แม้จะยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูหลังน้ำลด แต่โรงเรียนหลายแห่งในหาดใหญ่เตรียมเปิดเรียนจันทร์ที่ 8 ธ.ค.นี้ เพื่อลดความเครียดและภาระผู้ปกครอง โดยเฉพาะเรื่องอาหารกลางวัน ขณะนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่อีกครั้ง สั่งตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังปรับระดับความรุนแรงลง
วันนี้ (6 ธ.ค.2568) โรงเรียนหลายแห่งในอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้เตรียมความพร้อมทั้งทำความสะอาด และติดตั้งระบบไฟฟ้า และน้ำประปาภายในโรงเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด ในการกลับมาเปิดเรียนในวันจันทร์ที่ 8 ธ.ค.นี้ แม้โรงเรียนจะมีโต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงอุปกรณ์การเรียนการสอนเหลืออยู่ประมาณร้อยละ 30 และยังมีร่องรอยความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม

Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคใต้ ลงพื้นที่พูดคุยกับ นงณภัทร ยอดแก้ว ครูโรงเรียนบ้านหน้าควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา บอกว่า ขณะนี้โรงเรียนบ้านหน้าควนลัง ได้เตรียนมพร้อมเพื่อเปิดเรียนในวันจันทร์นี้ และให้นักเรียนที่เดินทางมาเรียน ไม่จำเป็นต้องสวมใส่ชุดนักเรียน เพราะบ้านนักเรียนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน รวมทั้งเครื่องนอนหายไปกับน้ำท่วม นอกจากนั้นการเปิดเรียนยังจะเป็นการช่วยลดภาระให้กับผู้ปกครองได้บางส่วน ในเรื่องของอาหารกลางวัน ที่โรงเรียนน่าจะมีความพร้อมมากกว่าที่บ้าน
แต่การเปิดเรียนในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ จะเป็นการเปิดการเรียนการสอนระดับประถม ซึ่งคาดว่า จะมีนักเรียนมาเรียนไม่มานัก ส่วนระดับอนุบาลนั้น มีกำหนดเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 15 ธ.ค.นี้

วิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเร่งคืนห้องเรียนให้นักเรียนโดยเร็ว สพฐ. ได้วางมาตรการช่วยเหลือและฟื้นฟูไว้ 3 ระยะ ประกอบด้วย
– ระยะเร่งด่วน : เป็นการระดมความช่วยเหลือผ่าน “คาราวานธารน้ำใจ” จากทั่วประเทศ นำถุงยังชีพและของใช้จำเป็นมาแจกจ่ายเพื่อบรรเทาทุกข์เบื้องต้น
– ระยะฟื้นฟูสภาพกายภาพ : ให้สถานศึกษาเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อจัดสรรงบฯซ่อมแซมโดยด่วน รวมถึงวางแผนระยะยาวในการปรับปรุงอาคารเรียน เช่น การยกระดับพื้นให้สูงขึ้นในพื้นที่เสี่ยงเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
– ระยะเยียวยาผู้เรียน : ที่มุ่งเน้นการจัดหาอุปกรณ์การเรียนทดแทน โดยเฉพาะชุดนักเรียน รองเท้า และหนังสือเรียนที่สูญหายไปกับสายน้ำ เพื่อให้นักเรียนมีความพร้อมกลับมาเรียนได้ตามปกติ
โดยคณะรองเลขาธิการ กพฐ.ได้ลงพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2568 สำรวจความเสียหายและให้กำลังใจโรงเรียนที่ประสบภัยหนัก 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา, โรงเรียนอนุบาลยะลา, โรงเรียนบ้านนิบงพัฒนา

