UNDP ห่วงภาพรวมการพัฒนามนุษย์โลกชะลอตัว ความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศร่ำรวยและยากจนขยายตัว ขณะที่ไทย อันดับตกมาอยู่ที่ 76 จาก 193 ประเทศพบดัชนีการพัฒนามนุษย์ของผู้หญิงสูงกว่าผู้ชาย

อาคิม สไตเนอร์ (Achim Steiner) ผู้อำนวยการใหญ่ประจำ UNDP กล่าวว่า หลายทศวรรษที่ผ่านมา เราอยู่ในกรอบเวลาที่จะบรรลุเป้าหมายที่โลกมีการพัฒนามนุษย์สูงภายในปี พ.ศ. 2573 แต่การชะลอตัวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ส่งสัญญาณแห่งภัยคุกคามที่แท้จริงต่อความก้าวหน้าของการพัฒนามนุษย์ระดับโลก หากความก้าวหน้าที่ล่าช้าในปีพ.ศ. 2567 กลายเป็น ‘บรรทัดฐานใหม่’ ของประเทศต่าง ๆ เป้าหมายสำคัญที่เราอยากให้เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2573 จะล่าช้าไปอีก หลายทศวรรษ ซึ่งจะทำให้โลกของเรามีความปลอดภัยน้อยลง แตกแยกมากขึ้น และเสี่ยงต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจและระบบนิเวศมากขึ้น
ดัชนีการพัฒนามนุษย์ของ UNDP ได้เพิ่มชั้นข้อมูลในการการวิเคราะห์การพัฒนามนุษย์เพื่อทำความเข้าใจให้ดียิ่งขึ้นว่าอะไรเป็นตัว ‘ขับเคลื่อน’และ ‘ทำลาย’ ความก้าวหน้าของการพัฒนาในแต่ละประเทศ สำหรับดัชนีการพัฒนาของมนุษย์ที่ถูกวิเคราะห์เพิ่มเติมคู่กับข้อมูลด้านความเหลื่อมล้ำ (Inequality-adjusted HDI: IHDI) พบว่าดัชนีการพัฒนามนุษย์ของประเทศไทยลดลง ขณะที่ดัชนีการพัฒนามนุษย์ที่ถูกวิเคราะห์เพิ่มเติมคู่กับข้อมูลด้านความเท่าเทียมทางเพศประเทศไทยกลับมีผลการด าเนินงานที่ดี เช่นเดียวกับสิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่ความก้าวหน้าใน ด้านสุขภาพ การศึกษา และรายได้ของชายและหญิงอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน
ผู้อำนวยการใหญ่ประจำ UNDP กล่าวว่าอีกว่า ประเทศไทยและมองโกเลียยังเป็นเพียงสองประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ค่าดัชนีการพัฒนามนุษย์ของผู้หญิงสูงกว่าผู้ชายโดยค่าดัชนีการพัฒนามนุษย์ของผู้หญิงไทยอยู่ที่ 0.802 ซึ่งสูงกว่าค่าดัชนีการพัฒนามนุษย์ของของผู้ชายไทยเล็กน้อย ซึ่งอยู่ที่ 0.795
สำหรับการพัฒนามนุษย์ของไทยที่ถูกวิเคราะห์ในสมการว่าการพัฒนามนุษย์มีต้นทุนที่ส่งผลกระทบต่อโลกมากน้อยแค่ไหนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และรอยเท้าทางวัตถุ พบว่า คะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ของไทยลดลงเล็กน้อยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดัชนีการพัฒนามนุษย์ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Planetary pressures–adjusted HDI: PHDI) ที่อยู่ที่ 0.726 ซึ่งยังถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาที่เป็นบวกต่อธรรมชาติเมื่อการพัฒนามนุษย์ทั่วโลกชะลอตัว

การพัฒนามนุษย์ทั่วโลกเติบโตต่ำสุดในรอบ 35 ปี เผชิญกับภาวะชะลอตัว
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เปิดเผยรายงานฉบับใหม่ที่ชี้ให้เห็นว่าการพัฒนามนุษย์กำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัวทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยการเพิ่มขึ้นของการพัฒนามนุษย์ทั่วโลกที่คาดการณ์ไว้สำหรับปี พ.ศ. 2568 ถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการวัดผลในปี พ.ศ. 2533 เมื่อเผชิญกับการพัฒนามนุษย์ที่เติบโตต่ำที่สุดในรอบ 35 ปี รายงานการพัฒนามนุษย์ประจำปีพ.ศ. 2568 (HumanDevelopment Report 2025) ของ UNDP จึงสนับสนุนการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกด้วยแนวทางใหม่ ๆ รวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งผลการสำรวจเกี่ยวกับ AI ทั่วโลกครั้งใหม่ในรายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่าผู้คนยังคงมองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจาก AI ตามความเป็นจริง แต่ในขณะเดียวกันก็มองการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างมี
ความหวัง โดยร้อยละ 60 ของผู้คนทั่วโลกมอง AI ในแง่ดีว่าจะสร้างโอกาสในการทำงานให้กับมนุษย์ได้

