Con for All จี้ 3 พรรคการเมือง เปิด TOR แก้รัฐธรรมนูญ 

‘พรรคประชาชน’ ย้ำ เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ คำถามประชามติต้องเปิดกว้าง ‘เพื่อไทย’ พร้อมเดินหน้าต่อ ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยทำประชามติกี่ครั้ง ด้าน ‘ภูมิใจไทย’ ตอบไม่ชัด ขอตั้งกรรมการศึกษาคำถามประชามติก่อน

วันนี้ (3 ก.ย. 68) ที่รัฐสภา เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ (Con for All) เข้ายื่นหนังสือต่อพรรคการเมือง 3 พรรค คือ พรรคประชาชน, พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย เพื่อขอให้พรรคการเมืองต้องเปิดเผย TOR ประชาชน หรือ ข้อกำหนดการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะมีแนวทางต่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชนอย่างไร โดยเฉพาะการจัดออกเสียงประชามติ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จากการเลือกตั้ง

แม้พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ได้ประกาศยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชน แต่ยังคงขาดรายละเอียดและความขัดเจนว่า กระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงได้อย่างไร โดยเฉพาะภายใต้กรอบเวลา 4 เดือน หรือ 120 วัน ก่อนการยุบสภาตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้

Con for All ยังมีข้อเรียกร้องต่อพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ให้เปิดเผยรายละเอียดแผนงานตาม TOR ที่ได้ทำกับพรรคประชาชน ว่า จะมีแนวทางผลักดันการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชนให้สำเร็จได้อย่างไร โดยเฉพาะการจำนวนการทำประชามติ คำถามประชามติ กติกาในการทำประชามติ และวิธีการได้มาซึ่งสภาร่างรัฐธรรมนูญจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน

โดยเห็นว่า ความชัดเจนของแผนงาน มีความสำคัญ เพราะการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน เป็นวาระที่จำเป็นและเร่งด่วน หากกระบวนการออกแบบไม่ดีหรือไม่ถูกต้องก็จะมีโอกาสที่จะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วยหรือเพราะมีข้อติดขัดทางกฎหมาย ดังนั้น หากขาดความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในครั้งนี้ ก็จะส่งผลให้ประชาชนต้องรับผลกระทบจากวิกฤติรัฐธรรมนูญนานยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ตัวแทนจาก 3 พรรคการเมืองมารับหนังสือดังกล่าว ได้แก่ ภราดร ปริศนานันทกุล และ กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.พรรคภูมิใจไทย, สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์, สหัสวัต คุ้มคง สส. พรรคประชาชน

‘ภูมิใจไทย’ ตอบไม่ชัด ตั้งกรรมการศึกษาคำถามประชามติอีกครั้ง ?

ภราดร ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยได้รับตอบข้อเสนอของพรรคประชาชนทั้ง 2 ข้อ  และจะดำเนินการภายในกรอบเวลา 120 วันในการทำประชามติให้สำเร็จตามเงื่อนไขพรรคประชาชน เขากล่าวต่อว่า การทำประชามติไม่ว่าจะทำ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง ขณะนี้อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีคำวิจิจฉัยในวันที่ 10 กันยายน 2568 

ในกรณีมีประชามติ 2 ครั้ง หมายความว่ารัฐสภาจะต้องแก้ไขมาตรา 256 ให้เรียบร้อยก่อน และนำมาตรา 256 ไปทำประชามติ แต่ถ้าทำ 3 ครั้ง หมายความว่ารัฐบาลสามารถใช้เครื่องมือของรัฐบาลคือ กฎหมายประชามติ ทำประชามติได้โดยเร็ว ซึ่งตามกรอบเวลาคือก่อนยุบสภา หรืออย่างช้าที่สุดคือไม่เกินวันเลือกตั้ง ถ้าหากอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องเชิญคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) มาพูดคุยหาแนวทางเพื่อทำประชามติต่อไป

ส่วนในเรื่องคำถามของการทำประชามติ คิดว่าต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง ต้องมีสัดส่วนของผู้แทนในสภา มาเป็นคณะกรรมการเพื่อคิดคำถามประชามติ ว่าจะมีคำถามอย่างไร และมีกี่ประเด็น ทั้งหมดนี้เป็นกรอบเวลาคร่าวๆ ที่พรรคภูมิใจไทยจะดำเนินตามเงื่อนไข TOR ของพรรคประชาชนภายใน 120 วัน

ณัชปกร นามเมือง ตัวแทนจากเครือข่าย ConforAll ถามว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญทำประชามติ 2 ครั้ง ภูมิใจไทย ก็พร้อมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เข้าสภาเลยหรือไม่

ภราดร ตอบว่า ตอนนี้มีร่างแก้ 256 ค้างอยู่ในสภาแล้ว 2 ร่าง คือร่างของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ขณะนี้ภูมิใจไทยกำลังทำร่างอยู่เป็นร่างที่ 3 แต่ไม่แน่ใจว่า ในกรณีที่ได้รัฐบาลใหม่ รัฐบาลจะมีร่างของรัฐบาลหรีอไม่ แต่ภูมิใจไทยจะเสนอร่างเพื่อเข้ามาพิจารณาพร้อมกับร่างอื่น ๆ

ส่วนในประเด็นรายละเอียดของแผนงานแก้ไขรัฐธรรมนูญมีรายละเอียดเรื่อง สสร. หรือไม่ และมีการตั้งเงื่อนไขการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับหรือมีการยกเว้นมาตราใดหรือไม่

ภราดร ตอบว่า ไม่ได้ฟังแถลงการณ์ TOR ของพรรคประชาชน แต่ถ้าไม่มีรายละเอียดในแถลงการณ์หมายความว่า จะไปอยู่ในขั้นตอนที่จะต้องไปคุยกัน เรื่องคำถามประชามติว่าจะมีคำถามแบบใดบ้าง จะต้องมีคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อมากำหนดคำถามร่วมกันและจะต้องมี กกต. และตัวแทนพรรคการเมืองมาร่วมพูดคุยกันเพื่อออกแบบคำถามประชามติ

ส่วนคำถามว่า ถ้ามีการทำประชามติ 3 ครั้ง การทำประชามติจะทำก่อนเลือกตั้งใช่หรือไม่ และประเด็นว่าอุปสรรคในแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือไม่สามาถหาเสียง สว. 1 ใน 3 ได้ภูมิใจไทยมีแนวทางอย่างไรที่จะผลักดันเสียง สว. ให้เห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ภารดร ตอบว่า การทำประชามติครั้งที่ 1 จะเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งหรืออย่างช้าที่สุดคือพร้อมการเลือกตั้งทั่วไป ส่วนเรื่องของ สว. ภราดรกล่าวว่าไม่สามรถตอบแทนได้ แต่อย่างไรก็ดี หากมีการทำประชามติแล้ว และประชาชนเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญตามเงื่อนไขประชามติ ภราดรเชื่อว่าคงไม่มี สว. ขัดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าประชาชนเห็นพ้องทั้งประเทศ 

‘เพื่อไทย’ พร้อมเดินหน้าต่อไม่ว่า ศาล รธน.จะวินิจฉัยทำประชามติกี่ครั้ง

สรวงศ์ กล่าวถึงประเด็น การร่างรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยว่า ประการแรก การไปรับข้อเสนอจากพรรคประชาชนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2568 ในการจัดทำ TOR การทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ โดยหากทำสำเร็จได้ก่อน 4 เดือนก็จะยุบสภาทันที ประการที่สอง การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องมาจากการเลือกตั้ง สสร. 100% แต่กระบวนการและรายละเอียดจะต้องพุดคุยกันต่อไป 

ส่วนการทำประชามติเพื่อนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สรวงศ์ยืนยันว่า สามารถทำประชามติได้พร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ได้ ทั้งยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีความจริงใจมาตลอดกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แต่กระบวนการในสภาที่ถูกยับยั้งเอาไว้ 

โดยวันที่ 10 ก.ย. 2568 ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยว่า จะทำประชามติ 2 หรือ 3 ครั้ง ซึ่งไม่ว่าจะทำประชามติกี่ครั้ง ด้วยความตั้งใจ พรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และอยากที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ประชาชนคนไทยได้ใช้ แล้วก็มาจากพี่น้องประชาชน 

ส่วนกรณีที่พรรคประชาชนมีมติลงคะแนนให้ อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะยุบสภาหรือไม่ ? สรวงศ์ กล่าวว่า “อำนาจการยุบสภาไม่ใช่อำนาจของเรา เป็นพระราชอำนาจ กระบวนการจะต้องเริ่มต้นโดยนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันไม่มีนายกรัฐมนตรี แต่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และมีข้อถกเถียงกันว่าสามารถยื่นยุบสภาได้หรือไม่” 

“แต่เท่าที่รับทราบ เมื่อเช้านี้ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่า มีการดำเนินการยื่นถวายความเห็นในการขอยุบสภาเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดทั้งปวง เป็นพระราชอำนาจที่จะต้องรอ ในส่วนนิติบัญญัติ หากการเลือกนายกรัฐมนตรีดำเนินต่อไป ในฐานะพรรคการเมืองก็พร้อมจะเสนอชื่อ ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จะโหวตอย่างไร แพ้อย่างไร ก็จะดำเนินการต่อไป เราถือว่าเราทำหน้าที่”