ขณะที่วันนี้ อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย และคณะลงพื้นที่อีกครั้ง ประชุมร่วมกับภาครัฐและเอกชนถึงแผนการฟื้นฟูหาดใหญ่ ณ ศูนย์ ปภ.เขต 12
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแก้ปัญหาสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาทำให้สถานการณ์พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ ตามที่ได้มีการประกาศให้พื้นที่อยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน และได้มีการยกระดับการจัดการสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา มีความจำเป็นที่จะต้องบูรณาการความร่วมมือทั้งหมด
ซึ่งขณะนี้เชื่อว่าสถานการณ์เริ่มที่จะคลี่คลาย และลดความรุนแรงลงอยู่ในสภาวะที่สามารถควบคุมได้ จึงได้ประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่จังหวัดสงขลา และได้มีคำสั่งลดระดับการปฏิบัติการสาธารณภัย จากระดับ 4 เหลือระดับ 3
ซึ่งขณะนี้เข้าสู่โหมดของการฟื้นฟู ซึ่งดำเนินการไปมากพอสมควรแล้ว ทั้งน้ำประปาและไฟฟ้าเข้าถึงทั้งหมดแล้ว แต่ก็มีเรื่องของการซ่อมแซมระบบต่างๆอยู่เล็กน้อย
นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำว่า เรื่องของการบริหารจัดการอาหารของประชาชน ถ้ายังต้องการความช่วยเหลืออยู่ ขอให้ดูแลไปอีกสักระยะอย่าให้มีปัญหาเรื่องอาหารการกิน
ส่วนการจัดการขยะ ยอมรับว่า ยังเก็บไม่ทัน ต่อให้ระดมทรัพยากรมาก เพราะเป็นขยะที่ประชาชนเข้าไปทำความสะอาด แล้วนำมากองด้านหน้าเพิ่มเติมอีก ขอทีมงานอย่าท้อถอย ขอให้ใช้เวลาในช่วงหนึ่งสัปดาห์นี้ พยายามกำจัดขยะที่มีจำนวนมากโดยเฉพาะเร่งเก็บในช่วงกลางคืน
ขณะที่การบริการด้านสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้สร้างความมั่นใจ ว่าจะมีการดูแลเรื่องสุขอนามัย ประชาชนจะต้องไม่ขาดยา และบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนวางแผนเฝ้าระวัง เรื่องโรคระบาดที่มาจากน้ำ และโรคติดเชื้อ ที่อาจจะมาเนื่องจากมีการหมักหมมสะสมของขยะ ส่วนเรื่องของการดูแลเยียวยาค่าปลงศพผู้เสียชีวิตทางกระทรวงสาธารณสุข ได้มีแนวทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขอให้เร่งดำเนินการพิสูจน์ และเร่งเบิกจ่ายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต
ส่วนการจ่ายเงินเยียวยา ทำไปได้มากพอสมควรแล้ว พร้อมเน้นย้ำให้ดูเรื่องการสำรวจความเสียหายของบ้านเรือน ซึ่งจะมีค่าซ่อมแซมบ้านตามกฎหมายที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ ไม่ใช่การเหมาจ่ายรายหัว แต่เป็นการสำรวจความเสียหายของแต่ละบ้านเรือน ซึ่งได้รับทราบว่ากรมโยธาธิการและผังเมือง ได้นำผู้ที่ทำงานมาสำรวจความเสียหายบ้านเมือง ค่าซ่อมแซมบ้านเรือนเคหะสถานให้กับประชาชนโดยเร็ว
นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า จากนี้เป็นต้นไป จะมีการตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า โดยใช้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 จังหวัดสงขลา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะต้องเป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ลดจากระดับ 4 มาเป็นระดับ 3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้อำนวยการสถานการณ์ จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ศักดา วิเชียรศิลป์ ซึ่งกำกับดูแล ปภ.ทำหน้าที่ เป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ และขอให้รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ภาสกร บุญรักษ์ ได้ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับควบคุมพื้นที่หรือ area Commander ขอให้ทุกหน่วยงานได้คงความร่วมมือต่อไปและทำงานอย่างเต็มกำลังในการฟื้นฟูสถานการณ์
