ยืนยัน แม้สาระสำคัญ ไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังหวังปรับปรุงแก้ไขได้ในชั้นกรรมาธิการ วุฒิสภา ย้ำหลักการ ‘พื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์’ ยังอยู่ เดินหน้าสร้างทัศนคติเชิงบวก แก้ปัญหา คุ้มครอง ส่งเสริม ชาติพันธุ์อย่างเต็มที่
ตามที่ สภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. ….ไปเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 และเตรียมส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไปนั้น
วันนี้ (7 ก.พ. 68) ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) หรือ ศมส. โพสต์ระบุว่า จากการที่ ศมส. ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม และภาคีเครือข่ายผลักดันร่างกฎหมายฯ พร้อมทั้งได้ติดตามกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้มาอย่างต่อเนื่อง และใกล้ชิด มุ่งหวังให้กลุ่มชาติพันธุ์ได้แสดงศักยภาพทางวัฒนธรรม ที่เป็นพลังสร้างสรรค์ของสังคมไทย
จึงเข้าใจถึงความรู้สึกของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้ร่วมกันผลักดันกฎหมายฉบับนี้ร่วมกันมาโดยตลอด แม้สาระสำคัญบางประการของกฎหมายฉบับนี้ จะไม่ผ่านการพิจารณาในชั้นสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังสามารถปรับปรุงได้ในชั้นกรรมาธิการวุฒิสภา และการพิจารณาร่วมของรัฐสภา ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม และ ศมส. ยังคงพร้อมผลักดันประเด็นนี้ต่อไป และขอยืนยันว่า แนวทางการส่งเสริมสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังคงมีนโยบายและมาตรการอื่น ๆ ที่สามารถช่วยส่งเสริมวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ร่างกฎหมายชาติพันธุ์ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ได้รับการยอมรับตัวตน และการมีอยู่ในสังคมไทย เป็นโอกาสให้กลุ่มชาติพันธุ์ได้แสดงศักยภาพทางวัฒนธรรมเป็นพลังสร้างสรรค์ประเทศ ที่สำคัญมากกว่านั้น กฎหมายฉบับนี้ทำให้เกิดกลไกเชิงนโยบายที่เป็นรูปธรรมชัดเจนในการเข้ามาดูแลพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์โดยตรง ทำให้การคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์มีแนวทางที่ชัดเจน และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มวัฒนธรรม
นอกจากนี้ยังมีกลไกการมีส่วนร่วมของกลุ่มชาติพันธุ์ในการนำเสนอปัญหาและร่วมกันหาทางออก ในรูปแบบของการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ที่เป็นเวทีให้ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ได้มาหารือร่วมกันเพื่อพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย
ในส่วนของ พื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม และ ศมส. ตระหนักดีว่า เป็นความต้องการของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ แม้ผลการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรจะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ทุกคนร่วมกันผลักดัน แต่หลักการของการกำหนดพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ยังคงอยู่ในกฎหมายฉบับนี้ ทั้งหลักการเรื่องการจัดการพื้นที่แบบมีส่วนร่วม และการเคารพในหลักสิทธิชุมชน ในเรื่องนี้กระทรวงวัฒนธรรม และศมส. จะร่วมผลักดันต่อไปในเชิงนโยบาย ผ่านคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อให้เกิดมาตรการในการแก้ไขปัญหาต่อไป
“ยืนยันว่าจะทำงานร่วมกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ให้เข้าถึง และใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สังคมไทยเข้าใจวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ และสร้างทัศนคติเชิงบวกของสังคมที่มีต่อกลุ่มชาติพันธุ์ และผลักดันให้การแก้ไขปัญหาของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์มีกลไกที่ชัดเจนและเป็นเอกภาพ โดยบูรณาการกับหลายภาคส่วน เพื่อคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์อย่างมีประสิทธิภาพ”