แม้มติ อปสข. เขต 13 เห็นชอบ ‘นพรัตน์โมเดล’ แยกงบฯ บัตรทอง กทม. บริหารแบบโซนพื้นที่ รอ ปลัด สธ. เซ็นเริ่ม 1 พ.ย. นี้ แต่ ‘นายกสมาคมคลินิกชุมชนอบอุ่น’ เผย อาจสะดุด หลัง รพ.นพรัตนราชธานี ย้ำ ยังไม่พร้อม ทำโมเดลชะงัก
ตามที่รายการ Flash Talk EP.77 “งบไม่มา… แต่ผู้ป่วยยังรอ” (22 ต.ค. 68) นำเสนอแนวคิด นพรัตน์โมเดล จากตัวแทนคลินิกชุมชนอบอุ่น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาใบส่งตัวนั้น
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 68 ที่ประชุมคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขต (อปสข.) เขต 13 มีมติเห็นชอบแนวทางดำเนินงานตาม นพรัตน์โมเดล เพื่อแก้ปัญหาการจัดสรรงบประมาณระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยแยกงบประมาณการบริหารระหว่างหน่วยบริการออกจากกันอย่างชัดเจน และบริหารจัดการในรูปแบบ โซนพื้นที่ คล้ายระบบ CUP (เครือข่ายบริการสุขภาพระดับอำเภอ) ของต่างจังหวัด ซึ่งมีโรงพยาบาลประจำโซนดูแลประชาชนในเขตพื้นที่อย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ อปสข. เขต 13 มีมติให้เริ่มดำเนินการตามนพรัตน์โมเดล ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งลงนามจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี อยู่ในสังกัดกรมการแพทย์
ล่าสุด วันนี้ (29 ต.ค. 68) พญ.นันทวัน ชอุ่มทอง นายกสมาคมคลินิกชุมชนอบอุ่น เปิดเผยกับ The Active ว่า นพรัตน์โมเดล เกิดจากการหารือระหว่างโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และเครือข่ายคลินิกฯ ในพื้นที่เขตมีนบุรีกว่า 30 แห่ง เพื่อหาทางออกจากปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับภาระงานจริง
แนวทางดังกล่าวคือ การแยกงบค่ารักษาออกจากงบค่าการส่งต่อผู้ป่วย โดยให้โรงพยาบาลเป็นผู้บริหารงบส่งต่อและการดูแลผู้ป่วยระดับทุติยภูมิ ส่วนคลินิกชุมชนอบอุ่นจะเน้นบริการปฐมภูมิและป้องกันโรคในพื้นที่ของตน
“ถ้าแยกงบฯ แบบนี้ได้จริง ประชาชนจะได้ประโยชน์ เพราะไม่ต้องเดินทางไกลเมื่อเจ็บป่วย คนไข้ในแต่ละเขตจะเข้ารับบริการในโซนของตน ส่วนคลินิกก็ไม่ต้องเสียเวลาเรื่องใบส่งตัว ทำให้ดูแลผู้ป่วยได้มีประสิทธิภาพขึ้น”
พญ.นันทวัน ชอุ่มทอง

แผนเริ่ม 1 พ.ย. นี้ อาจสะดุด! เหตุยังไม่เคลียร์งบประมาณ
อย่างไรก็ตาม แม้ที่ประชุม อปสข. เขต 13 จะมีมติให้เริ่มใช้นพรัตน์โมเดล ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 แต่ พญ.นันทวัน เผยว่า การดำเนินการอาจไม่ทันตามกำหนด เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องงบประมาณ
“โรงพยาบาลนพรัตนฯ คำนวณไว้แล้วว่าสามารถบริหารงบฯ ได้ หากได้รับการจัดสรรเต็มตามที่ สปสช. เคยอนุมัติ แต่ล่าสุดกลับถูกแจ้งว่าจะจ่ายไม่ครบ ทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถดำเนินการได้ และโมเดลต้องชะงัก”
พญ.นันทวัน ชอุ่มทอง
นายกสมาคมคลินิกชุมชนอบอุ่น ระบุว่า หากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามพร้อมอนุมัติงบฯ ตามกรอบเดิมที่โรงพยาบาลนพรัตนฯ เสนอไว้ ก็ยังสามารถเริ่มต้นโครงการได้ภายในกำหนด แต่หากล่าช้ากว่านี้ โอกาสที่จะเกิดขึ้นจริงในปีนี้อาจเลื่อนออกไป
มอง ‘นพรัตน์โมเดล’ ความหวังใหม่ระบบบัตรทอง กทม.
