เสียชีวิตเพิ่ม 49 คน 80% เป็นผู้สูงอายุ ขณะที่ยอดฉีดวัคซีนเข็ม 3 กลุ่มนี้ยังไม่ถึงครึ่ง ด้าน “ศ.นพ.ยง” ชี้ วัคซีน 3 เข็มแรกจำเป็น ลดความรุนแรงของโรค เผยประสิทธิภาพวัคซีนสูงสุดหลังฉีด 14-28 วัน จากนั้นภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว
วันนี้ (3 มี.ค. 2565) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ในประเทศ 23,437 คน และผลตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท หรือ ATK พบผู้ติดเชื้อเข้าข่ายเพิ่ม 42,138 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยใหม่รวมกัน 65,756 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุด นับตั้งแต่โควิด-19 ระลอกใหม่ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565
ขณะที่วันนี้มีหายป่วยกลับบ้าน 18,939 คน หายป่วยสะสม 543,184 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 223,414 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 49 คน ทำลายสถิติใหม่ของการระบาดรอบนี้ โดยพบว่า 80% เป็นผู้อายุ 60 ปีขึ้นไป และ 50% เป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุ เข็ม 3 ยังครอบคลุม 29.1% โดยวัคซีนเข็ม 3 จะลดการเสียชีวิตได้ถึง 41 เท่า ส่วนวัคซีนเข็มลดการเสียชีวิตได้ 6 เท่า
แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ต้องเคลียร์ให้ชัดว่าวัคซีนกลุ่ม 608 ที่ยังฉีดเข็ม 3 ได้น้อย เป็นเพราะความกลัว หรือเป็นปัญหาด้านการจัดหา สั่งให้หน่วยบริการไปสำรวจ
ทั้งนี้ การที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันมีรวม 65,756 คน นับว่าเกินไปจากจากการคาดการตามฉากทัศน์ที่ 2 ที่จะมีผู้ติดเชื้อรายวัน 50,000 คน และเริ่มเข้าสู่ฉากทัศน์ที่ 3 คือเลวร้ายที่สุดจะมีผู้ติดเชื้อรายวันถึง 100,000 คน ทั้งที่ยังไม่ถึงเทศกาลสงกรานต์
“ศ.นพ.ยง” ชี้ วัคซีน 3 เข็มแรกจำเป็น
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุข้อมูลจำนวนเข็มวัคซีนที่เพียงพอต่อการรับมือกับโควิด-19 ที่เริ่มเรียนรู้กันมากขึ้น ว่าการฉีดวัคซีนเป็นไปเพื่อลดความรุนแรงของโรค แต่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ส่วนตัวไวรัสโควิด-19 มีระยะฟักตัวที่สั้น และมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์มาโดยตลอด ขณะที่วัคซีนที่ใช้เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมตั้งแต่การระบาดในเมืองอู่ฮั่น และแม้จะมีการปรับวัคซีนเป็นสายพันธุ์ใหม่ แต่ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลง ประสิทธิภาพก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิม
เขาระบุอีกว่า การติดเชื้อในธรรมชาติ เมื่อวัดภูมิต้านทานต่อหนามแหลม ก็ไม่ได้สูงมาก วัคซีนที่ทำมาจากจำเพาะหนามแหลม สร้างภูมิต้านทานที่สูงมาก ก็ยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากวัคซีน ที่มีความจำเพาะต่อนั้นแหลม จะขึ้นสูงมากก็จริง แต่ก็จะลดลงตามกาลเวลา จึงไม่มีวัคซีนเทพ สูงมากก็ลงเร็วมาก เป็นกฎเกณฑ์ของร่างกาย
“การฉีดวัคซีนจะกี่เข็มก็ตาม ยี่ห้ออะไรก็ตาม ขึ้นสูงก็ลงเร็ว ขึ้นน้อยก็ลงช้าประสิทธิภาพของวัคซีนจึงสูงสุดเมื่อ 14 ถึง 28 วัน หลังจากนั้นก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว”
ศ.นพ.ยง ระบุอีกว่า สายพันธุ์โอมิครอน สามารถติดต่อได้ง่าย แต่ความรุนแรงของโรคลดลง ประกอบกับการมีภูมิต้านทานเป็นบางส่วน จากการที่เคยติดเชื้อมาก่อนหรือได้รับวัคซีน เป็นส่วนประกอบให้ความรุนแรงของโรคลดลง
เมื่อความรุนแรงของโรคลดลง และติดต่อได้ง่าย โดยเฉพาะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ ก็สามารถแพร่โรคได้โดยไม่รู้ตัว ก็คงหนีไม่พ้นจากการรับเชื้อโดยไม่รู้ตัว การสืบสวนไทม์ไลน์เมื่อมีการติดเชื้อจำนวนมาก ก็จะไม่มีการพูดถึงแล้ว
“ในปัจจุบัน อายุของการติดเชื้อลดลงมาอย่างมาก ลงมาสู่วัยเด็ก โดยที่มีอาการน้อย และในอนาคตเด็กต้องไปโรงเรียน ถึงแม้ว่าเด็กฉีดวัคซีนแล้ว ก็มีโอกาสติดเชื้อได้”
เขายังยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ ที่ไม่มีการปิดโรงเรียน แต่หากตรวจ ATK เมื่อติดเชื้อก็รักษาตามอาการ อยู่บ้าน ครบ 7 วัน กลับมาเรียนได้ ไม่มีการตรวจเชื้อซ้ำหรือตรวจเชื้อซ้ำขึ้น 2 ขีด ก็ไม่ได้สนใจ เพราะการติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในวันแรก และเมื่อเกิน 7 วันไปแล้วโอกาสแพร่กระจายเชื้อจะน้อยมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ เมื่อได้วัคซีน 3 เข็มแล้ว 4 เข็มแล้ว ภูมิต้านทานจะสูงในเดือนแรกแรก แล้วก็ลดลงเหมือนเดิมอีก เราจะกระตุ้นวัคซีนไปเรื่อย ๆ หรือหากมีวัคซีนสายพันธุ์ใหม่ ไวรัสก็เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไปตลอด ได้ยินเสมอว่าฉีดวัคซีนมา 3 เข็มแล้วก็ยังติดเชื้อได้
“อย่างไรก็ตามการได้วัคซีน 3 เข็มแรก จึงมีความจำเป็นเพื่อลดอาการของโรคให้ได้ และสร้างหรือความจำให้ร่างกายได้รับรู้จักเชื้อไวรัสโควิด สิ่งที่สำคัญขณะนี้ จึงเน้นป้องกันในกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว และทุกคนจะต้องดูแลสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง ดำรงชีวิตอยู่แบบวิถีชีวิตใหม่ (new normal) และปกติต่อไป (next normal) ทุกชีวิตต้องเดินหน้า”