เดินหน้าสร้างรูปธรรม ความมั่นคงที่ดิน ที่อยู่อาศัย ยกระดับคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจยั่งยืน เตรียมชงแผน ข้อเสนอเชิงนโยบายจากชุมชน ถึงมือรัฐบาล 1 ธ.ค. นี้
วันนี้ (28 พ.ย. 67) ที่เทศบาลตำบลแม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบลแม่ยาว 11 ชุมชน ร่วมกับท้องถิ่น จัดทำแผนภาพรวมฟื้นฟูการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ประสบภัยพิบัติ และกำหนดข้อเสนอเชิงนโยบาย สู่เป้าหมายต้นแบบจัดการภัยพิบัติ สร้างความมั่นคงที่ดิน ที่อยู่อาศัย การพัฒนาความมั่นคงด้านสังคมคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจยั่งยืน โดยมีตัวแทนประชาชนผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วม – ดินโคลนถล่ม ใน ต.แม่ยาว เข้าร่วมนำเสนอปัญหาและข้อเสนอเชิงนโยบายในด้านต่างๆ
ระยะเร่งด่วน บูรณาการฟื้นฟูสร้างความมั่นคงที่อยู่อาศัย
สำหรับตำบลแม่ยาว เกิดเหตุน้ำจากน้ำแม่กก และห้วยแม่ซ้าย ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ลำน้ำ เกิดความเสียหายโดยรวม 2,000 ครัวเรือน 11 หมู่บ้าน
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. สำนักงานภาคเหนือ เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ สภาองค์กรชุมชนเทศบาลตำบลแม่ยาว ได้จัดกระบวนการสำรวจข้อมูลครัวเรือนผู้ที่ไดรับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม ทั้งตำบลพบว่า มีผู้ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 665 ครัวเรือน 11 หมู่บ้าน ในเบื้องต้นครัวเรือนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือ แต่ยังไม่เพียงพอและยังขาดความช่วยเหลือ อีกจำนวนหนึ่ง
สภาองค์กรชุมชนตำบลแม่ยาว จึงร่วมกับเทศบาลตำบลแม่ยาว คัดกรองกลุ่มเป้าหมาย และรับรองร่วมกันกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องรับการช่วยเหลือ จำนวน 238 ครัวเรือน ได้เสนอแผนงานโครงการ “บ้านมั่นคงภัยพิบัติ” ต่อคณะอนุกรรมการบ้านมั่นคงเมืองและชนบท เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 โดยทางคณะอนุกรรมการบ้านมั่นคงเมืองและชนบทได้เห็นชอบกรอบงบประมาณ ตามแผนงาน การนำเสนอของพื้นที่ตำบล งบประมาณรวม 11,493,049 บาท แบ่งเป็น
- งบอุดหนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย 8,000,000 บาท
- งบพัฒนาระบบสาธารณูปโภค 1,789,719 บาท
- งบพัฒนาด้านเศรษฐกิจ 384,870 บาท
- งบพัฒนาด้านสังคม 818,460 บาท
- งบพัฒนากระบวนการ 500,000 บาท
สยาม นนท์คำจันทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ( องค์การมหาชน ) เปิดเผยว่า เรื่องเร่งด่วน คือการฟื้นฟูบ้านเรือนที่เสียหายจากภัยพิบัติ แต่ในการดำเนินโครงการนี้ เฉพาะ พอช.ไม่สามารถสนับสนุนการซ่อม สร้างบ้านทั้งหลังให้เสร็จเพียงลำพังได้
