‘หนี้ความรัก’ กับดักวัยเดอะแบกของบ้าน กอดหนี้จนเกษียณ

ภาคีฯ ด้านการเงิน-การออม แนะ ต้องสร้างทางเลือกระบบการออมสร้างแรงจูงใจให้คนมีเงินเก็บ ติดอาวุธความรู้ด้านการออม-ลงทุน แก้ปัญหาสังคมไทยแก่ก่อนรวย

“สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์” คือสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ คือมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 16 ล้านคน หรือคิดเป็น 20.2% ของประชากรทั้งประเทศ

ตัวเลขนี้ยังมาพร้อมวิกฤต “วงจรชีวิต” ของผู้สูงอายุไทย เมื่อข้อมูลบัญชีเงินโอนในปี 2021 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.)  ชี้ให้เห็นว่า ผู้สูงอายุ 1 คน ใช้เงินเฉลี่ย 3.22 ล้านบาท ตลอดช่วงบั้นปลายชีวิต

แต่ไม่ใช้ทุกคนจะมีชีวิตมั่งคงในช่วงบั้นปลาย เพราะทีเพียง 1 ใน 3 ของประชากรสูงวัยที่จะมีเงินเก็บ และที่มีเงินสะสมเกิน 1,000,000 บาท มีเพียง 5% เท่านั้น ปัญหา “แก่ไปไร้ออม” จึงกลายเป็นวาระสำคัญที่จะต้องร่วมกันแก้ไข

เป็นที่มาของเวที Policy Forum : รัฐไม่พร้อม ? ออมให้พอ ไม่ต้องรอเกษียณ ที่คาดหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการออกแบบนโยบายที่จะช่วยให้ทุกคน อยู่ดีมีสุขตลอดบั้นปลายชีวิต

ออมให้เป็น สร้างตาข่ายทางการเงิน โจทย์ท้าทายมิติสังคมสูงวัย

สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ฉายภาพโจทย์ความท้าทายเส้นการออมของคนทุกช่วงวัย จากการสำรวจสามารถแบ่งได้ 3 รูปแบบ ได้แก่

  • คนจน – มีรายได้ไม่มาก ไม่มีเงินเก็บ เมื่อถึงเวลาฉุกเฉิน เงินไม่พอต้องกู้หนี้ยืมสิน ผิดชำระหนี้ ติดเครดิตบูโร

  • YOLO – มักอยู่ในกลุ่ม Gen Z – Alpha มีอายุไม่มาก ใช้ชีวิตแบบหาความสุขในแต่ละวัน แม้จะมีรายได้ มีการศึกษา แต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องวางแผน ทำให้แก่ไปอาจไม่มีเงินเก็บ

  • พี่นัน –กลุ่มรายได้ปานกลาง-ค่อนข้างต่ำ ทำงานตลอดชีวิต ไม่มีปัญหาทางการเงิน แต่เนื่องจากรายได้ไม่มากเมื่อใกล้เกษียณทำให้เงินเก็บมีไม่มากพอถึงเกษียณ เพราะฝากแต่ธนาคารที่ได้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่รู้ช่องทางการลงทุนอื่น ๆ

ทั้งนี้การมีต้นทุนชีวิตที่แตกต่างกัน ยังเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ และปฏิบัติสู่การเป็นหนี้-การออม เช่น ขาดความรู้ ว่าอะไรคือเงินฉุกเฉิน กองทุน ดอกเบี้ยทบต้น มี ความเชื่อ ส่วนบุคคลใช้จ่ายเกินตัวเพื่อหาความสุขในวันนี้ และ พฤติกรรมที่ขาดการลงมือออมอย่างสม่ำเสมอ

สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)

แต่ทั้ง 3 รูปแบบ งานวิจัยพบว่าสามารถสร้างวินัยทางการเงิน-การออมได้ ผ่านจุดร่วมคือ การออม เป็นหนี้ และการลงทุน

