‘รมว.คลัง’ ยืนยันระบบมีความพร้อมรองรับผู้ใช้งาน จากเดิม 5 หมื่น เป็น 1 แสนธุรกรรม/วินาที ‘ธปท.’ ประเมินผลของการกระตุ้นอาจไม่ถึง 0.4% ของขนาด ศก.

พรุ่งนี้ (20 ต.ค. 68) จะเป็นวันแรกของการเปิดให้ประชาชนเริ่มลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และเว็บไซต์ คนละครึ่งพลัส.com สำหรับคนละครึ่งพลัสสำหรับประชาชนทั่วไป คุณสมบัติของคนที่จะมีสิทธิ คือ
1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย
2. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3. มีบัตรประจำตัวประชาชน
4. ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568
5. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ นั่นคือโครงการคนละครึ่งในเฟสที่ผ่าน ๆ มา
วิธีลงทะเบียนและใช้สิทธิโครงการ
โดยเริ่มต้นลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชัน เป๋าตัง อัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด หากใครยังไม่มี สามารถดาวน์โหลด และติดตั้งผ่าน Apple Store หรือ Play Store ลงทะเบียน สำหรับผู้ที่ ‘ไม่เคย’ รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 และไม่เคยมี G Wallet ต้องสมัครใหม่ จะมีการแจ้งผลการลงทะเบียนผ่านการแจ้งเตือนบนแอปฯ เป๋าตัง และ SMS (ภายใน 3 วัน)
แต่สำหรับผู้ที่ ‘เคย’ รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ผลการลงทะเบียนจะแจ้งผ่าน การแจ้งเตือนบนแอปฯ เป๋าตัง
โดยจะเปิดรับลงทะเบียนประชาชนตั้งแต่ 20 ต.ค. – 26 ต.ค. 68 เวลา 06.00 – 22.00 น. จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิ หรือครบวงเงินงบประมาณของโครงการ ซึ่งคนละครึ่งพลัส มีจำนวนสิทธิโดยประมาณ 20 ล้านสิทธิ หรือจนกว่าจะครบวงเงินงบประมาณ 44,000 ล้านบาท
โดยสามารถซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนดจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ สำหรับการซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 7 พ.ย.-31 ธ.ค. 68 (เวลา 06.00 – 21.00 น.)

ใครได้เท่าไรบ้าง?
สำหรับกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ 2,400 บาท คือ ประชาชนผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้กรณีทั่วไป (ภ.ง.ด. 90) แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงาน ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ประเภทเดียว (ภ.ง.ด. 91) หรือแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ได้รับสิทธิลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 95) ของปีภาษี 2567ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568
สำหรับกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ 2,000 บาท คือ ประชาชนผู้ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาข้างต้น
ขณะที่เมื่อพูดถึงข้อกังวลเรื่องระบบลงทะเบียน เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ยืนยันว่าระบบลงทะเบียนมีความพร้อม เนื่องจากธนาคารกรุงไทย ขยาย capacity จากเดิมรองรับได้ 50,000 ธุรกรรม เป็น 100,000 ธุรกรรมต่อ 1 วินาที
โครงการ “คนละครึ่งพลัส” มีการปรับรูปแบบจากโครงการ “คนละครึ่ง” ที่เคยดำเนินการมาก่อน ในสมัย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งรัฐบาลภูมิใจไทย นำโครงการกลับมาทำใหม่ ในชื่อโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ปี 2568 คือและมีการปรับเพิ่มวงเงินการใช้จ่ายเป็น 200 บาทต่อวัน ขยายฐานอายุผู้ใช้สิทธิเป็นอายุ 16 ปี และเพิ่มสิทธิพิเศษให้ผู้ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้รับวงเงินเพิ่มขึ้นโดยกำหนดวงเงินสิทธิ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายในระยะสั้น
ซึ่งในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา คือ โครงการคนละครึ่งพลัส ใช้เงินจากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือประมาณ 22,400 ล้านบาท (งบประมาณปี 68) และงบประมาณปี 69 อีกราว 44,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน มีร้านค้าสามารถลงทะเบียนสำเร็จแล้วประมาณ 200,000 ราย
ชญาวดี ชัยอนันต์ โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท. ประเมินว่าคนละครึ่งทั้งสองเฟส ที่จะใช้เงินทั้งหมด 66,400 ล้านบาท คิดเป็นขนาด 0.4% ของมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมของทั้งประเทศ (Nominal GDP) ซึ่งช่วยในเรื่องกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและอาจมีรั่วไหลออกประเทศบ้างผ่านสินค้านำเข้า แต่ผลของการกระตุ้นอาจไม่ถึง 0.4% ของขนาดเศรษฐกิจ เพราะเป็นมาตรการประเภทเงินโอนที่ไม่ได้สร้างงานและเพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตามผลจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้จ่ายของประชาชนด้วย ฉะนั้นจึงต้องประเมินสถานการณ์ต่อไป