ธงรุ้ง 878 อำเภอทั่วไทย พร้อม Kick Off ‘สมรสเท่าเทียม’ 23 ม.ค.นี้

ครม.ไฟเขียวกฎกระทรวง กต. แก้ไขเพิ่มเติมกฎระเบียบ ลดเอกสาร ปรับถ้อยคำให้สอดคล้องสมรสเท่าเทียม

เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 68 สหประประชาชาติในประเทศไทย (United Nations Country Team in Thailand) พร้อมด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จัดกิจกรรม Kick Off แสดงความพร้อมเชิงสัญลักษณ์ มอบธงแห่งความรักทั่วไทย เพื่อแสดงความพร้อมของกรมการปกครองในการให้บริการประชาชนบนหลักการความเสมอภาค และเท่าเทียม  ภายใต้แนวคิด “สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality : Love Wins in 878 Districts)” รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 (กฎหมายสมรสเท่าเทียม )

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

อนุทิน ยืนยันความพร้อมของกระทรวงมหาดไทยในการให้บริการประชาชนตามกฎหมายสมรสเท่าเทียม พร้อมมอบธงสัญลักษณ์ให้กับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด พร้อมย้ำว่า การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างกระทรวงมหาดไทย และสหประชาชาติประเทศไทย เป็นพลังที่สำคัญซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างสหประชาชาติ และรัฐบาลไทยในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งประเทศไทยให้ความสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนในการให้บริการสาธารณะให้กับประชาชน โดยเฉพาะในการดำเนินการตามกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งรับรองสิทธิในการสมรสสำหรับทุกคู่รัก ซึ่งวันนี้ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อโอบรับความเท่าเทียมและยอมรับความรักในรูปแบบที่หลากหลาย

“กระทรวงมหาดไทย และกรมการปกครอง ภูมิใจที่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการนี้ในฐานะนายทะเบียนกลาง เราขอยืนยันความมุ่งมั่นของเราในการให้บริการจดทะเบียนสมรสอย่างราบรื่น และถูกต้องตามกฎหมายสำหรับทุกคู่รัก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในระเบียบและระบบที่ให้คุณค่าแก่ความหลากหลายและเคารพศักดิ์ศรีของประชาชน”

อนุทิน ชาญวีรกูล 

ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง บอกว่า กรมการปกครองในฐานะนายทะเบียนกลาง ได้เตรียมความพร้อมให้กับสำนักทะเบียนอำเภอ 878 แห่ง สำนักทะเบียนเขต กทม. 50 เขต และสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ 94 แห่ง เพื่อสอดคล้องกับ พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 23 ม.ค. 68 รวม 4 ด้าน คือ

  • ด้านระเบียบ โดยได้ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2568 เพื่อรองรับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลเพศหลากหลาย ทำให้คู่รักสามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิ หน้าที่ และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลทั้งสองฝ่าย

  • ด้านระบบ โดยได้มีการแก้ไขระบบทะเบียนสมรสและทะเบียนหย่า และมีการทดสอบระบบเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจัดเตรียมผลิตแบบพิมพ์ ใบสำคัญการสมรส (คร.3) และใบสำคัญการหย่า (คร.7) เพื่อรองรับการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น

  • ด้านบุคลากร โดยได้จัดทำชุดความรู้และอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การปรับกรอบความคิดในการให้บริการประชาชน และการบริการที่เป็นสากลบนหลักความเสมอภาคและเท่าเทียม คำนึงถึงมารยาทสากลและหลักสิทธิมนุษยชน

  • ด้านการจัดกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม Kick Off ในวันนี้ และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่จะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ณ ที่ว่าการอำเภอ ทั้ง 878 แห่ง ในวันที่ 23 ม.ค. 68 ซึ่งเป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับทุกความรักตามแนวคิด “กรมการปกครองยินดีเป็นนายทะเบียนให้กับทุกความรัก”

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง โทร 1548 หรือที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขต ทุกแห่งทั่วประเทศ

ขณะที่ ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการต่างประเทศ ออกตามความในพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัวพุทธศักราช 2478 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการต่างประเทศออกตามความในพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัวพุทธศักราช 2478 ดังนี้

  • ปรับปรุงแบบคำร้องของขอจดทะเบียน จากเดิมคำร้อง 5 ฉบับ ประกอบด้วย 1) คำร้องขอจดทะเบียนสมรส 2) คำร้องขอจดทะเบียนการหย่า 3) คำร้องขอจดทะเบียนการรับรองบุตร 4) คำร้องขอจดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรม และ 5) คำร้องขอจดทะเบียนเลิกการรับบุตรบุญธรรม) ให้รวมเป็นคำร้องขอจดทะเบียนเพียงฉบับเดียว

  • ปรับปรุงถ้อยคำในแบบคำร้องเป็นไม่ระบุเพศ เพื่อรองรับให้บุคคลเพศหลากหลายสามารถหมั้นและสมรสกันได้ มีสิทธิหน้าที่และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายหญิง เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567

  • ปรับปรุงวิธีการจดทะเบียนของนายทะเบียนประจำสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศ โดยกำหนดให้นายทะเบียนส่งข้อมูลการจดทะเบียนและการบันทึกข้อมูลให้สำนักทะเบียนกลางผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์เพื่อจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลการทะเบียน

  • ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมการขอคัดสำเนาทะเบียนให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน โดยกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการขอคัดสำเนาทะเบียนและมีการรับรองสำเนาทะเบียน ฉบับละ 300 บาท (เดิม ฉบับละ 2 บาท) และการขอทราบข้อมูลจากทะเบียนของสำนักทะเบียนกลาง รายละ 300 บาท (เดิม รายละ 4 บาท) ทั้งนี้ ตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ สถานที่และเวลาที่ใช้เงิน

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active