  • การออม เติมความรู้ เช่น ดอกเบี้ยทบต้น เงินเฟ้อ ค่าเงินในอนาคต บริการให้ความรู้คำปรึกษาทางการเงินรายบุคคล ความสำคัญของเงินสำรองฉุกเฉิน รวมถึงการปรับทัศนคติ เช่น การตั้งเป้าออม แจ้งเตือนการออม แคมเปญใช้ไปออมไป ซึ่งเป็นข้อเสนอว่าใครใช้จ่ายเงินจะมีระบบซึ่งหักเงินเป็นออมให้อัตโนมัติ เช่น ในบางประเทศซื้อของราคา 97 บาท จ่าย 100 บาท เงินทอน 3 บาท ใช้วิธีโอนเข้าบัญชี แอพติดตามการใช้จ่าย การใช้มาตรการเพื่อสร้างการออมต่อเนื่อง และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการออมพร้อมเกษียณ เช่น หวยเกษียณ เชื่อมการลงทุนในตลาดทุน การจัดการรวมข้อมูลเงินออมใน Pension Dashboard  ความโปร่งใส และเชื่อมั่น เช่น การปราบปราม Call Center ยกระดับการปกป้องเงินออมโดยร่วมมือกับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง

  • เป็นหนี้ ให้ความรู้เกี่ยวกับประเภทหนี้ (บริโภคลงทุน) วิธีควบคุมหนี้ความสุข หนี้ความรัก หรือหนี้ที่กู้ช่วยเหลือคนอื่น วิธีคุยกับเจ้าหนี้ทั้งในระบบ และนอกระบบ การปรับทัศนคติ “เป็นหนี้ต้องจัดการออมได้แม้เป็นหนี้” กลุ่มไลน์ “หมดหนี้ไปด้วยกัน” ส่งข้อความสะกิดรายสัปดาห์ “วันนี้คุณวางแผนจัดการหนี้แล้วหรือยัง” รู้ว่าใช้ไปกับอะไรคือก้าวแรกของการวางแผนการเงิน รวมถึงการเพิ่ม และส่งเสริมช่องทางผลิตภัณฑ์ เช่น คลินิกแก้หนี้ ระบบไกล่เกลี่ยนหนี้ ส่งเสริมการประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับคนรากหญ้า

  • การลงทุน ให้ความรู้ทางการเงินตั้งแต่เด็ก สนับสนุนการเข้าถึงคอร์สสั้นลงทุนไม่ยากในลักษณะ Edutainment นำเสนอแง่มุมเงินเฟ้อกับเงินฝาก และผลตอบแทนกับความเสี่ยงหรือแพลตฟอร์มในการลงทุน ปรับทัศนคติเช่นทดลองแคมเปญ 100 บาทก็ลงทุนได้ ปรับลดอคติมั่นใจเกินตัว เพิ่มและส่งเสริมช่องทางผลิตภัณฑ์ เช่นส่งเสริมแอพพลิเคชั่นการลงทุนที่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ และใช้ง่ายสำหรับทุกคน พร้อม สร้างความเชื่อมั่นจัดการปัญหาฉ้อฉลกลลวงในตลาดทุนสนับสนุน การฟ้องร้องดำเนินคดีแบบกลุ่มระบบ Early warning เตือนภัยการลงทุนการกำกับอินฟลูเอนเซอร์

สมชัย ย้ำว่า การหลวมตัวไปเป็นหนี้นอกระบบ สำคัญคือต้องโอนออกมาหาช่องทางที่อยู่ในระบบ จัดการทรัพย์สิน พยายามลดหนี้นอกระบบให้เร็วที่สุด การเจรจากับเจ้าหนี้เป็นเรื่องของทักษะที่ควรจะต้องมี ซึ่งภาครัฐก็เข้ามามีส่วนช่วยได้ในฐานะคนกลาง คลินิกแก้หนี้ สามารถช่วยตรงนี้ได้ แต่หลัก ๆ คือ พยายามดูอุปนิสัยในการใช้จ่าย การคิดให้ดีก่อนเป็นหนี้ และการบริหารจัดการหลังเป็นหนี้แล้ว

