‘ธุรกิจร้านอาหาร’ ซบเซา ไฮซีซั่นแต่ลูกค้าหด พบแนวโน้ม ‘เลิกกิจการ’ พุ่งต่อเนื่อง

‘ผู้ประกอบ’ โอดเศรษฐกิจทรุด ทำลูกค้าลดลง กว่า 50% วอนนายกฯ – รัฐบาล เร่งกระตุ้นมาตรการด่วน หวั่นปี 68 ฟุบยาว

สรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เรียกร้องให้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็วเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้จะซึมและทรุดอย่างหนัก โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ติดอันดับธุรกิจที่ปิดตัวมากที่สุด 1 ใน 3 ของทั้งปี แต่รัฐบาลยังไม่มีมาตรการใด ๆ ออกมา จนใกล้จะสิ้นปี 2567 ทำให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า เศรษฐกิจซึม

ทั้งนี้ธุรกิจร้านอาหารที่ปิดตัวมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะปัจจัยต้นทุนอาหารต่าง ๆ สูงขึ้น ทั้งวัตถุดิบ น้ำมันพืช ของสด ค่าขนส่ง รวมถึงค่าไฟฟ้า รวมถึงหนึ้สิน และหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น โดยปลายปี 2567 ซึ่งควรจะเป็นช่วงเทศกาลที่จับจ่ายใช้สอย งานเลี้ยงสังสรรค์ แต่ร้านอาหารต่าง ๆ มีจำนวนลูกค้าลดลงกว่า 50% สาเหตุมาจากประชาชนมีการรัดเข็มขัดเพิ่มขึ้น จึงทำให้การรับประทานข้าวนอกบ้านลดน้อยลงไปรวมถึงการจัดเลี้ยงสังสรรค์ด้วยเช่นกัน

“ทางชมรมฯ เคยขอให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนเข้าปลายปี แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลยังไม่มีมาตรการใด ๆ อีกทั้งเกิดเหตุน้ำท่วมในภาคเหนือ และภาคใต้ มีผลทำให้ช่วงไฮซีซั่น (High Season) ในปลายปี 2567 เศรษฐกิจยังคงทรุดหนักลงเรื่อย ๆ”

สรเทพ โรจน์พจนารัช

สรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร

ดังนั้นทางชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร จึงขอความกรุณาให้นายกรัฐมาตรี เร่งออกมาตรการดังต่อไปนี้ ให้ทันภายในเดือนมกราคม 2568 ดังนี้

  1. มาตรการการลดหย่อนภาษี โดยให้บุคคลธรรมดาสามารถเก็บใบกำกับภาษีจากร้านอาหารนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 20,000 บาท และบริษัท นิติบุคคลสามารถเก็บใบกำกับภาษี ที่มีการจัดเลี้ยงตามร้านอาหาร นำไปใช้ลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้ไม่เกิน 100,000 บาท ในปีถัดไป

  2. อัดเม็ดเงินเข้าในระบบให้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่ง หรือเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในกลุ่มร้านอาหารตั้งแต่สตรีทฟู้ด (Street Food) ขึ้นมาถึงร้านระดับกลาง รวมถึงโรงแรมที่พักต่าง ๆ และร้านอาหารที่อยู่ต่างจังหวัด และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารประจำวันให้กับประชาชนทั่วไปได้อีกทางด้วย

  3. จากการที่เคยเรียกร้องให้ร้านอาหารสามารถขายแอลกอฮอล์ได้ในเวลา 14.00 – 17.00 น. ในสมัยอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ได้รับข้อเสนอไว้แล้ว ใคร่ขอความกรุณา นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เร่งปลดล็อกให้กับกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลยุคนี้ที่เร่งกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงการแก้กฎหมายที่ล้าหลังให้เข้ากับยุคสมัย

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกรัฐมนตรี และรัฐบาลจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่เรียกร้องไปให้ทันภายในเดือนมกราคม 2568 ไม่อย่างนั้นในปีหน้า ภาพรวมเศรษฐกิจจะคงเหมือนปี 2567 หรือทรุดหนักกว่าเดิม”

สรเทพ โรจน์พจนารัช

เผยข้อมูล ‘ร้านอาหาร’ แห่เลิกกิจการพุ่ง

จาก ข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ในปี 2567 ธุรกิจร้านอาหารไทย มีการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการมากสุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ เป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกัน เริ่มจาก

  • เดือนกรกฎราคม ธุรกิจร้านอาหารเลิกกิจการ 62 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 156.13 ล้านบาท

  • เดือนสิงหาคม ธุรกิจร้านอาหารเลิกกิจการ 77 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 156.42 ล้านบาท

  • เดือนกันยายน ธุรกิจร้านอาหารเลิกกิจการ 74 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 179.71 ล้านบาท

  • เดือนตุลาคม ธุรกิจร้านอาหารเลิกกิจการ 100 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 387.23 ล้านบาท

จากตัวเลขดังกล่าวจะเห็นได้ว่า จำนวนการเลิกกิจการของธุรกิจร้านอาหารในไทยมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active