สมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร พร้อมนำร่องขยายเวลาปิดผับตี 4

คาดรายได้เพิ่มอีก 30% เห็นด้วยจัดโซนนิง ไม่ควรขยายเวลาเปิดทุกพื้นที่ ห่วงตำรวจทำงานหนัก ขณะที่ “เท่าพิภพ” หนุนเปิด 24 ชม. ช่วยลดทุจริตจ่ายใต้โต๊ะให้อำนาจท้องถิ่นตัดสินใจ 

วันนี้ (18 ต.ค. 2566) สง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยกับ The Active ว่าเห็นด้วยกับนโยบายขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 พร้อมนำร่องเป็นโซนนิงขยายเวลาเปิด ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาแม้สถานบันเทิงกำหนดเวลาปิด ตามกฎหมายคือเที่ยงคืน แต่ส่วนใหญ่ก็มักเปิดเกินเวลากันอยู่แล้ว 

การขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง ควรทำในลักษณะโซนนิง ไม่ควรทำทุกพื้นที่ทั้งประเทศ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมเหตุอาชญากรรม ความรุนแรงจากการดื่มสุรา และควบคุมการเมาแล้วขับ หากขยายเวลาเปิด-ปิดกันทั้งประเทศอาจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแบกภาระงานหนัก ในการควบคุมเหตุต่าง ๆ 

สง่า บอกอีกว่าถนนข้าวสารเป็นหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ต่างชาติมีสัดส่วนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป 70% และเป็นกลุ่มนักท่องเอเชียโดยเฉพาะจีน 30% หลังจากเกิดการระบาดของโควิด-19 จนถึงปัจจุบันนักท่องเที่ยวยังไม่กลับเท่ากับก่อนเกิดโรคระบาด โดยอัตราการจองโรงแรมในไตรมาส 4 ของปีนี้ยังอยู่อยู่เพียง 10% ซึ่งควรจะอยู่ในระดับ 30% 

“การขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง จะช่วยเพิ่มเม็ดเงินได้ถึง 30% แต่ยังไม่ถึงกับมาชดเชยจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับมาได้ทั้งหมด” 

สง่า

หากรัฐขยายเวลาเปิด-ปิด สถานบันเทิง ผู้ประกอบการก็สัญญาว่าจะมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบทั้งคุมกลุ่มผู้ใช้บริการที่อายุต่ำกว่า 20 ปี การใช้สารเสพติด และป้องกันเสียงดังกระทบชุมชนโดยรอบโดยเชื่อว่าจะได้ประโยชน์มากกว่าเสีย โดยเฉพาะในมิติสุขภาพหากมีการป้องกันอย่างเข้มงวดจะไม่เกิดเหตุอันตรายอย่างที่หลายฝ่ายกังวล 

นอกจากนี้ สง่า ยังมีข้อเสนอให้รัฐกลับมาให้ใบอนุญาตสถานบันเทิงให้ถูกต้องตามกฎหมายอีกครั้ง หลังจากที่ระงับการให้ใบอนุญาตสถานบันเทิงมานานหลายปี เพื่อควบคุมจำนวนสถานบันเทิง จึงทำให้สถานบันเทิงหลายแห่งที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่มีใบอนุญาต ยกตัวอย่างเช่นเขตพระนครมีผับ บาร์ สถานบันเทิงที่ได้รับใบอนุญาตราว ๆ 10 กว่าแห่งแต่ความเป็นจริงมีสถานบันเทิงในเขตพระนครมากถึงกว่า 100 แห่งจึงทำให้ยากกับการควบคุมความปลอดภัย และการบังคับใช้กฎหมาย

เท่าพิภพ

ด้าน เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.  พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ควรจะเปิด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องกำหนดเวลา เพราะสุดท้ายการผ่อนปรนให้ง่ายจะช่วยลดการทุจริตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของใบอนุญาตต่าง ๆ

ในช่วงเริ่มแรกเห็นด้วยกับการจัดโซนนิงแต่ในระยะยาวควร ขยายเวลาเปิด-ปิดเหมือน ๆกันทั้งประเทศ โดยการขอใบอนุญาตหรือการจัดโซนนิง ควรเป็นอำนาจของท้องถิ่นเพราะในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน ควรจะเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเทศมนตรี หรือผู้ที่มีความเข้าใจในพื้นที่นั้น ๆ

เท่าพิภพ กล่าวอีกว่า หากการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงแล้วทำให้อุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้น จะไปโทษเจ้าของกิจการไม่ได้ เพราะไม่ได้ส่งเสริมกันหนาวแล้วขับ  แต่เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมของคนดื่ม หากบังคับใช้กฎหมายจริงจังจะทำให้ผู้ดื่มไม่กล้าเมาแล้วขับ แต่อาจจะกลับด้วยรถสาธารณะแทนซึ่งลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับได้

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active