“ระบบการออมปัจจุบันยังไม่พอ จึงมีปัญหาเรื่องแก่ก่อนรวย แต่จะมีภาพใหญ่เรื่องของการกระจายตัวด้วย ซึ่งการออมระดับประเทศไทยไม่ได้น้อย แต่ไปกองอยู่กับคนรวย คนข้างล่างไม่ค่อยมีการออม ฉะนั้นหนึ่งในมาตรการที่อาจจะไกลตัวแต่สำคัญ คือ มาตรการลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจลง จะทำให้เรื่องของการเป็นหนี้ในภาพรวมดีขึ้นได้”

สมชัย จิตสุชน

‘หนี้ความรัก’ กับดักชี้ชะตาคนวัย 40 รอดหรือร่วงในสังคมสูงวัย ?

ศิรัถยา อิศรภักดี ผู้ก่อตั้ง Wealth Me Up และ ผู้ดำเนินรายการ The Standard Wealth กล่าวถึง วัยกลางคน ที่เป็นแซนวิชเจเนอร์เรชัน หรือเดอะแบกในครอบครัว ดูและทั้งพ่อแม่และลูก ๆ ของตัวเอง ขณะที่ตัวเองอายุ 40 ปี การออมให้มีเงินเหลือใช้หลังเกษียณถึง 80 ปี จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น และรูปแบบการออมในวันนี้ให้ผลตอบแทนที่ไม่เยอะมาก เงินเฟ้อกับสิ่งที่ได้ จากดอกผลไม่สอดคล้องกัน

ศิรัถยา อิศรภักดี ผู้ก่อตั้ง Wealth Me Up และ ผู้ดำเนินรายการ The Standard Wealth

สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้สังคมกลายเป็นคนที่มีภาระแต่ ไม่ใช่ต้องดูแลตัวเอง แต่ต้องดูแลคนอื่น และเราในอนาคตคือคนที่กำลังจะเกษียณ คำถามสำคัญ คือเรายังเป็นลูกหลานที่ดูแลครอบครัว แต่รุ่นของเราที่คนมีครอบครัว มีลูกน้อยลงใครจะดูแลเรา

“อายุ 40 จะเป็นจุดชี้ชะตาของหลาย ๆ คน เพราะตอนนั้นจะเริ่มมีโรคภัยต่าง ๆ ถ้าเราจัดการเงินได้ดี ออมไว้เผื่อฉุกเฉินจะอุ่นใจนิดนึง ในทางตรงกันข้ามถ้ายังมีหนี้ทบต้นเป็นดอก นั่นเป็นผลเสียที่ตามมาจากนิสัยการเงินไม่ดีที่คุณทำมาเมื่อ 40 ปีก่อน ที่เพิ่งจะเริ่มเห็นผล”

ศิรัถยา อิศรภักดี

แล้วปัญหาหนี้ เกี่ยวกับการออมจริงหรือไม่ ? ธิษณา ธิติศักดิ์สกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โนบูโร แพลตฟอร์ม จำกัด บอกว่า จริงส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนอาจเกิดจากนโยบายที่กระตุ้นให้คนอยากจะเป็นหนี้เพิ่มขึ้น เช่น รถคันแรก บางคนซื้อรถคันแรกโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองผ่อนไหวไหม รวมถึงชุดความเชื่อที่เห็นกันเยอะมากโดยเฉพาะกลุ่มที่รายได้ไม่ได้สูงมาก คือ คิดว่าถ้านึกอะไรไม่ออกวิ่งไปกู้ใหม่ สิ่งที่ตามมาในเรื่องถัดไปคือภาวะการใช้หนี้ที่เพิ่มขึ้น และวงจรหนี้ก็เกิดขึ้น

ธิษณา ธิติศักดิ์สกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โนบูโร แพลตฟอร์ม จำกัด