พญ.นันทวัน บอกด้วยว่า นพรัตน์โมเดล เป็นโอกาสในการปฏิรูประบบบัตรทองในกรุงเทพฯ ให้มีความชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรมมากขึ้น โดยใช้กลไกโซนพื้นที่ดูแลผู้ป่วยตามภูมิลำเนา ลดภาระการเดินทาง และทำให้งบประมาณกระจายตรงถึงหน่วยบริการจริง
“ถ้าทำได้ตามแผน จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบบัตรทองในกรุงเทพฯ โรงพยาบาลดูแลเรื่องส่งต่อ ส่วนคลินิกมุ่งรักษาและป้องกันโรคในชุมชน ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ยั่งยืนและตรงกับความต้องการของประชาชน”
พญ.นันทวัน ชอุ่มทอง
รพ.นพรัตนราชธานี รับยังไม่พร้อมจะเริ่มดำเนินการ
โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศ ระบุ มุ่งเน้นให้บริการการแพทย์ขั้นสูงและทั่วไปแก่ประชาชนในเขตสุขภาพที่ 13 โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้านตะวันออก ครอบคลุมประชาชนบัตรทองของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในเครือข่ายส่งต่อมากกว่า 340,000คน ที่ผ่านมาช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่ถูกยกเลิกสิทธิบัตรทองจากคลินิกและโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ ทำให้มีภาระงานบริการจำนวนมาก โดยไม่สามารถเพิ่มอัตรากำลังบุคลากร โดยเฉพาะแพทย์และพยาบาลได้อย่างเหมาะสม
เมื่อ สปสช. คลินิกเครือข่ายและโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ได้หารือร่วมกัน เพื่อทำให้ระบบบริการของพื้นที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุด จึงมีความเห็นจะทดลองการทำนพรัตน์โมเดลขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่าย เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและเป็นการช่วยลดภาระการขาดทุนจากการให้บริการบัตรทองของโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
ขณะนี้กำลังศึกษาข้อมูลและเตรียมพร้อมระบบให้ดีที่สุดก่อน โดยยังไม่พร้อมจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 นี้

พญ.นันทวัน ยังบอกถึงสาเหตุที่เครือข่ายคลินิกฯ ในกรุงเทพฯ ต้องออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากระบบบริหารงบฯ บัตรทองของ สปสช. ที่มีการ หักคะแนน หรือหักงบประมาณปลายปี โดยไม่จ่ายค่าบริการเต็มจำนวนตามที่หน่วยบริการดำเนินงานจริง
“คลินิกชุมชนอบอุ่นถูกหักงบฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2566 ขณะที่โรงพยาบาลถูกหักในปี 2567 หมายความว่าคลินิกถูกหักติดต่อกัน 2 ปีแล้ว ปี 2566 ได้รับเงินคืนเพียง 57% ส่วนปี 2567 เหลือเพียง 51% ทำงานทั้งปีแต่ได้ครึ่งเดียว”
พญ.นันทวัน ชอุ่มทอง
พร้อมทั้งกล่าวว่า ปัญหานี้ยิ่งกระทบต่อคลินิกเอกชนในกรุงเทพฯ เพราะไม่มีงบฯ สนับสนุนจากภาครัฐเหมือนโรงพยาบาลของรัฐ ทำให้หลายแห่งต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเอง ส่งผลให้คลินิกกว่า 55 แห่งทยอยลาออกจากระบบบัตรทองภายใน 2 ปีที่ผ่านมา (30 แห่งในปี 2567 และอีก 25 แห่งในปี 2568)
“คลินิกเอกชนใน กทม.กว่า 300 แห่งต้องสำรองเงินเองทั้งปี แต่ปลายปีถูกแจ้งว่ามีงบไม่พอ จ่ายได้ครึ่งเดียว คลินิกจำนวนมากอยู่ไม่ได้ ต้องถอนตัวออกจากระบบ”
นายกสมาคมคลินิกชุมชนอบอุ่น ระบุ