สรวงศ์ เทียนทอง

ส่วนกรณีเลือกนายกรัฐมนตรีได้ก่อนการยุบสภา หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าให้ทำประชามติ 3 ครั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ ทางพรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางอย่างไรบ้าง และหากเป็นประชามติสองครั้งจะทำอย่างไรต่อ 

สรวงศ์ ตอบว่า หากรัฐสภาเดินหน้าต่อ การแก้ปัญหาเรื่องมาตรา 256 ของรัฐธรรมนูญ 2560 จะต้องเดินหน้าทันที โดยเปิดช่องทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้แสดงความจริงใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่หากมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ สรวงศ์ตอบว่า จะต้องเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน โดยมั่นใจอย่างยิ่งว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ อยากจะให้มีการทำประชามติพร้อมกับวันเลือกตั้ง 

‘ประชาชน’ ย้ำ เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทุกหมวด คำถามประชามติต้องเปิดกว้าง

สหัสวัต ระบุถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญที่ให้ สสร. มาจากการเลือกตั้ง 100% เป็นสิ่งที่พรรคประชาชนยืนยันมาตลอด และยืนยันว่าสามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ทั้งฉบับ ส่วนคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่จะออกมาให้วันที่ 10 กันยายน 2568  ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ต้องมีคำถามประชามติที่เปิดกว้าง ไม่มีการล็อกหมวดใดและไม่มีการสร้างเงื่อนไขในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สหัสวัต ยังเห็นว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี พรรคประชาชนจะกดดันไปที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ถ้าเกิดไม่มีการยุบสภา เพื่อให้ออกคำถามที่เปิดกว้างที่สุด นอกจากนี้เงื่อนไขของการเลือกพรรคที่จะเป็นรัฐบาลต่อจากนี้ คือการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และพรรคประชาชนจะใช้การเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในการกดดันให้ทำคำถามประชามติที่เปิดกว้าง

ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเป็น 2 ครั้ง ปัจจุบันพรรคประชาชนมีร่างแก้ไขมาตรา 256 อยู่ในสภาเรียบร้อยแล้ว และพร้อมจะผลักดันเข้าสู่สภาให้เร็วที่สุด

ขณะที่ ศศินันท์ บอกว่า จากการฟังพรรคภูมิใจไทย ตอบคำถามดังกล่าวเห็นว่าสุดท้ายอยู่ที่ TOR ว่ามีการระบุเรื่องนี้หรือไม่ พรรคประชาชนยืนยันเรื่อง สสร. และการไม่ล็อกหมวด 1 และ 2 ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอดูว่า เมื่อภูมิใจไทยมาเป็นรัฐบาลจะมีเรื่องเหล่านี้ตามที่พรรคประชาชนยืนยันมาตลอดหรือไม่

ส่วนคำถามว่ามีเงื่อนไขในลายลักษณ์อักษรในการไม่ล็อกหมวดใดและรูปแบบ สสร. รูปแบบนี้มีการยืนยันหรือไม่ ตอบว่า ไม่สามารถตอบชัดเจนได้เพราะไม่อยู่ในวงเจรจา แต่พรรคประชาชนยืนยันมาตลอดว่า คำถามประชามติต้องเปิดกว้างที่สุด คิดว่าเรื่องนี้ต้องใช้กลไกทุกอย่างที่มีมากดดัน เช่น การเป็นฝ่ายค้านเสียงข้างมาก การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือกลไกที่ทำงานกับภาคประชาชนในการกดดันกับภูมิใจไทย 

“พรรคภูมิใจไทยจะเอาอย่างไร จากเรื่องการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เป็นเรื่องที่พรรคประชาชนคิดว่าทำได้ แต่ต้องมีการกำหนดกรอบเวลาชัดเจนเพื่อให้ทันการเลือกตั้งครั้งหน้า”

ศศินันท์ ธรรมนิธินันท์

ส่วนคำถามว่า เงื่อนไขการเลือกนายกฯ ของพรรคประชาชนที่ต่ำเกินไปหรือไม่ ซึ่งเงื่อนไขนี้เป็นเงื่อนไขที่เลือกนายกฯ ก่อนโดยยังไม่มีผลลัพธ์ พรรคภูมิใจไทยจะรักษาสัญญาหรือไม่ สหัสวัต กล่าวว่าไม่รู้ในวงเจรจามีการเจรจาอย่างไร สิ่งนึงที่ต้องทำให้เห็นคือ ถ้าภูมิใจไทยผิดสัญญา เรื่องนี้จะไม่ใช่การผิดสัญญากับพรรคประชาชน แต่ผิดฉันทามติต่อประชาชนในการเลือกตั้งปี 2566 ด้วย

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active