วุ่นนับองค์ประชุม พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ วาระ 2 ไม่จบสักที ‘พรรคประชาชน’ จี้ สส.เข้าประชุม ร่วมดันกฎหมายนี้ผ่านไปพร้อมกัน
วันนี้ (25 ก.ย. 68) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. (พ.ร.บ.อากาศสะอาด) ซึ่งพิจารณาในวาระที่ 2 ต่อจากเมื่อวานนี้ ที่พิจารณากันถึงมาตรา 9/7 หมวด 2
บรรยากาศในที่ประชุมสภาฯ วันนี้ พบว่า นับตั้งแต่เวลาประมาณ 11.06 น. ซึ่งเข้าวาระการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ค่อนข้างใช้เวลาไปกับการแสดงตนของสมาชิกสภาฯ จนต่อมามีสมาชิกเสนอให้พักการประชุมไปก่อน
เมื่อกลับเข้าสู่การประชุมจึงเสนอให้นำประเด็น ถนนสามเสนทรุดตัวลงเป็นหลุ่มขนาดใหญ่ ขึ้นมาหารือก่อน เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนได้รับผลกระทบ
ไชยา พรมมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เสนอว่า การพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ วันนี้ จะพิจารณาถึง มาตรา 23/8 ส่วนที่เหลือจะบรรจุเข้าวาระการประชุมในครั้งถัดไป เพื่อให้สามารถใช้เวลาในการหารือแนวทางแก้ไขปัญหาถนนสามเสนได้ อย่างไรก็ตามก่อนที่จะได้ข้อสรุป สส.ได้ยกมือขออภิปรายถึงการพิจารณากฎหมายหลายคนดังนี้
ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.พรรคประชาชน และในฐานะ กมธ.อากาศสะอาศ บอกว่า ไม่อยากเปรียบเทียบว่ากฎหมายอากาศสะอาดฯ หรือ ถนนทรุด อะไรสำคัญกว่ากัน แต่เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถนำคนเข้ามาประชุมได้เท่านั้นเอง
“ขอฝากไปยัง ประธาน กมธ. ที่ทำงานหนักมากับพวกเราทุกคน ตลอด 1 ปี 8 เดือน ผ่านทางประธานสภาฯ ว่าท่านสามารถที่จะบอกกับพรรคเพื่อไทยได้ไหมครับ ให้เข้าประชุม คือตอนนี้ปัญหาไม่ใช่ว่าการอภิปรายร่างฯ นี้ใช้เวลานาน เราไม่ได้ถกเถียงในรายมาตรา แต่ว่าแต่ละมาตราจับเวลา ไม่มีการอภิปรายใด ๆ ใช้เวลาแสดงตน 3-8 นาที ต่อมาตรา”
ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตนอยู่มาตั้งแต่เมื่อวาน พยายามจะเอาให้สุด ให้กฎหมายผ่าน เพราะเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญต่อพี่น้องประชาชน วันนี้ก็นั่งอยู่ที่นี่ และกดให้ทุกครั้ง จึงต้องมองว่าเรามีความอดทนที่บอกว่า ให้ทุกคนช่วยกันกดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้เป็นองค์ประชุม เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ผ่าน
“ผมพยายามตามหลายท่าน อย่าง กมธ.อสม.จะเอาให้จบวันนี้ เขาต้องโหวตกัน กฎหมายนิรโทษ หรือเสริมสร้างสันติสุขก็จะโหวตกันขณะนี้ ผมพยายามตามทุกคน ตอนเราเป็นฝ่ายรัฐบาลก็อย่างนี้ เกินทีละ 5 เสียง 7 เสียง ก็ต่อว่าแต่ สส.รัฐบาลไม่มา ขี้เกียจ สันหลังยาว ผมไม่เคยแตะฝ่ายค้าน ไม่เคยพูดสักคำเป็นหน้าที่และต้องรับผิดชอบในองค์ประชุม และตำหนิพวกเดียวกัน”
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้เสนอเข้ามา 7 ร่าง ร่างหลักเป็นของรัฐบบาลที่ลงนามโดย อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทยโดย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ก็เสนอร่างฉบับนี้ ท่านประธานก็เคยเป็น สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย 140 คน จากพรรคเพื่อไทย มีเพียง 42 คนที่อยู่ในองค์ประชุมรวมประธานสภาฯ
“ลุกขึ้นมาพูดสิครับ ว่านี่เป็นการแบกองค์ประชุมของรัฐบาล ลุกขึ้นมาพูดสิครับ เอาให้ชัด ๆ ให้ประชาชนรู้ไปเลย ว่าพรรคเพื่อไทยไม่รับผิดชอบ พ.ร.บ.อากาศสะอาด อีกแล้ว ผมจะไปคุยกับพรรคอื่นให้มาเป็นองค์ประชุมให้เองครับ”
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล
ทางด้าน จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ กล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ว่านี่คือกฎหมายของใครที่จะทวงคืนอากาศบริสุทธ์ให้คนไทย อยากให้แยกประเด็นพรรคการเมือง บรรยากาศการเมือง ขอวิงวอนในฐานะประชาชนคนไทย พวกท่านคือผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติ มีศักดิ์ มีสิทธิ์ มีเสียง ในการผ่านกฎหมายนี้ไปสู่การบังคับใช้ เพื่อทวงคืนอากาศบริสุทธิ์
“ผมเองยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และทำงานเต็มที่เพื่อพ่อแม่พี่น้อง อยากให้แยกประเด็น ขอความร่วมมือ ขอความเห็นใจ เพราะกฎหมายฉบับนี้เราทำงานมา 1 ปี 8 เดือน เราต่อสู่ ผลักดัน เป็นสิ่งที่เราพยายามกลั่นให้มีความครบถ้วน ทำให้กฎหมายต้องโหวตแบบรายมาตรา ชวนมาร่วมกันทำให้กฎหมายนี้ผ่านร่วมกัน เพื่อประโยชน์สูงสุด”
จักรพล ตั้งสุทธิธรรม
จักรพล บอกด้วยว่า หากเวลานี้มีวาระที่สำคัญเร่งด่วน ทาง กมธ. เห็นว่า ถ้าไม่เลื่อนอีกในวันพุธถัดไป ก็จะพิจารณาต่อ ทาง กมธ. ก็สามารถรับได้
อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้ประคององค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งมาได้อย่างทุลักทุเล และเมื่อเวลา 15.45 น. ที่ประชุมพิจารณาถึงมาตรา 22 ซึ่งพบว่ามี สส. ร่วมลงมติด้วยการกดบัตร 245 คน และขานการลงคะแนน 1 คน ผลคือ เห็นด้วย 245 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ทำให้ถูก สส.พรรคประชาชน ทักท้วงให้ตรวจสอบ กระทั่งมีการตรวจสอบผ่านการย้อนดูเทปบันทึกภาพการประชุม พบว่า มี สส. ลงคะแนนเพิ่มเติมด้วยวาจา เห็นด้วย แต่ปรากฎว่าใช้สิทธิออกเสียงแล้ว คือ หมายเลข 68 เป็นอันว่าที่ประชุมไม่ครบองค์ประชุมในมาตรา 22 ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่สอง จึงขอปิดการประชุม