“เรามีงบประมาณสนับสนุน เป็นงบประมาณเบื้องต้นประมาณ 40,000 บาท ต่อครัวเรือน แต่ชาวบ้านจะใช้เงินส่วนนี้ ไปชวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พัฒนาสัวคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือ พมจ. สำนักงานเทศบาลตำบลแม่ยาว หน่วยงาน ปภ.มาร่วมกันสนับสนุน และในส่วนเจ้าของบ้านเองจะมีความสามารถสมทบอีกเท่าไหร่ จากนั้นจะออกแบบบ้านหนึ่งหลัง ส่วนตัวจะสมทบเท่าไหร่ ทีมช่างชุมชนกำลังลงพื้นที่เพื่อไปถอดแบบรายละเอียด เบื้องต้นมีเงินที่โครงการบ้านมั่นคงภัยพิบัติช่วยสนับสนุนอยู่แล้ว”
สยาม นนท์คำจันทร์
ที่สำคัญคือต้องควบคู่ กับ สิทธิที่ดิน เนื่องจากหมู่บ้านในตำบลแม่ยาว อย่างกะเหรี่ยงรวมมิตร อยู่ในที่ดินป่าสงวน และพื้นที่เตรียมการอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก
“ดังนั้นนอกจากเรื่องเร่งด่วน การฟื้นฟูที่อยู่อาศัย จึงต้องควบคู่กับความมั่นคงเรื่องที่ดิน รวมไปถึงการพัฒนาความมั่นคงด้านสังคมคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจยั่งยืนด้วย”
“จัดทำแผนภาพรวมฟื้นฟูการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ประสบภัยพิบัติ และกำหนดข้อเสนอเชิงนโยบาย สู่เป้าหมาย แม่ยาวโมเดล ต้นแบบจัดการภัยพิบัติ”
สยาม นนท์คำจันทร์
ทั้งนี้ตัวแทนชาวบ้านผู้ประสบภัยพิบัติ ใน 11 ชุมชน ต.แม่ยาว ร่วมกันระดมข้อเสนอเชิงนโยบายตำบลแม่ยาว ใน 4 ด้าน มีข้อสรุปดังนี้
ด้านที่ดิน
- เร่งรัด การอนุมัติ/อนุญาตที่ดินคทช. ในระดับจังหวัด ซึ่งได้มีการนำส่งข้อมูลไปยังคณะอนุฯ1 ด้านที่ดินแล้ว (ลุ่มน้ำ 3 ,4,5 ) เพื่อให้สามารถดำเนินการตามแผนพัฒนาสาธารณูปโภคได้
- การขอขึ้นทะเบียนป่าชุมชนให้ครอบคลุมทั้งตำบล
- ขอให้ชุมชนสามารถเข้าใช้ประโยชน์ที่ดิน ภายหลังจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หมดสัญญา
- การจัดหาที่ดินรองรับให้กับกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้มีรายได้น้อย
- ผลักดันการสร้างความมั่นคงและความชัดเจนในที่ดิน ในการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดิน เข้าถึงระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
- ยกเลิกการประกาศพื้นที่ตำบลให้เป็นเขตอุทยานฯ
- ให้ยกเว้นค่าดำเนินการในการปรับปรุง ฟื้นฟู พื้นที่ในการรองรับที่อยู่อาศัยผู้ประสบภัย
การจัดการภัยพิบัติ
- จัดทำแผนป้องกันภัยพิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ปลดล็อกข้อจำกัดด้านกฎหมายของหน่วยงานเจ้าของที่ดิน ในการสนับสนุน ช่วยเหลือ พื้นที่ประสบภัย
- การปรับภูมิทัศน์ เช่น การขุดลอกคลอง ภายใต้กฎหมายที่
- สนับสนุนให้มีระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติที่มีมาตรฐาน ทั่วถึง ทันท่วงที และมีช่องทางที่หลากหลาย
- มีแผนเตรียมการรับมือ วิธีการรับมือ การซักซ้อม
- ให้อำนาจหน้าที่หน่วยงานท้องถิ่นสามารถดำเนินการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติและสามารถบริหารจัดการเองในชุมชนได้
