ชื่นชมการรวมตัวของ Hack Thailand ‘แก้หนี้แก้จน’ ยอมรับ ปัญหาหนี้ซับซ้อนหากเนรมิตได้ จะลดอัตราดอกเบี้ยโดยรวม ยืดระยะเวลาชำระ พร้อมเปิดบ้านพิษณุโลก เป็น One Stop Service รับรู้ปัญหาหนี้
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 67 กิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย เปิดบ้านพิษณุโลก พบทีม Hack Thailand 2575 (ปฎิบัติการ 48 ชั่วโมง พลิกโฉมประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง) ‘ทีมแก้หนี้แก้จน’ ในฐานะที่กำลังทำงานแก้ปัญหาเรื่องหนี้ ทั้งในและนอกระบบให้นายกรัฐมนตรี
ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับทีม The Active ว่า ได้ทราบข้อมูลจากทีมที่ทำงานด้วยกัน ว่า มีการรวมกลุ่มของคนรุ่นใหม่ ๆ มารวมตัวกันในการแก้ปัญหาเรื่อง หนี้ พวกเขาอุตสาห์ใส่ใจคิดเรื่องนี้ ตั้งใจเอาส่วนที่เขารู้มาให้พรรคการเมืองในช่วงที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
“คิดว่าเขาเป็นคนที่มีใจพอสมควร การมีโอกาสฟังเขาให้ลึกมากว่าที่ได้ดูจากการนำเสนอในเวทีน่าจะมีประโยชน์มากขึ้นจึงขอโอกาสเจอ”
กิตติรัตน์ ณ ระนอง
ในโอกาสนี้พื้นที่บ้านพิษณุโลก บางอาคารถูกเลือกให้เป็นสถานที่ทำงานของทีมแก้ปัญหาเรื่องหนี้ซึ่ง กิตติรัตน์ ระบุว่า อาจยังไม่ใช่ One Stop Service ในแบบที่ทีมแก้หนี้แก้จนเสนอ แต่เป็นความตั้งใจที่อยากจะมีสถานที่รองรับให้คณะทำงาน ได้มีพื้นที่พบปะกันถี่มากขึ้น จะเป็น One Stop Service ในความหมายที่แก้ปัญหาให้ทุกเรื่องหรือไม่ ยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะปัญหาหนี้ซับซ้อนทั้งฝั่งเจ้าหนี้ ลูกหนี้ และหลากหลายประเภท
“เราไม่ได้บังอาจจะบอกว่าเราจะแก้ทั้งหมด ตรงนี้ก็คง Service ใครจำนวนมากไม่ได้ แต่เราก็ยินดีรับรู้รับทราบปัญหาเป็นรายกรณีไปเพื่อให้เป็นตัวอย่างนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่กว้างขวางขึ้น ที่นี่อาจเรียกว่า One Stop ของการรับรู้ปัญหาแล้วเอาประเด็นจากนี้นำไปชี้แนะต่อไป”
กิตติรัตน์ ณ ระนอง
ขณะที่การแก้ไขปัญหาในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ที่ผ่านมาพบว่า หลายเรื่องซับซ้อนแต่ก็จะพยายามทำทุกเรื่องทุกอย่างไม่เฉพาะบางกลุ่มบางคน ทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบ แต่หากเวลานี้สามารถเนรมิตได้ อยากจะทำอัตราดอกเบี้ยโดยรวม ซึ่งจะสามารถปรับลงจากที่เป็นอยู่บ้างได้ไหม เพื่อทุเลาปัญหาประชาชนได้บ้าง ถ้าดอกเบี้ยลดลงมา สินเชื่อทุกประเภทลูกหนี้ก็พอจ่ายไหว รวมถึงการยืดระยะเวลาการผ่อนชำระให้นานขึ้นเพื่อให้ลูกหนี้มีกำลังในการผ่อน
ทีมแก้หนี้แก้จน เสนอนโยบาย สถาบันบริหารจัดการการเงินภาคประชาชน โดยระบุว่า สถานการณ์ปัญหาหนี้ในเวลานี้ ลูกหนี้ขาดความรู้การเงินส่วนบุคคล ขาดคำแนะนำจากเจ้าหนี้ ขาดผู้ช่วยเหลือยามจำเป็น ขณะที่เจ้าหนี้ภาพลักษณ์ไม่ดีมากนักจากภาคประชาชน ส่วนสังคมโดยรวมขาดหน่วยงานที่มีความรับผิดชอบแท้จริง ขาดการร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ขาดผู้ที่สามารถช่วยเหลือได้แบบองค์รวม โดยหน่วยงานกำกับดูแลมีขอบเขตการทำงานที่จำกัด
สำหรับนโยบายนี้เน้นการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อแก้หนี้จนข้ามรุ่น จนดักดาน โดยนโยบายต้นน้ำแก้ด้วย การสร้างบิ๊กเครดิตเดต้า ข้อมูลบุคคล เจ้าหนี้ สถาบันการเงิน เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนปล่อยสินเชื่อ มีกฎหมายผลักดันส่งเสริมให้สินเชื่อที่รับผิดชอบให้เกิดขึ้นจริง แก้หนี้ดักดาน ทำให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ แต่ต้องเหลือเงินพอดำรงชีวิต
ในส่วนของหนี้เสีย ต้องมีกระบวนการจัดตั้งบูรณาการแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ มีสถาบันบริหารหนี้ระดับชุมชน แก้หนี้ออนไลน์ด้วยแอปฯ หมอเงิน เชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อสร้างแหล่งเงินทุนให้เข้าถึงได้ มีหมอหนี้ส่วนตัว เจรจาไกล่เกลี่ย ให้คำปรึกษา สร้างแผนฟื้นฟูหนี้
สำหรับ Hack Thailand 2575 (ปฎิบัติการ 48 ชั่วโมง พลิกโฉมประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง) เป็นการระดมความคิด จากการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย รวม 12 นโยบาย เป็นจุดเริ่มต้นของการทำนโยบายอนาคตที่มีกระบวนการร่วมคิดจากผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วนทั้ง รัฐ เอกชน วิชาการ ประชาชนรวมถึงคนรุ่นใหม่ มาระดมความคิดกันถึง 72 ชั่วโมง
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง