ชี้รัฐสื่อสารขาดความร่วมมือ ปมสั่งผู้ประสบภัย ‘ย้ายรถน้ำท่วม’

ภาคประชาชน หวั่นคำสั่งทำวุ่นวาย โกลาหล หากรัฐเตรียมการไม่ดี แนะเชื่อมเครือข่าย แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ดึงภาคประชาสังคม เอกชน บูรณาการร่วมภาครัฐ สร้างทางเลือกที่ดีกว่า ช่วยคนไร้ทุนทรัพย์เคลื่อนย้ายรถ จัดระเบียบอู่ซ่อม จัดหาพื้นที่โล่งกว้างเป็นจุดจอดรองรับ

ตามที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ประกาศด่วน! ขอความร่วมมือจากเจ้าของยานพาหนะทุกคันที่จอดกีดขวางทางจราจรในขณะนี้ กรุณาช่วยเคลื่อนย้ายรถไปยังจุดอื่นที่สามารถจอดรถได้ เนื่องจากรถยนต์ได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการปฏิบัติภารกิจของ ทีมกู้ภัย ทำให้ไม่สามารถเข้าพื้นที่และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้

ไม่ต่างจาก เพจตำรวจสงขลา ที่ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถที่จอดรถบนสะพานในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เคลื่อนย้ายรถโดยด่วน
เนื่องจากกีดขวางเส้นทางจราจร และการกู้ภัยขนส่งทางการเเพทย์ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ (27 พ.ย. 68) ทั้งนี้ หากไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทางตำรวจจะเคลื่อนย้ายรถทันที หากได้รับความเสียหายจะขอไม่รับผิดชอบใด ๆ นั้น

สมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้อำนวยการมูลนิธิกระจกเงา แสดงความกังวลต่อกรณีดังกล่าว โดยคาดว่ามีรถยนต์อยู่ 1-2 หมื่นคัน ที่ถูกน้ำท่วม คำถามคือ เวลาจะย้ายรถออกจากถนนจะย้ายอย่างไร ใครเป็นคนย้าย รถสไลด์ รถลากทั่วไปนำมาใช้ได้หรือไม่ รวมถึงรถจำนวนมากที่ป้ายทะเบียนหลุด จะทราบได้อย่างไรว่าใครเป็นเจ้าของรถ พร้อมย้ำว่า จะเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกแน่ หากภาครัฐไม่มีการเตรียมรับมือ

สมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้อำนวยการมูลนิธิกระจกเงา

“รถที่จมน้ำท่วม 1-2 หมื่นคัน รัฐต้องเตรียมพื้นที่ให้นำไปรวมกันระหว่างรอการติดตามเจ้าของ รวมถึงฐานข้อมูลที่มีภาพถ่ายรถทุกคันให้ถ่ายรูปให้เห็น เหล่านี้จะทำให้ความโกลาหล ลดลงได้”

สมบัติ บุญงามอนงค์

ขณะที่ จิรภัทธ์ เฟื่องฟูพิทักษ์ หัวหน้าทีมกู้รถ War Room ภาคประชาชน มูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า ค่อนข้างเข้าใจทั้งสองฝ่ายสำหรับการแจ้งเตือนประชาชนให้เคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากเส้นทาง ฝั่งหน่วยงานรัฐ อาจจำเป็นที่จะขนย้ายรถ เพื่อให้ทีมกู้ภัย หรือทีมที่จะลำเลียงเสบียงอาหารเข้าไปในพื้นที่ได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่คิดว่า ความสามารถขององค์กรอาจจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยตนเอง

ดังนั้นจึงต้องการความร่วมมือจากฝั่งภาคประชาชนในพื้นที่ ซึ่งอาจจะขัดกับความเป็นไปได้ในเชิงความเป็นจริง เพราะว่าตอนนี้ทุกคนจำเป็นต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยเฉพาะคนที่เป็นเจ้าของรถ