- ขอให้ปลดล็อคหรือผ่อนปรนข้อกฎหมายในการซ่อมแซมปรับปรุงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติให้เหมาะสมกับบริบทพื้นที่
ด้านวัฒนธรรม สังคม สิ่งแวดล้อม
- การอนุญาติให้ดำเนินการปลูกป่าเพื่อสร้างแนวกันชนภัยพิบัติธรรมชาติ (Buffer Zone)
- การจัดการปัญหาหมอกควัน ไฟป่า
- การจัดการขยะที่เป็นระบบ แบบครบวงจร (คัด แยก ขาย รีไซเคิล)
- งบประมาณสนับสนุนในการฟื้นฟูวัฒนธรรมชุมชนพื้นถิ่น ที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์
ด้านเศรษฐกิจ
- สนับสนุนตลาดรองรับสินค้าและบริการของชุมชน
- มีการกำหนดการประกันราคาสินค้าเกษตร
- ผลักดันให้มีผังด้านการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรมวิถีชีวิตและเชิงอนุรักษ์
- บรรจุจุดท่องเที่ยวชุมชนตำบลแม่ยาวเข้าสู่แผนการพัฒนาท่องเที่ยวจังหวัด และภาคเอกชน
ตัวแทนชาวบ้านที่มาร่วมระดมความเห็นครั้งนี้ ต่างมองเห็นถึงโอกาสของการที่เปิดให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบเป้าหมายและอนาคตของชุมชนในการจัดการและรับมือภัยพิบัติที่มีความยั่งยืนครอบคลุมทุกด้าน และต่างคาดหวังว่า ข้อเสนอจากชุมชน ผู้ประสบภัยพิบัติ จะได้รับการตอบรับ ได้รับการหนุนเสริมจากรัฐบาล
“ชุมชนเราถือเป็นชุมชนท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย และประเทศ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเราอยากเห็นการฟื้นฟูให้ดีขึ้นกว่าเดิม เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในชุมชน การพัฒนาคุณภาพชีวิต และแผนการรับมือ การแจ้งเตือนภัยพิบัติที่ทันท่งทีเพื่อลดความเสียหาย”
ศรีรดา สีคำยอด
“ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น กระทบที่อยู่อาศัย และการท่องเที่ยวชุมชน อย่างโฮมสเตย์ที่สร้างกันมาทั้งชีวิตเสียหายไปกับภัยพิบัติทั้งหมด อยากให้เร่งฟื้นฟูเยียวยาตรงนี้ ที่สำคัญเรื่องชุมชนอยู่ในเขตป่า จะพัฒนาสาธารณูปโภค เข้าถึงแหล่งทุนต่างๆลำบากเป็นเรื่องที่นโยบายต้องปลดล๊อค ส่วนการเกษตรอยากให้เกิดการสนับสนุการปลูกไม้ยืนต้นสร้างมูลค่า ที่สร้างเศรษฐกิจและป้องกันภัยพิบัติ หวังว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนในข้อเสนอนโยบายของประชาชน”
จ่าสิบเอก พิชัย พนาสง่าวงศ์
ทั้งนี้ ตำบลแม่ยาว เป็นหนึ่งใน 4 พื้นที่ต้นแบบการจัดการภัยพิบัติ ตามที่ชาวจังหวัดเชียงราย กว่า 150 คน 50 องค์กร ได้มีการระดมข้อเสนอนโยบาย “จัดการภัยพิบัติอย่างยั่งยืนของจังหวัดเชียงราย Build Back Greener Chiang Rai”
โดยแผนงานและข้อเสนอที่ชาวตำบลแม่ยาว ได้ระดมกันอย่างเข้มข้น ตั้งแต่วันที่ 26 – 28 พ.ย. เตรียมเสนอต่อ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กระทรวงกลาโหม ในฐานะรองประธานคณะทำงานศึกษาวางแผนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและดินโคลนถล่มภาคเหนือ ในวันที่ 1 ธ.ค. นี้