“คนที่เดินเข้ามาในโครงการโนบูโร ส่วนใหญ่จะเป็นวัยกลางคน เป็นเดอะแบกของครอบครัว เริ่มที่จะมีหนี้จากกู้เงินมาให้ลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ สูง ๆ หรือรักพ่อแม่ต้องส่งเงินกลับบ้านต่างจังหวัดให้พ่อแม่ใช้หนี้อีกที กลายเป็น หนี้ความรัก โดยไม่ได้วางแผนอนาคตชีวิตของตัวเอง”

ธิษณา ธิติศักดิ์สกุล

เมื่อกลับไปถามว่าจะออมได้ไหม ? ธิษณา บอกว่า ต้องกลับมาที่ทัศนคติจากเดิมที่คิดว่าต้องเป็นหนี้ไปจนเกษียณไม่สามารถแก้ได้ ต้องลุกขึ้นมาสร้างความตั้งใจมุ่งมั่นอย่างจริงจังที่จะแก้ปัญหา การที่ภาครัฐมาช่วยผ่อนชำระหนี้ หรือรอเป็นลูกหนี้เสียแล้วมาช่วยเหลือดอกเบี้ยบางส่วน ต้องขอบคุณภาครัฐ และแบงค์ชาติที่ออกนโยบาย แต่เรากำลังทำให้ลูกหนี้เคยตัวหรือไม่ แทนที่จะแก้ด้วยตัวเอง

สอดคล้องกับความเห็นของ ผศ.รุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น ประจำภาควิชาการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่บอกว่า การเป็นหนี้ คือ ความจำเป็นต้องใช้จ่ายในแต่ละช่วงวัย แต่สิ่งที่สำคัญในวันนี้ คือเราขาดการคาดการณ์ว่าในแต่ละช่วงวัยของเราจะพบเจอกับอะไรบ้าง

ผศ.รุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น ประจำภาควิชาการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เช่น ในวัย 20-30 ปี เพิ่งเรียนจบเป้าหมายสำคัญแรก คือ อยากมีอิสระทางการเงินจากพ่อแม่ซื้อของใช้จ่าย ต้องตัดสินใจว่าจะซื้อบ้านหรือซื้อรถ เมื่อรายได้สูงขึ้นเริ่มมีความรักอยากแต่งงาน การจัดงานแต่งหลายคนเป็นหนี้เพราะจัดงานแต่งงาน 3-5 แสนบาท เพื่อจัดงาน หลังจากนั้นมีภาระลูกด้านการศึกษา การเรียนพิเศษ เมื่อถึงวัย 40 ปี สุขภาพเริ่มแย่ลง พ่อแม่ของตัวเอง ก็มีอายุ 60-70 ขึ้นไป ซึ่งวัยนี้พร้อมที่จะป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ทำให้มีรายจ่ายเพิ่มเป็นหนี้ต่อในการเลี้ยงดูพ่อแม่ หนี้ในการเลี้ยงตัวเองตอนเกษียณ และหนี้สุดท้ายในการจัดงานศพให้ตัวเอง ที่บางครั้งลูกต้องเป็นหนี้เพราะตัวเอง

“ณ วันนี้ เวลาเราให้ความรู้กับคนทั่วไปมักจะบอกว่าทุกคนต้องออมเพื่อเกษียณ แต่เวลาฟังคำนี้ดูเหมือนไกลตัว ดังนั้นเราควรสื่อสารให้เขาวางแผนเพื่อออมให้จังหวะชีวิตของตัวเอง ชี้แนะว่าต้องซื้อบ้านหรือซื้อรถ หรือซื้อบ้านควรเลือกแบบใด เพราะนี่คือเงื่อนปมแรกของการใช้ชีวิต และเป็นสิ่งที่เป็นภาระติดตัวคนนั้นไป 30-40 ปี ซื้อผิดชีวิตเหมือนติดคุกได้”

