เกษตรกร – กลุ่มคนรักษ์แม่กลอง ย้ำ รัฐบาล การเมืองใหญ่ไม่สนใจ แอบหวังการเมืองท้องถิ่น ให้ความสำคัญ หวั่นจังหวัดเล็ก มีงบฯ น้อย เป็นข้อจำกัดแก้ไขปัญหา
ปัญญา โตกทอง แกนนำกลุ่มคนรักษ์แม่กลอง เปิดเผยกับ The Active ว่า ในช่วงหาเสียงก่อนเลือกตั้ง ไม่ค่อยมีผู้สมัครพรรคไหนยกนโยบายการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำมาพูดถึงมากนัก ทั้งที่เครือข่ายฯ ได้ยื่นข้อเสนอให้กับผู้สมัครที่สนใจการแก้ปัญหานี้ไปก่อนหน้านี้ เช่น
- กากชาราคาแพง จะทำอย่างไรให้กากชาถูกลง เช่น หากให้รัฐไปซื้อมาแล้วนำมาขายโดยไม่เอากำไร
- ราคารับซื้อปลาหมอคางดำ ถ้ารับซื้อ 15 บาท ควรขาย 7 – 8 บาท เพราะซื้อไปทำอะไร ไม่มีการตรวจสอบ และถ้า นายกอบจ.ประสานกับโรงน้ำปลาในราคา 7 – 8 บาท สามารถที่จะเอาไปทำน้ำปลา หรือเข้าโรงงานปลาป่น ส่วน SME ที่จะทำน้ำปลา หรือคนที่จะซื้อไปทำเหยื่อปูทะเล เลี้ยงปลากระพงก็สามารถมาซื้อได้
- ชาวบ้านเสนอว่าถ้าเลี้ยงปลากระพง ก็กลัวว่าปลากระพงจะราคาตก จึงอยากให้ช่วยเหลือเป็นระบบโมเดลทางธุรกิจ ไม่ใช่แค่จับไป ปล่อยไป
- ต้องยกเลิกเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมายภายในจังหวัด
“ที่ผ่านมาท้องถิ่นไม่ได้ทำอะไรเลย ขนาดไปเสนอรัฐบาลใหญ่ยังไม่สนใจ แล้วรัฐบาลเล็กจะสนใจไหม ถ้ามีพรรคไหนที่สนใจ นำมาเป็นนโยบายพรรค เป็นนโยบายจังหวัด แล้วได้มาบริหารก็มองว่าน่ามีความหวังอยู่บ้าง ถ้าได้คนที่เคยพูดไว้ ว่าจะมาช่วยแก้ ก็คงมีทางพอไปได้ แต่ถ้าได้คนที่ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ก็อาจจะหมดหวัง”
ปัญญา โตกทอง
ปัญญา ย้ำว่าสถานการณ์ของปลาหมอคางดำตอนนี้ยังคงหนักอยู่เหมือนเดิม ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ปัญหาที่ยังไม่หายไปไหน แต่เป็นกระแสมากขึ้นเท่านั้นเอง แม้จะมีหน่วยงานมาจับแล้วบอกว่าลดลง แต่ในความเป็นจริงไม่ได้ลดลงเลย ข้อมูลกับข้อเท็จจริงแต่ต่างกัน ชาวบ้านอยู่ในพื้นที่มีข้อเท็จจริง แต่หน่วยงานรัฐใช้ข้อมูล
จึงอยากให้ นายก อบจ.ใหม่พร้อมเข้ามาแก้เรื่องนี้ แต่จริง ๆ ต้องแก้ในระดับนโยบายของรัฐบาลด้วย และต้องทำด้วยกันทุกจังหวัด แม้งบประมาณของจังหวัดจะสามารถทำได้เลย แต่ด้วยที่จังหวัดสมุทรสงครามเป็นจังหวัดเล็ก และได้งบประมาณน้อยจึงเป็นข้อกังวลว่าจะทำให้การแก้ปัญหานี้ล่าช้า และไม่สามารถนำงบมาแก้ปัญหานี้ปัญหาเดียวได้
ขณะที่ ยุทธนา แซ่ลี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง จ.สมุทรสงคราม บอกว่า ความคาดหวังหลังเลือกตั้ง อบจ. คือ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกันกำจัด และทำวิจัยออกมาว่าทำอย่างไรปลาหมอคางดำจะลดน้อยลงไป ถ้าแก้ไขเพียงแค่เฉพาะหน้าปัญหาคงไม่จบ เพราะถ้ามันมีจำนวนเยอะขึ้นก็ทำให้ทรัพยากรในจังหวัดแย่ลง เนื่องจากสมุทรสงครามเป็นแหล่งผลิตอาหาร กุ้ง หอย ปู ปลา จึงเกรงว่าสิ่งเหล่านี้จะลดน้อยลงไป
“ปลาหมอคางดำกระทบต่อท้องถิ่นอยู่แล้ว เพราะเราหากินอยู่กับแหล่งน้ำ คนที่นี่ส่วนมากจะอยู่กับกุ้ง กับปลา ตลอด ถ้าเราไม่ทรัพยากรเหล่าก็คงไม่มีอาชีพ”
ยุทธนา แซ่ลี้
สำหรับผลการเลือกตั้ง นายกฯ อบจ. และ ส.อบจ. สมุทรสงคราม ปรากฎว่า เจษฎา ญาณประภาศิริ อดีตประธานสภา อบจ.สมุทรสงคราม ล้มแชมป์เก่า และก้าวเป็นว่าที่ นายก อบจ.คนใหม่ เกษตรกร และกลุ่มคนรักษ์แม่กลอง จึงจับตาอย่างใกล้ชิดว่าวิสัยทัศน์ และนโยบายในการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำของผู้บริหารท้องถิ่นชุดใหม่นี้จะเป็นไปในทิศทางไหน