รายงานการพัฒนามนุษย์ประจำปีพ.ศ. 2568 ของ UNDP ภายใต้หัวข้อ “ทางเลือกที่สำคัญ : ผู้คนและความเป็นไปได้ใน
ยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI)” ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอายุขัยเฉลี่ย จำนวนปีการศึกษา และรายได้ประชาชาติ (Gross National Income: GNI) ของแต่ละประเทศทั่วโลก เพื่อพัฒนาดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index: HDI) ซึ่งเป็นมาตรวัดการพัฒนาของมนุษย์ที่ครอบคลุมกว่าการวัดด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว
ดัชนีการพัฒนามนุษย์ของประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 76 จาก 193 ประเทศ ทำให้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนามนุษย์สูง ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่สูงเป็นอันดับสองจากการจัดกลุ่มทั้งหมด โดยดัชนีการพัฒนามนุษย์ของประเทศไทยลดลงมาเล็กน้อยจากปีที่แล้วที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ‘การพัฒนามนุษย์สูงมาก’เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลอายุขัยเฉลี่ยที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีการพัฒนามนุษย์ในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่าง บรูไน จีน มาเลเซีย และสิงคโปร ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกมีความก้าวหน้าในการพัฒนามนุษย์อย่างรวดเร็วที่สุดในโลกในช่วงปีพ.ศ. 2533 ถึงปีพ.ศ. 2566 โดยดัชนีการพัฒนามนุษย์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก รวมถึงเอเชียใต้ ต่างเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ50
ช่องว่างความเหลื่อมล้ำขยายวงกว้าง
อย่างไรก็ตามดัชนีการพัฒนามนุษย์ล่าสุดสะท้อนภาพรวมของโลกที่น่าเป็นห่วง อย่างความก้าวหน้าของทุกภูมิภาคทั่วโลก
ที่ชะลอตัวลง และความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศร่ำรวยและยากจนที่ขยายกว้างมากขึ้น โดยช่องว่างระหว่างประเทศที่มีค่า
ดัชนีการพัฒนามนุษย์ต่างกับประเทศที่มีค่าดัชนีการพัฒนามนุษย์สูงมากขยายกว้างมากขึ้นเป็นระยะเวลาสี่ปีติดต่อกัน
รายงานฉบับนี้ เน้นแนวทางใหม่ ๆ ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ด้วยการนำเสนอผลการสำรวจทั่วโลกเกี่ยวกับ AI ครั้งใหม่ ที่แสดงให้เห็นว่าผู้คนมองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จาก AI ตามความเป็นจริง แต่ก็มีความหวังว่า AI จะสามารถนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่การพัฒนามนุษย์ได้
โดยผู้ตอบแบบสำรวจครึ่งหนึ่งจากทั่วโลกคิดว่างานของตนอาจถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี แต่ 6 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสำรวจคาดหวังว่า AI จะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อการจ้างงาน รวมถึงสร้างโอกาสในการทำงานที่อาจยังไม่มีอยู่ในปัจจุบันมีผู้ตอบแบบสำรวจเพียงร้อยละ 13 เท่านั้นที่กลัวว่า AI อาจนำไปสู่การสูญเสียงาน ในทางตรงกันข้าม ในประเทศที่มีดัชนีการ
พัฒนามนุษย์ต่ำ และปานกลางพบว่า ร้อยละ 70 ของผู้ตอบแบบสำรวจคาดหวังว่า AI จะช่วยเพิ่มผลผลิต

นีฟ มารี คอลิเออร์-สมิธ (Niamh Collier-Smith) ผู้แทน UNDP ประจำประเทศไทย กล่าวว่า หวังว่าข้อมูล
การพัฒนามนุษย์ในปีนี้จะส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนจากช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 แต่น่าเสียดายที่
สิ่งที่เราเห็นคือการชะลอตัวของการพัฒนาของมนุษย์ทั่วโลก ถึงอย่างนั้น ยังมีหลายวิธีที่จะปรับเปลี่ยนแนวโน้มการ
เปลี่ยนแปลงให้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งรวมถึงการนำ AI เข้ามาช่วย เพราะผลสำรวจทั่วโลกของ UNDP แสดงให้เห็นว่า
ผู้คนมองว่า AI เป็นโอกาสเพียงหนึ่งครั้งในรอบชั่วอายุคน ที่จะถูกนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูการพัฒนามนุษย์ นับเป็นการส่งข้อความ
ให้กับประเทศไทยและแต่ละประเทศในการคว้าโอกาสนี้และจากรายงานการพัฒนามนุษย์ประจำปี พ.ศ. 2568 อธิบาย 3 ขั้นตอนที่แต่ละประเทศสามารถดำเนินการเพื่อใช้ประโยชน์จาก AI ในการพัฒนาของมนุษย์
- สร้างเศรษฐกิจที่ผู้คนสามารถทำงานร่วมกับ AI แทนที่จะแข่งขันกับ AI
- ผนวกตัวแทนของมนุษย์ไว้ในวงจรชีวิตของ AI ทั้งหมด ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการใช้งาน
- ใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อปรับปรุงระบบการศึกษาและสุขภาพให้ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการในศตวรรษที่
21