ผศ.รุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น

ผศ.รุ่งเกียรติ บอกอีว่า ปัจจุบันคนที่มีเป้าหมายมักจะตั้งใจทำงานมาก ทำให้ไม่มีเวลาคิดเรื่องลงทุนเพราะชีวิตประจำวันทำแต่งาน จึงจำเป็นต้องให้ความรู้กับคนกลุ่มนี้ว่าการทำงานต้องแบ่งเวลาให้เป็นเพื่อให้เงินทำงานให้เรา ต้องวางเป้าว่าอายุ 40 ปีต้องมีรายรับได้ช่องทางอื่นที่รองรับรายจ่าย บางคนอาจโชคดีรู้จักการลงทุนมารองรับค่าเทอมลูกโดยไม่ได้มาจากงานตัวเอง รวมถึงการลงทุนในผลิตภัณฑ์ประกัน ทั้งประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันอัคคีภัย หรือประกันชีวิต ที่ต้องยอมรับว่าในประเทศไทยมีสัดส่วนของประชากรที่ซื้อค่อนข้างต่ำ เพราะมักจะมองว่าไม่อยากจ่ายเบี้ย กลัวไม่มีกำไร ดังนั้นต้องเปลี่ยนความคิดว่าเราไม่ได้ซื้อประกันเพื่อหวังกำไร แต่ซื้อเพื่อรองรับไม่ให้เราเจอภาระที่ไม่คาดฝัน และเป็นหนี้สินที่เราไม่อยากให้เกิด เป็นหนี้สินที่ไม่ได้วางแผน

ความท้าทาย ความต่างระบบการออมของคนไทย
ส่วนใหญ่อาจต้องฝากไว้กับ ‘หวยเกษียณ’

จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กระทรวงการคลัง เล่าถึงระบบการออมในกลุ่มแรงงานนอกระบบ เช่น กลุ่มเกษตรกร, กสิกรรม, กลุ่มค้าขาย, กลุ่มรับจ้าง, กลุ่มอาชีพอิสระ ให้เข้าสู่ระบบเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ มีหลักประกันการออมเงิน และจ่ายเป็นเงินบำนาญให้เมื่ออายุเกิน 60 ปี ดำเนินกองทุนมาตั้งแต่ พ.ศ.2558  

จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กระทรวงการคลัง

แต่พบว่าปัจจุบันมีสมาชิกเพียง 2.7 ล้านคน ส่วนมากเป็นเกษตรกร เพราะเป็นกองทุนนอกระบบ ข้าราชการ ประกันสังคมเข้าร่วมไม่ได้ จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนที่อาจยังไม่รู้ข่าวสารเข้ามาสมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี เป็นการออมก่อนใช้ และยังมีการเพิ่มผลตอบแทนจากภาครัฐที่สมทบอีกครึ่งหนึ่งของเงินที่จ่าย เช่น อายุ 15 ปี ออมเดือนละ 300 บาท ต่อเนื่องจนถึงอายุ 60 ปี จะมีเงินในบัญชีรวมประมาณ 449,xxx บาท จ่าเป็นเงินบำนาญรายเดือนประมาณเดือนละ 2,1xx บาท ตั้งแต่อายุ 60 ปี ตลอดชีพ เป็นอีกหนึ่งกองทุนสำรองยามเกษียณนอกเหนือจากเงินผู้สูงอายุที่รัฐจ่ายให้ทุกเดือน

นอกจากนี้ภาครัฐยังเตรียมออก หวยเกษียณ หรือ สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ (สลาก กอช.) เป็นนโยบายที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาคนไทยสูงอายุแต่ไม่มีเงินเก็บ เพราะการออมภาคสมัครใจในปัจจุบันไม่ได้ผล จึงต้องอาศัยการออมที่ผูกกับแรงจูงใจซื้อสลากถูกกฎหมาย ขณะนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในชั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วาระ 3 ในเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนเข้าสู่ชั้นวุฒิสภา ซึ่งเชื่อว่าปีนี้จะได้เห็น

