้ต้องหา 17 ราย แต่หวั่นกระบวนการทำคดีจะสาวไม่ถึงตัวผู้บงการ เรียกร้องนายกฯ ตั้งตัวแทนประสานงานภาครัฐรวบรวมข้อมูลและเปิดเผยการสอบสวนต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส

มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เปิดเผยว่า ผ่านมาแล้วกว่า 50 วันนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่ม เมื่อ  28 มี.ค.ที่ผ่านมา  นี่ไม่ใช่แค่โศกนาฏกรรมที่คร่าชีวิตและสร้างบาดแผลทางกายและใจแก่ประชาชนจำนวนมาก  แต่ยังเป็นการทำลายทรัพย์สิน   มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน ที่สำคัญที่สุดได้พังทลายความเชื่อมั่นต่อมาตรฐานความปลอดภัยและความโปร่งใสในโครงการภาครัฐทั่วประเทศ

แม้ขณะนี้จะมีการจับผู้ต้องหาถึง 17 ราย แต่สิ่งที่สังคมยังคงกังวล คือกระบวนการสอบสวนและจัดทำสำนวนคดีที่อาจไม่รัดกุมเพียงพอ อันอาจนำไปสู่การที่ผู้กระทำผิดบางราย หรือแม้แต่ทั้งหมด หลุดพ้นจากความรับผิด เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

“การเอาผิดต้องไม่หยุดเพียงแค่ระดับผู้รับเหมา หรือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ แต่ต้องขยายผลไปถึงผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ผู้อนุมัติงบประมาณ ผู้ตรวจรับงาน และผู้ที่มีบทบาทเอื้อประโยชน์จนก่อให้เกิดความเสียหาย การออกหมายจับผู้ต้องหาเพียงไม่กี่ราย ยังไม่อาจเรียกได้ว่าความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผย หากยังไม่มีใครกล้าตั้งคำถามถึงตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง อย่างตอนนี้ไม่ปรากฏข้อมูลว่าหน่วยราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องว่ามีการแบ่งหน้าที่ในการสืบค้นข้อมูลกันอย่างไร ทั้ง ตำรวจ ดีเอสไอ. กรมโยธาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม ฯลฯ ” ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯกล่าว

ด้วยเหตุนี้ องค์กรฯ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการอย่างเร่งด่วน ดังนี้  (1) แต่งตั้งตัวแทนรัฐบาลที่มีอำนาจหน้าที่ชัดเจนในการประสานงาน รวบรวมข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนต่อสาธารณะอย่างโปร่งใสให้ประชาชนติดตามได้ตลอดเวลาว่าทำอะไรถึงไหน เปิดโปงผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง และเร่งรัดกระบวนการดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด   (2) ประกาศมาตรการป้องกันที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีกในอนาคตพร้อมดำเนินการตรวจสอบโครงการก่อสร้างภาครัฐทั้งหมดอย่างเข้มข้น และลงโทษผู้ที่ละเลยความปลอดภัยอย่างไม่ละเว้น

นอกจากนั้น รัฐบาลต้องเอาจริงด้วยการจับตัวนายทุนต่างชาติที่ยังหาตัวไม่เจอให้ได้เพราะเป็นตัวเชื่อมต่อกับผู้บงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง หน่วยงานรัฐอย่างดีเอสไอ ปปง. สามารถใช้อำนาจของกฏหมายฟอกเงินตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายทุนจีนคนนี้ในช่วง 3-4 ปี่ทีผ่านมาได้ว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้างและกรมสรรพากรสามารถช่วยตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้บุคคลของผู้ต้องสงสัยได้อีกด้วย

“หากรัฐบาลยังเพิกเฉย ไม่แสดงความคืบหน้า ไม่เปิดเผยข้อมูล และไม่ดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง องค์กรฯจะร่วมกับภาคประชาชนดำเนินการเปิดเผยข้อมูลที่มีอยู่ต่อสาธารณชน และยกระดับการผลักดันในทุกมิติ  เพื่อให้ความจริงปรากฏ และคนผิดต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ บริษัทเอกชน หรือผู้มีอิทธิพลใด ๆ เพราะความเงียบเท่ากับการสมรู้ร่วมคิดและการไม่ยืนหยัดเพื่อความจริงคือการทรยศต่อประชาชน”

นอกจากนี้ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯยังได้เผยแพร่บทความ “สังคมไทยได้เห็นอะไรหลังตึกสตง.ถล่ม” เพื่อเป็นการทบทวนว่าเหตุน่าเศร้านี้ทำให้ สังคมไทย “ตาสว่าง” มากขึ้นหลายประการในด้านใดบ้าง โดยเฉพาะคอร์รัปชันในงานก่อสร้างภาครัฐที่นำมาสู่วิกฤตศรัทธาในวงการก่อสร้างไทยเกี่ยวกับจรรยาบรรวิชาชีพทั้งวิศวกรและสถาปนิก แค่ไหนคือความเหมาะสมของการใช้เงินแผ่นดินและอำนาจขององค์กรอิสระ ฯลฯ

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active