สภาฯ รับหลักการ ‘เพิ่มวันลา’ คนทำงาน เน้นสิทธิ ลาไปดูแล-ลาบอกลา-เมนส์มาลาได้

เผย ร่างแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2 ฉบับ เน้นเปลี่ยนชีวิตคนทำงาน เพิ่มสิทธิวันลาแก่ลูกจ้าง เดินหน้าลดระยะเวลาทำงาน เพิ่มลาพักร้อน ให้สิทธิลาไปบอกลา ลาปวดประจำเดือน เพิ่มพื้นที่ให้นมบุตรในที่ทำงาน

วันนี้ (24 ก.ย. 68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 25 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) โดยมีการเสนอ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … จำนวน 2 ฉบับโดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ การเพิ่มสิทธิวันลาของลูกจ้าง รวมถึงสาระสำคัญเกี่ยวกับสตรี

โดยฉบับแรกนำเสนอโดย จรัส คุ้มไข่น้ำ เพื่อแก้ไขกฎหมายคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิวันลาของลูกจ้าง โดยมีสาระสำคัญ คือ

  1. แก้ไขเพิ่มเติมระยะเวลาการทำงานของลูกจ้าง (ม. 23) 

โดยขอให้กำหนดเวลาทำงานรวมของลูกจ้าง ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เว้นแต่งานที่อันตราายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างตามกฏกระทรวง ต้องไม่เกิน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

  1. แก้ไขวันหยุดประจำสัปดาห์ของลูกจ้าง (ม.28)

โดย กำหนดให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ไม่น้อยกว่า 2 วัน และมีระยะห่างกันไม่เกิน 5 วัน

  1. แก้ไขสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปี (ม.30)

โดย กำหนดให้ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันมาแล้วครบ 120 วัน มีสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปี ไม่น้อยกว่า 10 วันต่อปี และในปีต่อมาอาจมากกว่านั้นก็ได้

พร้อมทั้งเห็นว่ากฏหมายบังคับใช้ที่มีอยู่ ไม่ได้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีแรงงานกว่า 30 ล้านคน ประสบความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ การแก้ไขกฏหมายนี้จะช่วยเพิ่มเวลาให้กับลูกจ้าง และยืนอยู่บนหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียม ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทั้งต่อทรัพยากรมนุษย์และระบบเศรษฐกิจด้วย

ทั้งนี้ที่ประชุมสภาฯ ได้ลงมติรับหลักการ การเสนอแก้ไขกฎหมายแรงงานในวาระนี้ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 328 เสียง จากจำนวนผู้ลงมติ 333 เสียง พร้อให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขึ้นมาพิจารณา 31 คน กำหนดแปรญัตติ 15 วัน

ส่วนฉบับที่ 2 นำเสนอแก้ไขโดย วรรณวิภา ไม้สน และคณะ อันมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับครอบครัว และสตรี มีสาระสำคัญ 4 ประเด็น ได้แก่ 

  1. ให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างชายหญิงเท่าเทียมที่ครอบคลุมถึงการสรรหา เลื่อนตำแหน่ง ค่าจ้าง และสวัสดิการ (ม. 15)

  2. ให้มีสิทธิลางานไปดูแลครอบครัวและผู้ป่วยใกล้ชิดไม่เกิน 15 วันต่อปี

  3. จัดให้นายจ้างมีพื้นที่ปลอดภัย มิดชิดในการให้นมบุตร (มาตรา 39/2)

  4. ให้ลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาปวดประจำเดือนโดยไม่ถือเป็นวันลาป่วย ไม่เกิน 3 วันต่อเดือน (เพิ่มมาตรา 40/1)

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่ 2 สิทธิการลางานและดูแลครอบครัวมีให้เห็นแล้วในต่างประเทศ ดังนี้

เกาหลีใต้

  • กำหนดให้ลาได้ 90 วันต่อปี ครั้งละ ≥30 วัน โดยนับรวมเป็นเวลาทำงาน (ยกเว้นทำงานน้อยกว่า 6 เดือน หรือกระทบธุรกิจหนัก)

  • ครอบคลุมถึง พ่อแม่ คู่สมรส บุตร และพ่อแม่คู่สมรส

  • หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตาม มีโทษ ดังนี้
    • ไม่อนุญาตให้ลา ปรับ ≤ 5 ล้านวอน
    • เลิกจ้าง/กลั่นแกล้ง จำคุก ≤ 3 ปี หรือปรับ ≤ 30 ล้านวอน

ญี่ปุ่น

  • ลาได้ 93 วันต่อคน (แบ่งลาได้ 3 ครั้ง)

  • ครอบคลุมถึง คู่สมรส (รวมถึงทางพฤตินัย) พ่อแม่ บุตร ปู่ย่าตายาย พี่น้อง หลาน ฯลฯ

  • ค่าจ้าง เป็นการตกลงกับนายจ้าง มีการประกันการจ้างงาน 67%

  • คุ้มครองลูกจ้าง โดย ห้ามเลิกจ้างหรือเอาเปรียบ

“สิทธิ์ขอลาไปดูแลคนในครอบครัวในวาระสุดท้าย คงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากใช้ เพราะแปลว่าเขากำลังเสียคนที่รัก แต่สิทธิ์นี้จะเป็นตาข่ายรองรับให้พวกเขา และลดปัญหาในที่ทำงาน ทำให้สบายใจทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง”

วรรณวิภา ไม้สน

สำหรับการเสนอแก้ไขกฎหมายแรงงานในวาระนี้ ที่ประชุมสภาฯ ก็มติรับหลักการ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 328 เสียง จากจำนวนผู้ลงมติ 334 เสียง

โดยให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขึ้นมาพิจารณา 39 คน เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.นี้มีสาระเกี่ยวกับสตรี กำหนดให้ตั้ง กมธ.วิสามัญจากบุคคลดังกล่าว หรือผู้แทนองค์กรเอกชนที่เกี่ยวกับสตรีโดยตรง จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของ กมธ.ทั้งหมด คือ จำนวน 13 คน และกำหนดแปรญัตติ 15 วัน

ขณะที่ เซีย จำปาทอง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ย้ำว่า นี่คือกฏหมายเปลี่ยนชีวิตคนทำงาน ซึ่งตนเองในฐานะอดีตผู้ใช้แรงงาน รู้สึกยินดีที่ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ถูกนำกลับมาพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง หลังจากร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับ “ทำงาน พักผ่อน ใช้ชีวิต” ถูกตีตกไป ซึ่งในการพิจารณาหนนั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บอกว่าร่างของพรรคก้าวไกล (ขณะนั้น) สุดโต่งเกินไป

ทั้งที่กฎหมายฉบับดังกล่าว เป็นการยืนยันสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ควรได้รับ แม้จะถูกตีตกไป แต่เครือข่ายผู้ใช้แรงงานพรรคประชาชน รวมถึงเพื่อนสมาชิกพรรคประชาชน ขอให้มีการนำร่างฉบับ “เปลี่ยนชีวิตคนทำงาน” กลับไปปรับปรุง และนำกลับมายื่นเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร อีกครั้ง โดยได้จัดแบ่งเนื้อหาออกมาเป็น 3 ฉบับ มีเหตุผลประกอบร่างใกล้เคียงกัน ได้แก่

  1. ร่างฉบับ “มีความมั่นคงในการทำงาน” รับผิดชอบโดย เซีย จำปาทอง

  2. ร่างฉบับ “มีเวลาพักผ่อน” เสนอโดย จรัส คุ้มไข่น้ำ

  3. ร่างฉบับ “มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” เสนอโดย วรรณวิภา ไม้สน

วันนี้มี 2 ใน 3 ฉบับที่กล่าวมาเข้าสู่การพิจารณา ยกเว้นเพียงฉบับ “มีความมั่นคงในการทำงาน” ที่ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ ท้วงว่าเป็นร่างการเงิน ทำให้จำเป็นต้องถอนร่างฯ มาปรับเนื้อหาบางส่วน และได้ยื่นใหม่เข้าสภาฯ ไป

เซีย ยังยืนยันว่า สิ่งที่พี่น้องคนทำงานได้นำเสนอมา และพลังที่ผู้เกี่ยวข้องทุ่มเทไป เพราะต้องการเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนทำงานในประเทศนี้ดีขึ้น ผ่านการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองแรงงาน ที่นำเสนอโดยพรรคประชาชน โดยกฎหมายคุ้มครองแรงงานทั้ง 2 ฉบับ คือการยกระดับสิทธิขั้นพื้นฐานของคนทำงาน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เหมือนอย่างนานาอารยประเทศ

“กำแพงเมืองที่ยิ่งใหญ่ถูกสร้างด้วยหยาดเหงื่อแรงงานฉันใด อนาคตที่มั่นคงของชาติก็ถูกสร้างด้วยศักดิ์ศรีของคนทำงานฉันนั้น ทุกประเด็นล้วนมีความสำคัญต่อแรงงาน หรือคนทำงานทั้งสิ้น เพื่อให้สังคมมองเห็นคุณค่าคนทำงานที่มากไปกว่าฟันเฟืองแห่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่คือมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรี มีสิทธิใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ”

เซีย จำปาทอง

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active