ขณะที่ แมน ชุติชูเดช รองเลขาธิการกลุ่มงานกลยุทธ์ลงทุนและบริหาร ผู้จัดการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) บอกว่า ประเด็นสำคัญที่ กบข.ทำงานคือการให้ความรู้กับสมาชิก คือให้รู้ว่าความเสี่ยงมี 2 ประเด็น คือ ความเสี่ยงระยะยาวที่อาจจะไม่เพียงพอในยามเกษียณ และการอดทนต่อความผันผวนในการลงทุนระยะสั้น  เพระการทนความผันผวนระยะสั้นจะทำให้เขาสำเร็จในระยะยาว

แมน ชุติชูเดช รองเลขาธิการกลุ่มงานกลยุทธ์ลงทุนและบริหาร ผู้จัดการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

นอกจากนี้ยังคำนวนให้สมาชิกว่าหลังเกษียณเงินขั้นต่ำที่ควรจะมีอยู่ที่เท่าไร ระดับที่พอเพียง ระกับอยู่อย่างสุขสบาย เพื่อค่อย ๆ ทำให้สมาชิกปรับเพิ่มการลงทุนได้ และเปรียบเทียบกับสมาชิกกันเอง รวมถึงพยายามให้ความรู้ว่าสมาชิกแต่ละคนมีต้นทุนไม่เหมือนกัน จึงมีทางเลือกของแผนได้อย่างเหมาะสมผ่านชุดแผนกองทุนให้ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ

ติดอาวุธสร้างความรู้ทางการเงิน-การออมให้ประชาชน ไม่ต้องกอดหนี้ไปจนเกษียณ

ในเวทีเสวนายังเห็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกันว่า เรื่องของการออมนั้น รัฐบาลถือว่ามีเครื่องมือให้กับประชาชนในระดับดีพอสมควร แต่อาจยังขาดการรับรู้ และความสนใจ เนื่องจากไม่เชื่อว่าเครื่องมือทางการเงิน-การออม จะช่วยให้หลุดจากภาระหนี้ก่อนเกษียณได้

ธิษณา แบ่งปัญหานี้ออกเป็น 2 ส่วน คือ

  • ประชาชน ต้องลุกขึ้นมาทำด้วยตัวเอง มองผลกระทบในระยะยาว เช่น ปัจจุบันพบลูกจ้างหลายคนลาออกจากบริษัทเพราะต้องการถอนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเอาไปปิดหนี้ สุดท้าย ก็ไม่สามารถเป็นเงินเพื่อเกษียณได้ ดังนั้นอยู่ที่ตัวเราก่อนว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานได้ไหม

  • นายจ้าง มีนโยบายลงมาทำให้เป็นเรื่องที่จริงจัง เช่น ให้ความรู้ไม่ใช่แค่รายรับรายจ่าย แต่ทำให้พนักงานเปิดใจรู้สึกว่าเป็นไปได้ มีทัศนคติใหม่ไม่ต้องกอดหนี้ไปจนเกษียณ สามารถมีเงินออมพร้อมกับมีหนี้ จากนั้นเติมความรู้และทักษะที่จำเป็นแก้ปัญหาจากการการเงิน และการให้เครื่องมือที่หลากหลายตรงกับที่ทุกคนสามารถทำได้

ศิรัถยา อยากให้ภาครัฐเคาะหลักสูตร การวางแผนการเงินส่วนบุคคล เข้าไปในระบบการศึกษาไทย เพื่อให้เด็กเรียนรู้การหาเงินในแบบของตัวเองที่ไม่ใช่แค่ต้องเป็นข้าราชการ เป็นพนักงานเงินเดือน หรือ SME แต่อาจเป็น Unicorn เจ้าใหม่ ๆ มองตลาดอาเซียน หรือระดับโลก ขยายมุมคิดได้มากขึ้นเพราะโลกการลงทุนสอนให้รู้ว่าไม่ได้มีแค่การฝากเงิน