จิรภัทธ์ เฟื่องฟูพิทักษ์ หัวหน้าทีมกู้รถ War Room ภาคประชาชน

“หากพูดถึงตัวประเด็นการสื่อสารต้องบอกตามตรงว่า ฝั่งภาครัฐหลายส่วนไม่ใช่เพียงหน่วยงานใดหน่วยงานเดียวก็มีการสื่อสารที่อาจจะดูใจดำไปนิดนึงสำหรับคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ในพื้นที่ ผมคิดว่าการสื่อสารก็เป็นส่วนหนึ่ง การสื่อสารเหมือนกับว่าก่อให้เกิดความร่วมมือกัน แต่ตอนนี้ยังคงขาดจากภาครัฐ ดังนั้นการให้ภาคประชาสังคม เอกชน ไปบูรณาการกับภาครัฐ อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการสื่อสารที่ดีกว่านี้ได้”

จิรภัทธ์ เฟื่องฟูพิทักษ์

อีกทั้งยังมองว่า จำเป็นต้องมีทีมของภาคประชาชน บางส่วนที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือโดยเฉพาะฝั่งของอาสามูลนิธิกระจกเงา เป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้าไปร่วมในการรวบรวมเครือข่าย รถยก รถสไลด์ ด้วยปัญหาที่ว่าไม่มีคนเข้าไปเคลื่อนย้าย

“เราจึงจะรวบรวมเครือข่ายนี้ขึ้นมา และเข้าไปในพื้นที่เพื่อที่จะช่วยเหลือ แต่ทั้งนี้ ทีมกู้รถเอง ก็คาดหวังเรื่องของการประสานงานต่าง ๆ เนื่องจากว่าอาจไม่สามารถเคลื่อนย้ายทันที ฉะนั้นจึงต้องการความร่วมมือทั้งฝั่งกรมการขนส่งทางบก ฝั่งของทีมอาสาสมัครในพื้นที่ ทีมกู้ภัยในพื้นที่ ทีมตำรวจในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพวกเรา 

เบื้องต้น จิรภัทธ์ ย้ำถึงแนวทางการทำงานของทีมกู้รถ ว่าตอนนี้มองเป็น 2 เฟสหลัก คือ

  • เฟสแรก การเคลื่อนย้ายรถเพื่อที่จะลดการกีดขวาง เพื่อให้เส้นเลือดในการลำเลียงสิ่งของหรืออาหารต่าง ๆ เข้าถึงพื้นที่ได้ง่ายขึ้น และส่วนที่สองก็คือรถของคนในพื้นที่ ไม่ว่าจะมีประกัน หรือไม่มีประกัน บางส่วนต้องการความช่วยเหลือ บางส่วนอาจจะขาดทุนทรัพย์และอาจจะไม่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายลดตัวเองไปในจุดที่ปลอดภัยหรือว่าเข้าศูนย์ เข้าอู่ต่าง ๆ เราจะเข้าไปสนับสนุนส่วนนี้

  • เฟส 2 เชื่อว่า ในอนาคตอาจจะต้องมีการช่วยเหลือฟื้นฟู จัดระเบียบว่ามีอู่ซ่อมรถที่ไหนที่เปิดว่าง และมีความสามารถมากพอในการรับรถ อีกส่วนหนึ่งก็คือพื้นที่รับรองเนื่องจากตอนนี้รถยนต์จำนวนหนึ่งจอดอยู่ข้างถนน และบนสะพานบางส่วนทำให้กีดขวางไม่สามารถทำงานได้รถเหล่านี้จะเคลื่อนย้ายไปที่ไหน ตอนนี้ต้องการที่จะหาพื้นที่รับรองไม่ว่าจะเป็นพื้นที่โล่งกว้างของเทศบาลของอำเภอหรืออาจเป็นโรงเรียนหรือพื้นที่ของเอกชน

ทั้งนี้ จิรภัทธ์ ยังระบุถึงความท้าทาย ว่าประเทศไทยมีทรัพยากรเยอะ มีคนอยากช่วยเยอะ แต่ทรัพยากรเหล่านั้นกระจัดกระจายแล้วจะจัดระเบียบอย่างไรให้สามารถบูรณาการกันได้ นี่เป็นเรื่องสำคัญที่มูลนิธิกระจกเงากำลังทำให้เกิดขึ้น

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active