จาก ‘หลักสูตรจัดการภัยพิบัติ’ สู่ สนามจริง ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ‘ชุมชนท่าเรือ’ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

อาสาสมัครจัดการภัยพิบัติชุมชนท่าเรือ อ.รือเสาะ ยอมรับ นำองค์ความรู้ รับมือ เผชิญเหตุน้ำท่วม ที่ได้ฝึกอบรม มาปรับใช้จริง ยกกลไก แผนที่เดินดิน สร้างฐานข้อมูลกลุ่มเปราะบาง ช่วยอพยพง่ายขึ้น ลดความสูญเสีย

สถานการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วม ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ทั้ง 13 อำเภอ ถูกประกาศเป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วมฉุกเฉินทั้งจังหวัด แม้เวลานี้ในบางอำเภอ ฝนจะเริ่มเบาบางลง และน้ำที่เคยท่วมหนักเหมือน 2 วันก่อน ค่อยคลี่คลาย แต่ชาวบ้านก็ยังไม่ประมาท เพราะยังไม่มั่นใจในสภาพอากาศ ในขณะที่ทางต้นน้ำยังมีมวลน้ำอีกมหาศาลที่พร้อมไหลเข้ามาสมทบ

The Active ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วม กับ ชุติมา รัตนกิจสมบูรณ์ ประธานชุมชนท่าเรือ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ตำบลรือเสาะ บอกว่า ตอนนี้น้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังต้องเฝ้าระวังกันอย่างใกล้ชิด เพราะได้รับการแจ้งเตือนมาตลอดว่า แม่น้ำสายบุรี ซึ่งไหลผ่านในพื้นที่ ยังคงมีมวลน้ำจาก อ.สุคิริน ไหลเข้ามาเติมอย่างต่อเนื่อง

ชุติมา รัตนกิจสมบูรณ์ ประธานชุมชนท่าเรือ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

“น้ำล้นตลิ่งท่วมในพื้นที่มาตั้งแต่วันที่ 27 – 28 พ.ย.ที่ผ่านมา มาจนถึงวันนี้น้ำลดลงแล้ว แต่ยังคงมีมวลน้ำจากสุคิริน ไหลเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ”

ชุติมา รัตนกิจสมบูรณ์

ส่วนผลกระทบและการรับมือภัยพิบัติของชุมชนนั้น ชุติมา เล่าว่า ผู้คนในชุมชนต่างมีบทเรียนจากน้ำท่วมใหญ่ในปี 2566 เวลานั้นทุกคนทำอะไรไม่ถูก น้ำมาเร็ว และน้ำท่วมสูงมาก ที่สำคัญคือในชุมชนไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ในพื้นที่ไม่มีเรือ จึงต้องขอสนับสนุนจากทางเทศบาลตำบลรือเสาะ ซึ่งตอนนั้นก็ต้องใช้เวลานาน เพราะเทศบาลเองก็ขอสนับสนุนเรือมาจาก ปภ. อีกทีนึง ทำให้กว่าจะขนย้ายคนออกมาจากพื้นที่เสี่ยงได้ ต้องเป็นไปอย่างทุลักทุเลมาก ชุมชนเองก็ไม่ได้วางระบบอะไรไว้เลย ทุกคนก็เจอปัญหาน้ำท่วมทั้งหมด

“จริง ๆ ในพื้นที่น้ำท่วมประจำ แต่น้ำก็แค่เอว แค่อก ชั้น 2 ของบ้านยังอยู่อาศัยได้ ต่างจากปีที่แล้ว น้ำมาก บ้าน 2 ชั้นเกือบจมมิดหลัง กว่าจะอพยพคนได้ ใช้เวลานานมาก”

ชุติมา รัตนกิจสมบูรณ์

แต่จากบทเรียนที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมหนักเมื่อ ปี 2566 ทำให้อาสาสมัครในชุมชน เข้าร่วมฝึกอบรม “โครงการอาสาสมัครการจัดการภัยพิบัติ” โดยมี โกเมศร์ ทองบุญชู หรือ ผู้ใหญ่โกเมศร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายการจัดการภัยพิบัติพื้นที่ภาคใต้ เป็นพี่เลี้ยง ซึ่ง ชุติมา ยอมรับว่า องค์ความรู้จากการฝึกอบรม มีส่วนสำคัญทำให้การรับมือน้ำท่วมรอบนี้ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแนวทางการจัดทำ แผนที่ชุมชน แผนที่เดินดิน ซึ่งทำให้สามารถมีข้อมูลเลยว่า บ้านแต่ละหลังในชุมชน บ้านไหนมีเด็ก มีผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ก็จะทำสัญลักษณ์ไว้หน้าบ้านให้เห็นชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการอพยพ เคลื่อนย้าย

นอกจากนั้นยังสามารถสร้างกลไก ศูนย์จัดการภัยพิบัติในชุมชน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลผู้ประสบภัยในทุก ๆ มิติ เช่น การเตรียมความพร้อมศูนย์พักพิง หากมีผู้ป่วย ก็มีกระบวนการส่งต่อ ขณะที่อาหารการกิน ก็ได้สนับสนุนจากเทศบาล บริหารอาหารให้ชาวบ้านครบ 3 มื้อ

“พอได้ไปอบรม เรียนรู้ ก่อนหน้าที่จะเกิดหน้ามรสุม ได้นัดประชุมประชาคมผู้คนในชุมชน เพื่อแจ้งแนวทางการรับมือเหตุน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้น และเมื่อได้รับการแจ้งเตือน ก็สามารถอพยพคนไว้ก่อนล่วงหน้า ขนข้าวของสำคัญไปไว้ในที่ปลอดภัย และจากข้อตกลงกับชาวบ้านก็ระบุไปเลยว่า จะให้การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในแต่ละบ้านเป็นอันดับแรก สำหรับคนที่ไม่อยากอพยพ ก็มีข้อตกลงให้อยู่เฝ้าบ้านได้แค่คนเดียว ส่วนคนอื่น ๆ ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย”

ชุติมา รัตนกิจสมบูรณ์

อาสาสมัครชุมชนท่าเรือ อ.รือเสาะ ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน จากเหตุน้ำท่วม

ชุติมา ยังบอกอีกว่า ผู้ใหญ่โกเมศร์ ได้สนับสนุนเรือ และเครื่องมาให้ 1 ลำ เอาไวแตรียมพร้อมช่วยเหลือชาวบ้าน ทำให้ปีนี้ชุมชนมีเรือไว้ใช้งาน โดยไม่ต้องรอเรือจากทางเทศบาลเหมือนปีก่อน ทำให้การช่วยเหลือ อพยพผู้คนทำด้ง่ายมากขึ้น นอกจากนั้นยังได้รับการสนับสนุนเสื้อชูชีพจากมูลนิธิเพื่อพึ่งภาฯ ด้วย

“น้ำท่วมปีนี้ยังน้อยกว่าปีที่แล้ว ซึ่งน้ำท่วมสูงต่ำสุด 4 เมตร สูงสุด 6 เมตร เรียกได้ว่าเกือบมิดบ้านทั้งหลัง ส่วนปีนี้น้ำขึ้นสูงสุดแค่เมตรครึ่ง แต่ถึงยังไงเมื่อเรามีอุปกรณ์ มีเครื่องมือพร้อม สมาชิกอาสาในชุมชนทุกคนก็ใจฟู ไม่กลัว และพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างมั่นใจ เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านตามที่ได้รับการฝึกอบรมมา”

ชุติมา รัตนกิจสมบูรณ์

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active