พร้อมเสนอว่า ถ้าอยากให้คนไทยอ่านออกเขียนได้เรื่องการเงินสิ่งนี้ควรปลูกฝังไปในสื่อหลักที่คนส่วนใหญ่ในประเทศยังติดตามอยู่ เพราะภาพของออนไลน์มักเป็นคลิปสั้น ๆ ที่คนไม่สามารถเชื่อมโยงทั้งหมด ว่า ช่วงจังหวะชีวิตของแต่ละคนต้องเจออะไรบ้าง การวางแผนคืออะไร มีแค่วางแผนลงทุนได้กำไร ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับทั้งชีวิตที่ต้องใส่ใจเรื่องการเงิน ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้เรื่องประกันด้วยซ้ำเพราะคิดว่าไม่น่าสนใจไม่สำคัญ

ปิดท้ายเวทีด้วยข้อเสนอจาก ผศ.รุ่งเกียรติ ที่อยากชวนธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ คิดรูปแบบการสมัครสินเชื่อ เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ที่การสมัคร ต้องประเมินความรู้ด้านความเสี่ยง ผลตอบแทน แต่ทำไมเวลาเป็นหนี้ไม่มีด่านอะไรเลยที่บังคับให้ธนาคารพาณิชย์ต้องให้ความรู้ก่อนลูกหนี้เป็นหนี้

รวมถึงธนาคารพาณิชยควรมี Application ในการคำนวณดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ทุกคน เช่นการโปะหนี้ 1-2 หมื่นบาท ช่วยลดดอกเบี้ยได้เท่าไหร่ มีการให้ข้อมูลเรื่องการปลดหนี้ให้กับทุกคน

แม้เวทีในวันนี้ จะชวนคุยเพื่อหาทางออกในประเด็นการเงิน-การออมยามเกษียณ แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกัน คือ ปัญหาที่คนไทยไม่มีเงินเก็บ ก่อหนี้ คือ ปัญหาด้านรายได้ หากระดับนโยบายสามารถหาตัวขับเคลื่อนใหม่ของเศรษฐกิจไทยที่ผลักให้คนมีรายได้พอ ดังนั้นสิ่งสำคัญ คือ รายได้ของประเทศ ประชากรในประเทศ จะมาจากไหนที่ไม่ใช่แหล่งรายได้เดิมๆที่เคยคาดหวัง เช่น การส่งออก ภาคการท่องเที่ยว ที่ตอนนี้ติดลบ ทั้งเรื่องภาษี ความไม่สงบในหลายพื้นที่

แต่ถ้าสามารถมีแหล่งขับเคลื่อนใหม่ของเศรษฐกิจ จะช่วยผลักให้เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องแก้ที่ปลายเหตุ เมื่อคนมีรายได้มั่นคง มีเงินจ่ายหนี้ มีเงินเก็บออม และมีเงินเพียงพอสำหรับการเกษียณ ที่สำคัญมีเงินจ่ายภาษีเข้ารัฐ เพื่อเป็นสวัสดิการที่ดีพอกับคนไทยในอนาคต เพียงพอในยามเกษียณ

สำหรับ Policy Forum ครั้งถัดไป ในหัวข้อ “Unretirement: The Next Chapter ชีวิตไม่เกษียณ” จะเป็นเวทีที่จะชวนร่วมถกประเด็นสำคัญ

  • ทำไมช่วงอายุ 55-60 ปี ยังไม่ใช่ “จุดสิ้นสุด” ของการทำงาน ?
  • จะทำอย่างไรให้ผู้สูงอายุสามารถทำงานต่อได้อย่างมีคุณภาพ ?
  • ระบบส่งเสริมและการอัปสกิล-รีสกิล จำเป็นแค่ไหน ?
  • นโยบายไทยรองรับผู้สูงวัยเพียงพอหรือยัง ?
  • เราจะขยับสังคมไทยสู่การยอมรับการทำงานของผู้สูงอายุได้อย่างไร ?

โดยจะจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 22 มิ.ย. 68 ในงานมนุษย์ต่างวัย Fest 2025 ชีวิตดี…ชีวิต ซีซัน 2 It’s Okay To Be You ณ Impact Exhibition Center Hall 8

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active